ทั่วไป

พรรคจิ๋วป่วน โก่งค่าโหวตไว้วางใจ ขู่กำจัดจุดออ่น

ประชาชาติธุรกิจ
อัพเดต 22 ก.พ. 2563 เวลา 05.42 น. • เผยแพร่ 22 ก.พ. 2563 เวลา 05.42 น.

อีกไม่ถึง 72 ชั่วโมง การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและพวก รวม 6 รัฐมนตรี จะ “ระเบิดศึก” 3 วัน 3 คืน ระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ 2563 และลงมติในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดคอร์ทอบรม- ติวเข้ม ที่โรงแรม Way Hotel อ.บางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล-วิปรัฐบาล ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และ “พรรคเล็ก” เข้าร่วมซ้อมบท

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

5 รัฐมนตรีที่ “ถูกซักฟอก” ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี-ประธานยุทธศาสตร์พรรค นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี

นายดอน ปรมัตถ์นัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ.ร.อ.ธรรมนัส พหรมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ขาดเพียง “พล.อ.ประยุทธ์” ที่ชกลมอยู่ที่บ้านพัก โดยมี “วอร์รูมตึกไทยคู่ฟ้า” ที่มี “เลขานายกฯคู่ใจ” ดิตทัส โหตระกิตย์” คอย “ติวเข้ม”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อย่างไรก็ดีพล.อ.ประยุทธ์ ได้ส่ง “บิ๊กช้าง” พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม มารับบท “บุรุษไปรษณีย์” รับ-ส่งสารให้พล.อ.ประยุทธ์ – เจ้ากระทรวงกลาโหม

“วิรัช รัตนเศรษฐ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เปิดหัวสัมมนา-ซักซ้อมแกนนำรัฐบาล-พรรคร่วมก่อนถึง “วันจริง”

“ถือว่าวันนี้เรามาทำงานร่วมกัน พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดจะเคลื่อนเป็นแบบไหน คะแนนจะออกมาอย่างไร ต้องไปดูกันวันโหวตอีกครั้ง”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“เราจะทำเหมือนกันหมด พร้อมกันหมดทุกท่านที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะที่ข้อหาแต่ละท่านก็แตกต่างกันออกไป จึงต้องค่อย ๆ มาพิจารณาทีละประเด็น”

แม้ “ประธานวิปรัฐบาล” เตรียมซ้อมบท-วางสคริปต์พรรคแกนนำ-พรรคร่วมรัฐบาลให้การโหวตเป็นไปใน “ทิศทางเดียวกัน” แต่ “เต้-มงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์” หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ไม่การันตรีว่า “พรรคเล็ก” จะยกมือโหวตให้ 6 รัฐมนตรีเท่าหมด

“แล้วแต่อารมณ์ ต้องดูข้อมูลก่อน สมมุติว่าตัวรัฐมนตรีทำผิดจริง ๆ มันชัด ใครจะไปลงให้ บ้าหรือเปล่า ไม่ใช่แมวนะ แม้จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่จะร่วมในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น จะไม่ร่วมในสิ่งที่ผิด คำว่าพรรคร่วมรัฐบาล คือ ร่วมในสิ่งที่ถูกต้อง”

“เรื่องไหนที่พอแก้ไขได้ หยวน ๆ ได้ แต่ถ้าชัด ๆ ยาก ไอ้เทา ๆ เทาแบบไหน เทาค่อนดำหรือเปล่า หลักฐานชัด มีใบเสร็จ ตายแล้ว ใครจะไปยก ถ้าตั้งใจทุจริต เรียบร้อย เราคงให้ไม่ได้”

“ถ้าบกพร่องโดยสุจริต ก็หยวน ๆ ได้ เพราะเราเป็นพรรคร่วม แต่ถ้าบกพร่องโดยทุจริต คงยาก ไม่ใช่พวกมากลากไป ฝั่งเราผิดแล้วไปยกมือให้ ไม่ได้ งั้นก็ไม่ใช่คนแล้ว เราเป็นสภาผู้แทนราษฎร”

“ร.อ.ธรรมนัส” 1 ใน 6 รัฐมนตรีที่ถูกซักฟอก ถูกมองว่าเป็น “จุดอ่อน” ของรัฐบาล และถูกคาดหมายว่า จะถูก “กำจัดจุดอ่อน”

“ดูข้อมูลก่อน ถ้าข้อมูลชัด พฤติกรรมชัด มีหลักฐานชัด เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะยกให้ ยาก ถ้าข้อมูลชัด ก็ต้องปรึกษานายกฯ ปรึกษาลุงป้อมว่าจะเอาอย่างไร ถ้าเป็นลุงป้อมจะยกมือให้ไหม ถ้าเป็นนายกฯ จะกล้ายกมือไหม ถ้าท่านยกให้แล้วไม่กลัวสงคมคลางแคลง ผมก็ไม่ไหว”

