เปิดประวัติเเละเอกสารลับ คดียาเสพติดของ “ธรรมนัส” ที่ออสเตรเลีย

ร้อยเอก (ร.อ.) ธรรมนัส พรหมเผ่า หรือ นัท เคยเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลมาแล้วหลายครั้ง ทั้ง มนัส ยุทธภูมิ พชร และธรรมนัส และจากนามสกุล โบกพรหม เป็น พรหมเผ่า เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 25 และจบนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 36

โดยขณะนี้ดำรงตำแหน่งเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเป็นหัวเรือสำคัญของพรรคพลังประชารัฐ

อดีตเคยออกจากราชการผันตัวมาทำธุรกิจ เปิดบริษัทรักษาความปลอดภัย และ ชนะการประมูลบริหารตลาดตลองเตย ในนาม บริษัท ลิเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด และถูกมองว่าเป็นมาเฟีย

หลังจากนั้นก็เริ่มเข้ามาเล่นการเมืองในปี 2542 ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครของพรรคไทยรักไทย 

แต่ล่าสุด ธรรมนัสได้เจอมรสุมลูกใหญ่ เมื่อมีคนไปขุดว่าเคยมีคดีพัวพันยาเสพติด! โดย หนังสือพิมพ์ออสเตรเลีย The Sydney Morning Herald ได้ค้นเจอเอกสารที่ระบุถึงคดีดังกล่าว  พร้อมกับคำสัมภาษณ์ต่อหน้าสื่อมวลชนของ ธรรมนัสที่ดูจะย้อนแย้งกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้น

โดยปฏิเสธกับสื่อว่า คดีที่เคยเกิดขึ้นแต่ก่อนในออสเตรเลีย “ไม่ใช่ข้อหาค้า หรือ นำเข้ายาเสพติด ไม่ได้ขนยาไปขาย ไม่ได้ผลิต และสามารถไปตรวจสอบจากศาลของประเทศออสเตรเลียได้ ว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นความจริงไหม มันเป็นเรื่องโอละพ่อ…เป็นตราบาปที่ผมไม่เคยพูดมาตลอด 30 ปี และถูกคุมขังแค่ประมาณ 8 เดือนก็ถูกปล่อยออกมาใช้ชีวิตตามปกติ”

แต่ทางสำนักข่าว Herald เคยตีข่าวว่า มนัส โบกพรหม (ชื่อเก่า) มีบทบาทสำคัญในการนำขนยาเสพติด เฮโรอีน 3.2 กิโลกรัม จากไทยไปยังออสเตรเลีย ในปี 1993 และเอกสารจากศาลออสเตรเลียยังระบุอีกว่า นายมนัสได้เกี่ยวข้องกับขบวนการใต้ดินและผู้ร่วมขบวนการชาวออสเตรเลียที่กรุงเทพ ก่อนจะเริ่มดำเนินการ โดยซื้อตั๋วเครื่องบินให้กับ ผู้ที่จะนำส่งของไปยังออสเตรเลีย และเอกสารยังระบุว่า นายมนัสอยู่ในเหตุการณ์ขณะที่ผู้นำส่งของกำลังบรรจุยาเสพติดดังกล่าวลงในกระเป๋าเดินทาง และเขาได้ทำการช่วยเหลือในการขนกระเป๋ายาเสพติดไปยังห้องของผู้ร่วมขบวนการในโรงแรม Bondi ออสเตรเลีย

หลังจากนั้นไม่กี่นาที มนัสก็ถูกจับ เขาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตกลงซื้อขายยาเสพติด แต่เขาก็ถูกนำไปคุมขังอยู่ในคุก Parkles ที่ออสเตรเลีย 4 ปี ก่อนจะถูกปล่อยตัว 

นอกจากนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า เขาได้เริ่มเข้ารับราชการ เมื่อปี 2532 และขาดอายุราชการไป 4 ปี (ช่วงต้องคดียาเสพติดที่ออสเตรเลีย) และระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมระบุไว้ว่า หากใครขาดราชการเกิน 15 วัน ให้ถือว่าหนีราชการต้องถูกถอดยศ 

จนกระทั่งปี 2541 ได้มีการนำเอกสารการเข้ารับราชการของ ร.อ.พชร หรือ มนัส พรหมเผ่า ไปตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและยาเสพติด

โดยขณะนั้นมี นาย ชวน หลีกภัยเป็น นายกรัฐมนตรี และไม่นานก็มีแถลงการออกมาให้ถอดยศทหาร ร้อยโท พชร พรหมเผ่า สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุดออก ในที่สุด

หลังจากนี้คงต้องติดตามท่าทีของรัฐบาลต่อไปว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร..