‘สามารถ’ แฉเบื้องลึก ทอท. เดินหน้าสร้างเทอร์มินัล 2 เมินขยายเทอร์มินัล 1 ชี้ ไม่อยากให้ถูกครหาว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เคพีเอส
จากกรณีที่คณะกรรมการ ทอท. มีมติเห็นชอบให้ ทอท. ดำเนินงานจ้างสำรวจออกแบบโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาจ้างสำรวจออกแบบฯ ได้ภายในเดือน ก.ย. 2561 และดำเนินการออกแบบก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 10 เดือน คาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างได้ในปลายปี 2562 และแล้วเสร็จในปลายปี 2564
ล่าสุด ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหู การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ในสนามบินสุวรรณภูมิ ในประเด็นความเหมาะสมของแบบ และตำแหน่งที่ตั้งของอาคารซึ่งไม่ตรงกับตำแหน่งที่มีการจัดเตรียมไว้ในแผนแม่บทสนามบินสุวรรณภูมิ
แผนแม่บทนี้จัดทำโดยกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาของ ทอท. โดยมีบริษัท หลุยส์ เบอร์เจอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาชื่อดังของอเมริการ่วมอยู่ด้วย
ในช่วงหนึ่งของการทำงานของผม ผมมีอาชีพเป็นวิศวกรที่ปรึกษาด้านคมนาคมขนส่ง โดยได้มีโอกาสทำงานในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย อีกทั้ง ได้ทำงานกับบริษัท หลุยส์ เบอร์เจอร์ฯ อยู่หลายปี ในช่วงระยะเวลาที่ทำงานในสังกัดของบริษัท หลุยส์ เบอร์เจอร์ฯ ประมาณปี พ.ศ.2533-2534
ผมได้ร่วมศึกษาและจัดทำแผนแม่บทระบบท่าอากาศยานทั่วประเทศไทย (Airport System Master Plan Study) ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรุงเทพฯ พบว่ากรุงเทพฯ จำเป็นจะต้องมีสนามบินแห่งใหม่ และประมาณปี พ.ศ.2535-2536 ผมได้ร่วมจัดทำแผนแม่บทสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ผมมีข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิพอสมควร
ตามแผนแม่บทดังกล่าว อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 จะตั้งอยู่ทางด้านใต้ของอาคารผู้โดยสารในปัจจุบัน หรืออาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 โดยจะมีทางเข้าออกจากถนนบางนา-ตราดเป็นหลัก ในขณะที่อาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 มีทางเข้าออกจากมอเตอร์เวย์เป็นหลัก การเดินทางเชื่อมระหว่างอาคารผู้โดยสารทั้งสอง จะมีรถไฟฟ้าไร้คนขับ (Automated People Mover หรือเอพีเอ็ม) ให้บริการ
แต่อย่างไรก็ตาม อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ที่ ทอท.กำลังจะดำเนินการก่อสร้างนั้น ไม่ได้มีตำแหน่งตรงกับแผนแม่บท โดย ทอท.ได้ย้ายมาอยู่ใกล้ๆ กับอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 หากเดินทางเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิจากมอเตอร์เวย์ อาคารนี้จะอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1
การเปลี่ยนตำแหน่งของอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 จะมีผลกระทบต่อภาพรวมในการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิอย่างไร เป็นเรื่องที่สาธารณชนให้ความสนใจ ด้วยเหตุนี้ ทอท.จะต้องชี้แจงให้สาธารณชนได้รับรู้
ตามแผนการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนที่จะมีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 นั้น ทอท.จะต้องขยายอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ออกไปทั้งสองด้าน คือด้านตะวันออกและด้านตะวันตก เพื่อเพิ่มความจุให้อาคาร เหตุที่ ทอท.ไม่ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ให้ครบถ้วนตามแบบตั้งแต่ตอนแรกก็เพราะว่ารัฐบาลในขณะนั้นต้องการลดงบประมาณการก่อสร้าง
จึงได้ตัดพื้นที่ดังกล่าวออกไป พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงวัสดุบางส่วน จึงทำให้ค่าก่อสร้างถูกลง จากราคากลางเดิม 45,000 ล้านบาท เหลือ 36,000 ล้านบาท เหตุใด ทอท.ไม่ขยายอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ก่อนก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 จึงเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม
ก่อนเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 28 กันยายน 2549 ทอท.และบริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด หรือเคพีเอส ได้ร่วมลงนามในสัญญาโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ สัญญาที่ ทสภ.1-01/2548 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2548 อายุสัญญา 10 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2549 ถึงวันที่ 27 กันยายน 2559
