ทีมนักวิทยาศาสตร์ของนาซาเปิดเผยการค้นพบ ระบบดาวเคราะห์นอกสุริยจักรวาล ซึ่งประกอบด้วยดาวเคราะห์ขนาดใกล้เคียงโลกถึง 7 ดวง โคจรรอบดาวฤกษ์ดวงเดียวกัน และอาจสภาพเหมาะสมแก่การมีสิ่งมีชีวิตด้วย…
ทีมนักวิทยาศาสตร์ของสถานีกล้องโทรทรรศน์อวกาศ ‘สปิตเซอร์’ ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซา เปิดเผยในวันพุธที่ 22 ก.พ. ว่า พวกเขาค้นพบระบบดาวเคราะห์แห่งแรกที่มีดาวเคราะห์ขนาดใกล้เคียงกับโลกของเราถึง 7 ดวง โคจรรอบดาวฤกษ์เพียงดวงเดียว
นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ดาวเคราะห์นอกระบบสุริยจักรวาลของเราทั้ง 7 ดวงล้วนมีโอกาสมีน้ำเหลวอยู่บนดาวหากมีสภาพชั้นบรรยากาศที่เหมาะสม อย่างไรตามดาวเคราะห์ 3 จาก 7 ดวงนี้ ได้รับการยืนยันว่าอยู่ใน เขตอาศัยได้ (habitable zone) หรือพื้นที่รอบดาวฤกษ์ในระยะที่เหมาะสม ซึ่งดาวเคราะห์ที่อยู่ในพื้นที่นี้มีโอกาสที่จะมีน้ำเหลวอยู่บนดาวมากที่สุด ซึ่งเมื่อมีน้ำก็อาจมีสิ่งมีชีวิต
“การค้นพบครั้งนี้อาจเป็นชิ้นส่วนสำคัญในปริศนาของการค้นหาสภาพแวดล้อมที่สิ่งมีชีวิตสามารถอาศัยอยู่ได้ สถานที่ซึ่งทำให้เกิดชีวิต” นายโธมัส เซอร์บูเชน รองผู้บริหารกรมภารกิจวิทยาศาสตร์ (Science Mission Directorate) ของนาซา ในกรุงวอชิงตันกล่าว “การตอบคำถามว่าที่ว่า ‘เราอยู่อย่างเดียวดาวในอวกาศ’ เป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของวิทยาศาสตร์ และการพบดาวเคราะห์จำนวนมากในเขตอาศัยได้เป็นครั้งแรกเช่นนี้ เป็นการก้าวสำคัญเพื่อไปสู่เป้าหมายนั้น”
ระบบดาวเคราะห์ดังกล่าวมีชื่อว่า ‘แทรพพิสต์-1’ (TRAPPIST-1) มาจากชื่อกล้องโทรทรรศน์ ‘Transiting Planets and Planetesimals Small Telescope’ ในประเทศชิลี ซึ่งค้นพบระบบดาวเคราะห์นี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2016 โดยในตอนนั้นพบดาวเคราะห์เพียง 3 ดวง ก่อนที่สถานีกล้องโทรทรรศน์ภาคพื้นหลายแห่งรวมทั้ง สปิตเซอร์ จะยืนยันการมีอยู่ของดาวเคราะห์ 2 ใน 3 ดวงนี้ และค้นพบดาวเพิ่มอีก 5 ดวง รวมเป็น 7 ดวง โดยระบบ แทรพพิสต์-1 อยู่ห่างจากโลกเป็นระยะทางประมาณ 40 ปีแสง หรือราว 378 ล้านล้านกิโลเมตร
การค้นพบครั้งนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร เนเจอร์ (Nature) ในวันพุธ และนาซาจัดงานแถลงข่าวในวันเกียวกันที่กรุงวอชิงตัน
ด้วยการใช้ข้อมูลของกล้อง สปิตเซอร์ ทำให้ทีมนักวิทยาศาสตร์สามารถวัดขนาดของดาวเคราะห์นอกระบบทั้ง 7 ดวงได้อย่างแม่นยำ และสามารถประเมินมวลของดาวเคราะห์ 6 ใน 7 ดวงได้เป็นครั้งแรก พวกเขาจึงสามารถคำนวณความหนาแน่นของพวกมันได้ ซึ่งความหนาแน่นที่วิเคราะห์ออกมาชี้ว่าดาวเคราะห์ทั้ง 6 น่าจะเป็นดาวเคราะห์หิน ส่วนดาวเคราะห์ดวงที่ 7 นักวิทยาศาสตร์ยังประเมินมวลไม่ได้ทำให้พวกเขาเชื่อว่ามันอาจมีสภาพคล้ายก่อนหิมะ และการสังเกตการณ์เพิ่มเติมหลังจากนี้จะไม่เพียงช่วยให้รู้ว่าพวกมันมีน้ำหรือไม่ แต่ยังมีโอกาสเปิดเผยว่าพวกมันมีนำ้เหลวอยู่บนผิวดาวหรือไม่ด้วย
ส่วนดาวฤกษ์ของระบบ แทรพพิสต์-1 หรือดาวฤกษ์ แทรพพิสต์-1 มีขนาดใกล้เคียงดาวพฤหัสบดี แต่มีลักษณะตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ คือถูกจัดอยู่ในประเภทดาวฤกษ์ที่เย็นมาก (ultra-cool dwarf) ซึ่งเย็นขนาดที่ดาวเคราะห์ที่โคจรใกล้มันมากๆ ก็อาจมีน้ำเหลวอยู่บนผิวดาว ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในระบบสุริยะของเรา โดยดาวเคราะห์ที่พบทั้ง 7 ดวงโคจรอยู่ใกล้ดาวฤกษ์ดวงนี้มากกว่าระยะห่างระหว่างดาวพุธกับดวงอาทิตย์เสียอีก และอยู่ใกล้กันและกันมากด้วยขนาดที่ หากไปยืนบนดาวดวงหนึ่ง ก็สามารถเห็นสภาพธรณีวิทยาหรือเมฆของดาวอีกดวงได้เลย
ดาวเคราะห์ในระบบ แทรพพิสต์-1 ยังหันหน้าเพียงด้านเดียวเข้าหาดาวฤกษ์ หมายความว่าพื้นที่ของดาวจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนตลอดไปไม่มีการเปลี่ยนแปลง และอาจมีสภาพอากาศแตกต่างจากโลกของเราด้วย เช่นลมพัดแรงจากแผ่นดินฝั่งกลางวันไปยังฝั่งกลางคืน หรือมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างรุนแรง
อ. เอกpitak228 อีกดวงอยู่ไทยคัพ ธรรมกาย 555
23 ก.พ. 2560 เวลา 00.37 น.
Montri เค้าไปไกลมากแล้ว ส่วนประเทศเรายังทำเครื่องบินรบ ใช้เองไม่ได้เลย
23 ก.พ. 2560 เวลา 00.50 น.
ไปดาวดวงใหม่กันครับ
23 ก.พ. 2560 เวลา 00.31 น.
อยากไปอยู่นอกโลกๆ 🙌🙌🙌
23 ก.พ. 2560 เวลา 00.24 น.
in ไม่ตายแล้วถ้าโลกแตก55
23 ก.พ. 2560 เวลา 00.51 น.
ดูทั้งหมด