ขับขยี้นายช่างโยธา ยันราวตากผ้าปมดับ
ตำรวจล่าเพื่อนบ้านโหดขับรถเก๋งพุ่งชนนายช่างโยธา กรมทางหลวงชนบท เสียชีวิตขณะยืนรดนํ้าต้นไม้หน้าบ้าน ชุดสืบสวนตามแกะรอยกล้องวงจรปิด และบ้านญาติคนใกล้ชิด แต่ยังไม่พบร่องรอย ด้านประธานหมู่บ้านเผยทั้งคู่ มีบ้านติดกัน และมีเรื่องกระทบกระทั่งวางของกีดขวางหน้าบ้านกันตลอด พยายามหาทางให้พูดคุยเคลียร์ปัญหากัน แต่ยังไม่มีโอกาส ขณะที่เมียร่ำไห้รับศพสามีกลับมาบำเพ็ญกุศล ยืนยันไม่อโหสิกรรมให้เด็ดขาด
กรณีนายไพบูลย์ ส่างสาร อายุ 56 ปี ขับรถเก๋งพุ่งชนนายสุพรรณ์ ญาติบรรทุง อายุ 57 ปี เพื่อนบ้าน ทำงานเป็นนายช่างโยธาชำนาญงาน กรมทางหลวงชนบท เสียชีวิตขณะยืนรดน้ำต้นไม้หน้าบ้านเลขที่ 199/336 หมู่บ้านกรุงศรีซิตี้ ซอย 6 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนขับรถไปจอดทิ้งสนามฟุตบอลห่างจากจุดเกิดเหตุไป 3 กม.แล้วนั่งรถ จยย.รับจ้างหลบหนี เหตุเกิดช่วงสายวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุเบื้องต้นพบว่าทั้งคู่มีปากเสียงกันเรื่องราวตากผ้าขวางหน้าบ้าน
ต่อมาวันที่ 26 ม.ค. พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา สั่งชุดสืบสวนเร่งติดตามจับกุมนายไพบูลย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เลขที่ 17/63 วันที่ 25 ม.ค.63 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลังมีข่าวนายไพบูลย์จะเข้ามอบตัว แต่ไม่มีการติดต่อพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด ชุดสืบสวนตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดที่สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง ท่ารถตู้ และสถานที่ที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีไปทั้งที่บ้านญาติและบุคคล ใกล้ชิด แต่ยังไม่พบตัว
พันจ่าอากาศเอกสงคราม ศุภศรี ประธานชุมชนหมู่บ้านกรุงศรีซิตี้เปิดเผยว่า นายสุพรรณ์ ผู้เสียชีวิต เคยเป็นคณะกรรมการหมู่บ้านแต่ลาออกไประยะหนึ่งแล้ว นายไพบูลย์ผู้ก่อเหตุกับผู้ตายมีบ้านติดกันและอยู่กันมานานหลายสิบปี ทั้งสองมักมีปัญหาขัดแย้งกันในเรื่องการตั้งวางสิ่งของ จอดรถขวางทาง วันเกิดเหตุบ้านผู้เสียชีวิตตั้งราวตากผ้าหน้าบ้าน สร้างความไม่พอใจให้กับนายไพบูลย์ เพราะเวลาถอยรถไม่สะดวก มีการต่อว่ากัน กระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ที่ผ่านมาเคยคิดให้ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกัน แต่ยังไม่มีโอกาส ในฐานะเป็นประธานหมู่บ้านรู้สึกเสียใจ เพราะอยากให้ลูกบ้านทุกคนรักใคร่ปรองดองกัน
เย็นวันเดียวกัน นางปานกมล รัศมี อายุ 44 ปี ภรรยาผู้ตายไปรับศพสามีจาก รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาธรรมสังเวช ศาลา 6 วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา มีภรรยานายไพบูลย์ พร้อมบุตรสาวไปแสดงความเสียใจและขอโทษนางปานกมลและครอบครัว โดยนางปานกมลเปิดเผยว่าขอยืนยันว่าการตั้งราวตากผ้าอยู่ในพื้นที่หน้าบ้านของตัวเอง ไม่ได้กีดขวางใคร ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับแล้วอยากให้ติดตามจับกุมตัวให้ได้ สภาพจิตใจตอนนี้ย่ำแย่มาก แม้นายไพบูลย์จะมอบตัวตำรวจก็จะไม่อโหสิกรรมให้เด็ดขาด ให้กฎหมายดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ชนโหด
- ขับเก๋งชนโหด ขยี้เพื่อนบ้าน ตายสยองคาที่
- ชายอำมหิต ขับเก๋งชนเพื่อนบ้านดับ หนีลงใต้แล้ว แม่เกลี้ยกล่อมลูกมอบตัว
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath
ANG DD 072 วันก่อนบอกว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อน
ความจริงคือมีปัญหากันมาตลอด
เมียคนตายก็พูดเอาดีเข้าตัวทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่ามีปัญหากันมาก่อน
แต่ฝ่ายคนขับชนก็แก้ปัญหาแบบผิดๆ
26 ม.ค. 2563 เวลา 23.55 น.
ยังต้องมีอีก ยังต้องเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ เรื่องและเหตุ ลักษณะแบบนี้ในประเทศไทยประเทศอื่นไม่รู้น่ะเพราะไม่เคยไป แต่สำหรับประเทศไทยแล้วยังต้องเกิดยังต้องมีเหตุแบบนี้ เชื่อผมซิ ผมไม่ได้ยุให้ใครไปทำร้ายใครนะครับ.. แต่ที่ผมพูด ผมพูดตามอุปนิสัย ส ด คนไทย ไม่เชื่อคอยดูไปเรื่อยๆ จะวันใหนเมื่อไหร่เท่านั้นและ เฮ้อคนไทยน้อ ก็ไม่เข้าใจ...
26 ม.ค. 2563 เวลา 22.52 น.
Siridet หน้าบ้านผม จอดรถขวางเหมือนกัน
ไปขอร้อง เอาตะปูมาโยนใส่ ต้องติดกล้องวงจรปิด แจ้งจับ 20000 บาท
ผมเห็นใจคนขับรถน่ะ คนไทยไร้วินัย
ยิ่งพวกเอาเก้าอี้มาวางหน้าบ้านอีก
27 ม.ค. 2563 เวลา 00.22 น.
somjai dang boonya จริงๆการมาตากผ้าหน้าบ้านก็ไม่ถูกต้องและไม่มีระเบียบ ควรหาที่ตากในบริเวณบ้าน คนยิงก็ไม่ถูกต้องไปใหญ่ โมโหแล้วใช้อารมณ์โหดแบบนี้ไม่มีสติ อายุมากขนาดนี้ไม่มีสติคิดได้เลย เพื่อนบ้านจริงๆเหมือนกำแพงบ้านเราไปโกรธไปโมโหกันทำมัย ใครจะโอกาสมีลมหายใจอยู่นานกว่ากันก็ไม่รู้ สู้เอาเวลานี้มาคุยถ้อยทีถ้อยอาศัยดีกว่า
26 ม.ค. 2563 เวลา 23.38 น.
คงพอๆกันหน้าบ้านก้จริง แต่บนถนน ไม่ไช่ในรั้วบ้าน (ราวตากผ้า) นี่ก้แสดงถึงนิสัยคน คนชนก้แรงไป วิธีอื่นก้มี ชกซักตูม แค่ทำร้ายร่างกาย นี่เล่นซะตาย ...คนเห็นแก่ตัว...ลุงสติแตก#ตาย
27 ม.ค. 2563 เวลา 00.38 น.
ดูทั้งหมด