โดยเคพีเอสเสนอที่จะทำกิจกรรมร้านอาหารและเครื่องดื่มแบบ Jungle Garden บริเวณอาคารผู้โดยสารภายในประเทศซึ่งอยู่ด้านตะวันออกของอาคาร ต่อมาเคพีเอสมีหนังสือที่ คพส.040/2548 ลงวันที่ 13 กันยายน 2548 ถึง ทอท. ขอพื้นที่สร้างอาคาร City Garden ขนาด 2 ชั้น บริเวณอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ โดยพื้นที่ชั้นที่ 1 จะทำเป็นสำนักงาน และชั้นที่ 2 จะทำกิจกรรมร้านอาหารและเครื่องดื่ม
เพื่อให้รู้ถึงตำแหน่งของอาคาร City Garden อย่างชัดเจน หากเราเดินทางไปต่างจังหวัด จะต้องเดินไปที่ประตูขึ้นเครื่องหรือเกทที่ต้องการบนชั้นที่ 2 ของอาคารผู้โดยสาร หลังจากสิ้นสุดทางเลื่อนแล้วให้เลี้ยวซ้าย จะเห็นร้าน Boots อยู่ที่หัวมุม ถัดจากร้าน Boots ให้เลี้ยวซ้ายก็จะถึงร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งขายดีมาก
ต่อมาในวันที่ 19 ตุลาคม 2548 ที่ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารและพัฒนากิจการภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้มีมติเห็นชอบตามที่เคพีเอสร้องขอ แต่ได้ระบุชัดว่า หาก ทอท.มีแผนขยายอาคารผู้โดยสาร เคพีเอสจะต้องรื้อถอนอาคาร City Garden ออกไป ซึ่งตามรายงานการประชุมดังกล่าว ในหน้าที่ 7 ข้อ 2.4 ระบุว่า “อาคารดังกล่าวจะใช้งานประมาณ 5-10 ปี และหาก ทอท.มีแผนขยายอาคารที่พักผู้โดยสาร บริษัทฯ มีความยินดีจะปรับรื้ออาคารดังกล่าวออกให้ต่อไป”
อีกทั้ง ในวันที่ 5 มกราคม 2549 ทอท.ได้มีหนังสือเลขที่ ทอท.(สคก.) 4/2549 ถึงเคพีเอส โดยเน้นย้ำชัดๆ ว่า “ทอท.ขอแจ้งให้ทราบว่า จะมีโครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 3 ในปี พ.ศ.2553 โดยมีการขยายอาคารที่พักผู้โดยสารทั้ง 2 ด้าน (ตะวันออกและตะวันตก) ซึ่งจะกระทบต่ออาคารของบริษัทฯ เนื่องจากอาจจะต้องมีการรื้อย้ายอาคาร City Garden ในภายหลัง”
ในเวลาต่อมา ทอท.ได้ปรับเปลี่ยนแผนโครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยได้มีแผนที่จะขยายอาคารผู้โดยสารด้านตะวันออก ในระยะที่ 2 (ปีงบประมาณ 2554-2560) ซึ่งมีวงเงิน 4,825.5 ล้านบาท ทั้งนี้ ทอท.อ้างว่าจะทำให้สนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นอีก 15 ล้านคนต่อปี แต่อย่างไรก็ตาม โครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ก็ไม่มีงานขยายอาคารผู้โดยสารด้านตะวันออกรวมอยู่ด้วย
คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ ทำไม ทอท.จึงดึงงานขยายอาคารผู้โดยสารด้านตะวันออกออกจากโครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 และทำไม ทอท.จึงไม่มีคำสั่งให้เคพีเอสรื้ออาคาร City Garden ออกไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ ทั้งๆ ที่มีการใช้งานอาคารดังกล่าวเกิน 10 ปีแล้ว
และทั้งๆ ที่ เคพีเอสก็มีความยินดีที่จะรื้ออาคารดังกล่าวตามที่ได้ระบุไว้ชัดเจนในรายงานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารและพัฒนากิจการภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันพุธที่ 19 ตุลาคม 2548
หาก ทอท.เลือกที่จะขยายอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ทั้งด้านตะวันออกและด้านตะวันตกตามแผนที่วางไว้ ซึ่งจะใช้งบประมาณและเวลาน้อยกว่าการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 จะทำให้สนามบินสุวรรณภูมิมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นอีก 30 ล้านคนต่อปี (ประมาณการจากตัวเลขของ ทอท.ที่อ้างว่าการขยายอาคารด้านตะวันออกเพียงด้านเดียวจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นอีก 15 ล้านคนต่อปี)
ดังนั้น การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ซึ่งมีวงเงินถึง 42,084 ล้านบาท โดยสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 30 ล้านคนต่อปีเช่นเดียวกัน ก็สามารถชะลอออกไปได้ ทั้งหมดนี้ด้วยความห่วงใย ทอท. ไม่อยากให้ถูกครหาว่าการไม่ขยายอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 เป็นการเอื้อประโยชน์ให้เคพีเอสเท่านั้นเอง
ยุทธหัตถี/10330 ต่อขยายทำไม มีงบทำใหม่ก็ดีแล้วเดี๊ยวเฟสสาม สี่ก็ตามมา อันเก่าแค่ปรับปรุงให้ใช้งานได้ดีก็พอแล้วเปลื้องงบ
24 ก.ย 2561 เวลา 03.12 น.
Banana ทำไมสนามบินเมืองไทย
มาเฟียรุมหาแดกเยอะจัง!!
24 ก.ย 2561 เวลา 02.21 น.
PooM2️⃣2️⃣2️⃣ สงสัยจะมีเงินกองรออยู่ใต้โต๊ะ เลยรื้ออาคารออกและขยายอาคาร1 ไม่ได้ อุ้ยย... แมวพิม
23 ก.ย 2561 เวลา 14.59 น.
314798 สนามบินเฟสแรกห่วยแตกทั้งระบบตั้งแต่ถนนเข้าสนามบินยันส้วมด้านใน ไม่มีความสะดวกเลย ติดขัดทุดอย่าง อายชาวต่างชาติแทบแทรกแผ่นดิน ยังมีหน้ามาบอกความภูมิใจของคนทั้งชาติ ขืนทำตามแม่บทก็ทู่เรศหนักกว่าเดิมสิ
23 ก.ย 2561 เวลา 13.36 น.
panu ควรทุบผลงานทักษิณทิ้งแล้วสร้างใหม่ไปเลยครับ เปลืองเท่าไรช่างมัน
23 ก.ย 2561 เวลา 13.30 น.
ดูทั้งหมด