วันนี้ (22 ก.ย. 61) กระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศกำหนดให้ไซบูทรามีนเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (23 ก.ย.) เป็นต้นไป โดยผู้ใดผลิตนำเข้าหรือส่งออกผลิตภัณฑ์ที่มีไซบูทรามีนเป็นส่วนผสม จะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 – 20 ปี ปรับตั้งแต่ 500,000 – 2,000,000 บาท
ขณะที่ผู้ใดขายจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 4 – 20 ปี ปรับตั้งแต่ 400,000 – 2,000,000 บาท ส่วนผู้ใดครอบครองจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ รวมไปถึงผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก็ถือว่าเป็นความผิดด้วย โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจสอบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่จำหน่ายในท้องตลาด พบการโฆษณาอวดอ้างลดน้ำหนัก มีการใส่ไซบูทรามีนซึ่งทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงต่อผู้บริโภค บางรายถึงขั้นเสียชีวิตเพราะไซบูทรามีนออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้รู้สึกไม่อยากอาหารและส่งผลข้างเคียงกับคนที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดต่างๆ
ขณะที่ทาง อย.จึงแนะนำว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่สามารถลดความอ้วนได้ หากมีการโฆษณาว่าสามารถช่วยรักษาโรค ลดความอ้วน หรือมีผลในทางยา ขอให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจมีส่วนผสมของไซบูทรามีน
ทั้งนี้ การลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ควบคุมอาหาร ร่วมกับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม หากผู้บริโภคพบเห็นเบาะแสการโฆษณา การผลิต จำหน่ายยาลดความอ้วนผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย.1556
BEN ทำไมไม่บอกชื่อสินค้า ที่มีส่วนผสมของยาตัวนี้ล่ะครับ เกิดใครซื้ออาหารเสริมบางตัวมานาน และไม่เคยดูว่าสารตัวนี้ผสมอยู่ จะเป็นอย่างไร ติดคุกใช่มั้ย
จะทำทั้งที แทนที่จะทำให้สุด ให้รอบคอบ ก็ทำแค่ครึ่งๆ กลางๆ
22 ก.ย 2561 เวลา 09.56 น.
แล้วจะเบลอภาพทำไม
22 ก.ย 2561 เวลา 11.04 น.
yui ถ้าจะให้ข่าวแบบนี้ ไม่ต้องก็ได้นะ จับแน่ๆ ไม่เห็นจะจริงจังสักงานนึง
22 ก.ย 2561 เวลา 10.24 น.
จะจับเขายังเกรงใจ หมาเห่าไม่กัด
22 ก.ย 2561 เวลา 11.53 น.
วรลักษณ์ = ติ้งแตน จับคนไซนั่นล่ะค่ะ มิใช่เพิ่งกระทำ มันพยายามอย่างต่อเนื่อง เพื่อยัดข้อหาและทำลายสุขภาพให้เป็นโรคที่สุ่มเสี่ยงต่อชีวิตเพื่อเลี่ยงความผิดที่มันก่อ และคงรอสวมสัญชาติให้คนของมัน ผิดแล้วผิดอีก ยังเอาไว้ ตรูงง
22 ก.ย 2561 เวลา 09.16 น.
ดูทั้งหมด