หลังจากเกิดวิกฤตเรื่องไวรัสโคโรน่า (COVID-19) หน้ากากอนามัยก็กลายเป็นของหายากขาดตลาดไปทั่วโลกนะครับ เนื่องจากฐานการผลิตส่วนใหญ่ของหน้ากากอนามัยนั้น มาจากทางประเทศจีน พอโรงงานในจีนไม่สามารถผลิตสินค้าได้ก็ทำให้ส่งผลกระทบต่อไปเป็นทอด ๆ
ในไทยเราก็หายากและราคาแพงมาก ๆ (แม้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราจะบอกว่าตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีการขายเกินราคาก็ตาม…อะแฮ่ม ๆ) ส่วนในญี่ปุ่นก็กลายเป็นของหายากสุด ๆ แม้จะพยายามผลิตเพิ่มยังไงก็ยังไม่พอกับความต้องการของประชาชน
ตอนนี้นอกจากหน้ากากอนามัยกลายเป็นของหายากในประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว สินค้าที่ขาดตลาดตามมาติด ๆ ในญี่ปุ่นก็คือ “กระดาษชำระ” ครับ โดยเฉพาะกระดาษชำระแบบบาง ๆ ที่ใช้ในห้องส้วมนั่นแหละ คนแห่กันไปต่อแถวยาวเหยียด กว้านซื้อกันไปจนเกลี้ยงร้าน หนักที่สุดคือเกิดกรณีขโมยกระดาษชำระในห้องส้วมสาธารณะกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ห้องส้วมสาธารณะหลายที่ต้องติดคำข้อร้องอ้อนวอนว่าอย่าขโมยกระดาษชำระไปเลย “เพื่อปกป้องก้นของทุก ๆ คน” แต่บางที่ก็ต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดคือการล่ามโซ่กระดาษชำระไม่ให้ถูกขโมยซะเลย
คือหน้ากากอนามัยขาดตลาดยังพอเข้าใจได้ ข้าวสารอาหารแห้งขาดตลาดก็เข้าใจได้ แต่กระดาษชำระเนี่ยนะ ? ทำไมกระดาษชำระมันถึงขาดตลาดได้ขนาดนี้กัน ?
ต้องย้อนความไปก่อนว่าการที่คนญี่ปุ่นแย่งกันกักตุนกระดาษชำระนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะภาพของคนญี่ปุ่นที่ไปต่อแถวแย่งชิงซื้อกระดาษชำระ เป็นภาพที่เคยเห็นกันมาตั้งแต่สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สองแล้วครับ ในช่วงที่เกิดสงครามหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ นอกจากข้าวสารอาหารแห้งต่าง ๆ กระดาษชำระก็ถือเป็นปัจจัยอีกอย่างที่จะขาดไม่ได้สำหรับการหลบภัย เพราะในช่วงที่เกิดภัยพิบัติถ้าเกิดน้ำไม่ไหล กระดาษชำระก็จะถูกใช้เพื่อทำความสะอาดสิ่งต่าง ๆ และถึงห้องน้ำญี่ปุ่นจะมีระบบทันสมัย มีน้ำฉีด แต่คนญี่ปุ่นก็ยังเคยชินกับการใช้กระดาษเช็ดอยู่ดี
จุดที่มันทำให้คนเริ่มแห่กันไปกักตุนกระดาษชำระจนเกลี้ยงร้านแบบนี้ เริ่มมาจาก “ข่าวปลอม” ที่มีคนปล่อยข่าวลือในอินเตอร์เน็ตว่ากระดาษชำระกำลังจะขาดตลาดเนื่องจากโรงงานที่จีนไม่ส่งกระดาษชำระมาให้ญี่ปุ่นแล้วเพราะไวรัสระบาด ดังนั้นกระดาษชำระก็กำลังจะขาดตลาดไม่ต่างกับหน้ากากอนามัยอย่างแน่นอน
เท่านั้นแหละครับ คนญี่ปุ่นก็แห่ไปกักตุนกระดาษชำระกันยกใหญ่ พอเห็นคนอื่นเริ่มกักตุนจนของขาดตลาด ก็เกิดการทำตามเป็นการใหญ่ แม้ตามความจริงแล้วกระดาษชำระของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็คือผลิตในญี่ปุ่นนะ ไม่ได้ผลิตในจีน แล้วมันก็ไม่ได้ขาดตลาดอะไรขนาดนั้น โรงงานก็ยังมาส่งจำนวนเท่าเดิมในแต่ละวัน รัฐบาลญี่ปุ่นก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องกักตุน เพียงแต่ว่าตอนนี้คนซื้อกันเยอะขึ้น สุดท้ายก็เกลี้ยงแผงทุกวันเหมือนเดิม
แล้วเรื่องราวสุดโรแมนติกของเราที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้ มันก็เริ่มจากการขาดตลาดของกระดาษชำระนี่แหละครับ (ใช่ครับ ที่ผ่านมานี่คือแค่เกริ่นเริ่มเรื่อง …)
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าสุดโรแมนติกของสาวญี่ปุ่นคนหนึ่งในทวิตเตอร์ ซึ่งได้รับการกดไลก์ กดแชร์เป็นจำนวนมากจากสาว ๆ ญี่ปุ่น เจ้าของเรื่องเขาชื่อว่า “ชิโฮโนะ” สาวญี่ปุ่นหน้าตาน่ารักจากโอซาก้า ซึ่งตามประวัติที่เธอเขียนบอกไว้ เธอเพิ่งเจ็บช้ำจากความรักมา เพราะก่อนหน้านี้เธอได้คบกับผู้ชายคนหนึ่งมา 6 ปีเต็ม แต่อยู่ดี ๆ ผู้ชายคนนั้นก็ทิ้งเธอ แล้วหนีไปแต่งงานกับผู้หญิงอีกคนเฉยเลย ชิโฮโนะก็เลยค่อนข้างเจ็บปวดกับความรักมาก แล้วก็อยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด…