“ถ้าฝ่ายค้านนำข้อมูลไม่ถูกต้อง เป็นเท็จเราก็คงต้องคัดคาน คัดค้านตามข้อบังคับประชุมสภา แต่ฝ่ายค้านมีข้อมูลรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลที่ค่อยข้างชัดเจน แต่มติวิปรัฐบาลให้เรายกให้ ต้องมานั่งคุยกันใหม่”

“ถ้ามันชัดเจน ดำเมี่ยมคงให้ไม่ได้ แม้กระทั่งเทา ๆ ก็ให้ไม่ได้ ถ้าตั้งใจทุจริต ชาติหน้ายกให้ เพราะผมเชื่อมั่นว่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐคงไม่ช่วยเหลือคนผิด เราไม่อยากทำฝืนใจให้ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ส่วนเสียเราควรเขี่ยออก”

ขณะที่ “พิเชษ สถิรสวาล” หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ออกลูกเล่น-ไม่เป็นเด็กดี หากประธานวิปรัฐบาล “จับยกมือ” ฟอกขาวให้ “รัฐมนตรีสีเทา”

“ผมก็ไม่เชื่อว่า ถ้าหลักฐานมันชัดเจน แล้วประธานวิปรัฐบาจะบังคับให้เรายกมือให้ เช่น หลักฐานคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วุฒิการศึกษา ยาเสพติด”

“ถ้าประธานวิปจะให้ยกมือเท่ากันทุกคนคงไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะคุณสมบัติของรัฐมนตรีของร.อ.ธรรมนัส ถ้ามาบอกให้ผมยกมือให้ก็ต้องหารือกัน”

“รัฐมนตรีในรัฐบาลเราให้ความร่วมมือยกมือให้อยู่แล้ว แต่รัฐมนตรีบางคนถ้าชัดเจนเรื่องทุตริตคอร์รัปชั่น หรือ เรื่องคุณสมบัติ คงฝืนใจยกมือให้ลำบาก”

ก่อน “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” พ่อบ้านพรรคพลังประชารัฐ จะออกมาสวมบท-สยบข่าว “เสียงแตก” ก่อนในโหวต

“เป็นธรรมดาที่มีเสียงที่แตกต่างกันภายในพรรคร่วม แต่เชื่อว่าเสียงสนับสนุนจะไปในทิศทางเดียวกัน”

ในวันอภิปรายพรรคพลังประชารัฐจะมีวอร์รูม-ทีมองครักษ์พิทักษ์นายกฯ และ หน่วยเคลื่อนที่เร็ว-ทีม อ.ส.ว. ในวันอภิปราย โดยจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ทีม ทีมที่ 1 ทีมองครักษ์นอกสภาจะถูก “ผ่าครึ่ง” ออกเป็น 2 ชุด

ตั้งกองบัญชาการที่พรรค 1 ชุด อีก 1 ชุด ประจำกันที่สภา คอย “มอนิเตอร์” การอภิปรายในสภา

โดยมี “จำลอง ครุฑขุนทด” เป็น “ตัวประสาน” เพื่อเก็บ-ส่งข้อมูลไปให้องครักษ์นิติบัญญัติ- อ.ส.ว. เสิร์ฟข้อมูลไปยัง ทีม ว. “วิรัช” ประธานวิปรัฐบาล เพื่อตอบโต้ฝ่ายค้าน

อย่างไรก็ตาม “พลพวง” จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ “ยุบพรรค” อนาคตใหม่ – ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) 10 ปี ทำให้พรรคเสียงรัฐบาลจาก “ปริ่มน้ำ” กลับกลายเป็น “เหนือน้ำ”

นาทีนี้ “ศึกนอก” จึงไม่น่าหนักใจเท่า “ศีกใน” สารพัดก๊กในพรรคพลังประชารัฐ

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 21
  • Bill สุรพล
    ชั่งมันเถอะ ไร้สาระ
    22 ก.พ. 2563 เวลา 07.23 น.
  • วิจิตร (เสือ)
    เอาที่สบายใจครับ
    22 ก.พ. 2563 เวลา 07.02 น.
  • หน่อง ณ หนองคู
    พรรคสวะไร้อุดมการณ์
    22 ก.พ. 2563 เวลา 07.20 น.
  • sak
    ฮาว ลิงเริ่มทำมาหากินกันแล้วโว้ย
    22 ก.พ. 2563 เวลา 07.38 น.
  • ไฉน
    ดีๆๆเอาเยอะสนุกดีชอบๆประเทศไทยไชโย
    22 ก.พ. 2563 เวลา 07.37 น.
ดูทั้งหมด