วันหนึ่งชิโฮโนะไปต่อแถวซื้อกระดาษชำระตามปกตินี่แหละ ตอนเธอเข้าไปซื้อมันก็ใกล้จะหมดแล้วเพราะคนมาซื้อกันเป็นจำนวนมาก เธอก็เลยรีบคว้ามาจำนวนหนึ่ง แล้วเดินไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์
แต่ระหว่างที่ชิโฮโนะกำลังจ่ายเงินอยู่ เธอก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาคุยกับพนักงานด้วยหน้าตาผิดหวังว่า กระดาษชำระมันหมดแล้วเหรอ แบบนี้เขาก็ซื้อไม่ได้ใช่ไหม เขาจำเป็นต้องใช้ซะด้วย…
ชิโฮโนะที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ พอเห็นหน้าเศร้า ๆ ของชายหนุ่มผู้นั้น ก็เลยเกิดความสงสารขึ้นมา หลังจ่ายเงินเสร็จเธอจึงเดินเข้าไปหาชายหนุ่มคนนั้นแล้วบอกว่า
"คุณคะ ฉันให้ค่ะ…"
พร้อมกับยื่นกระดาษชำระให้ชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้นจำนวน 2 แถว
"ฉันไม่ได้จำเป็นต้องใช้กระดาษมากขนาดนี้หรอกค่ะ เพราะฉันอาศัยอยู่ตัวคนเดียว…"
"หรือถ้าคุณมีครอบครัวใหญ่ ที่จำเป็นต้องใช้ในปริมาณมาก ๆ คุณจะเอาไปมากกว่า 2 แถวก็ได้นะคะ"
ชายหนุ่มคนนั้นก็เลยยิ้มให้ชิโฮโนะแล้วตอบกลับมาว่า
"ขอบคุณมากเลยนะครับ แต่แค่สองแถวก็พอแล้วครับ เพราะผมก็อาศัยอยู่ตัวคนเดียวเหมือนกัน…"
ฮั่นแน่ เมื่อต่างฝ่ายต่างพูดออกมาแบบนี้มันก็น่าจะแปลได้ว่า
ทั้งคู่อาศัยอยู่ตัวคนเดียว (และน่าจะโสด)…
หลังจากยืนคุยกันอยู่นาน สุดท้ายชายหนุ่มก็ขอไลน์เธอ บอกว่าจะได้ส่งข้อความไปขอบคุณ คืออันนี้มันเป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่นนะครับ การที่จะต้องส่งจดหมายไปให้ หรือต้องส่งข้อความไปขอบคุณคนที่มีบุญคุณกับเราเนี่ย บางคนถึงขั้นขอชื่อที่อยู่สำหรับส่งของไปขอบคุณเลย ถ้ารู้สึกว่าเป็นบุญคุณมาก แต่มันก็ถือเป็นโอกาสในการขอเบอร์ติดต่อกันได้อย่างถูกต้องตามวัฒนธรรมและเนียนที่สุด
หลังจากนั้นไม่นาน ชิโฮโนะก็มาโพสต์ลงในทวิตเตอร์อัปเดตว่าชายหนุ่มคนนั้นก็ส่งข้อความมาถึงเธออย่างรวดเร็วในคืนนั้น
"ขอบคุณมากเลยนะครับ คุณช่วยผมไว้ได้มากจริง ๆ ผมอยากจะแสดงความขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณ ดังนั้นถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมขอเลี้ยงข้าวเย็นคุณสักมื้อนะครับ"
เรื่องราวมนต์รักกระดาษชำระของสาวชิโฮโนะกับหนุ่มคนนี้ก็เริ่มต้นขึ้นตรงนี้ …
ซึ่งก็แน่นอนว่าเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของคนสองคนเขา เขาอาจจะไปกินข้าวสักมื้อแล้วจบกันไป หรือจะรักกันไปจริง ๆ ตามที่กองเชียร์แอบลุ้น อันนี้ก็คงต้องแล้วแต่เขา
แต่สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเรื่องนี้ก็คือ
การหยิบยื่นน้ำใจให้กับผู้อื่นในช่วงเวลาที่ลำบาก มันเป็นสิ่งที่ดีเสมอ
(ขอตัวปั่นจักรยานออกไปซื้อกระดาษชำระก่อนนะครับ …)
เรื่องราวจากทวิตเตอร์ : shihon029
ติดตามบทความใหม่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้และเรื่องแปลก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทาง LINE TODAY: TOP PICK TODAY จากผมได้ทุกวันเสาร์นะครับ
ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม
Facebook: Eak SummerSnow
Youtube: Eak SummerSnow
พร น่ารักอ่ะ...มนต์รักกระดาษชำระอยากรู้ภาคต่อไปน่ะ
07 มี.ค. 2563 เวลา 02.53 น.
Ake พล็อตนี้ทำหนังเลย
07 มี.ค. 2563 เวลา 05.38 น.
Kingkong สรุปทั้งคู่ติดไวรัส จบข่าว
07 มี.ค. 2563 เวลา 02.43 น.
จะซึ้งกว่านี้ถ้าทำธุระด่วนอยู่ในห้องน้ำ แล้วใครสักคนส่งกระดาษชำระลอดช่องมาให้
ทานข้าวกันไหม
07 มี.ค. 2563 เวลา 06.51 น.
rong บางครั้งในเหตุการณ์เครียดๆ ก็ยังมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเสมอ
07 มี.ค. 2563 เวลา 08.18 น.
ดูทั้งหมด