ทีมนิวมีเดียพีพีทีวี ได้สอบถามความเห็นจากบุคคลหลากหลายอาชีพเพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นมุมมองที่แตกต่าง ในประเด็น “การเล่นเกมนั้นส่งผลเสียต่อเด็กจริงหรือไม่?”
นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น กรมสุขภาพจิต แนะนำว่าการเล่นเกมที่ดีคือการเล่นเพื่อพักผ่อน คลายเครียด แต่หากใช้เวลากับมันมากเกินไปจนไปรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน หรือการทำงาน นั่นคือการเล่นเกมที่ไม่ดี ส่วนในครอบครัวไหนที่ลูกอยากเล่นเกม ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่อนุญาตให้ทำได้ ตราบใดที่ยังอยู่ในขอบเขตของการพักผ่อนที่เหมาะสม ก่อนเริ่มเล่นก็ควรมีการตกลงในกฎเกณฑ์กติกาให้เรียบร้อย จัดเวลาให้เหมาะสม โดยเด็กมีส่วนร่วมในการจัดเวลาจากนั้นเป็นเวลาพักผ่อนของตัวเด็กเอง ระยะเวลาการพักผ่อนก็อาจแตกต่างกันไปในวันธรรมดา วันหยุด ช่วงสอบหรือช่วงปิดเทอม ให้การชื่นชมเมื่อเขาสามารถรักษากฎกติกานั้นได้ และควรมีวิธีการจัดการที่เหมาะสมหากข้อตกลงตอนแรกล้มเหลว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการนำเสนอกิจกรรมครอบครัวรูปแบบอื่นๆที่เด็กสามารถใช้ทดแทนการเล่นเกมเพื่อพักผ่อนได้
ถ้าเล่นเกมแบบไม่แบ่งเวลาจะส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งกายและจิต
หากเล่นเกมเกินขอบเขตของการพักผ่อน ระยะเวลาที่เกินไปนั้นก็จะไปรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันปกติ ทั้งการดูแลสุขอนามัยของตัวเอง การเรียน การทำงาน ความสัมพันธ์ของครอบครัว การนั่งเล่นเกมทั้งวันโดยไม่ขยับไปไหนเลย ก็จะทำให้เสี่ยงต่อปัญหาทางกายต่างๆตั้งแต่ โรคอ้วน ความดัน สายตา กล้ามเนื้อ กระดูกและข้อต่างๆ ด้านสุขภาพจิตเมื่อเล่นเกมแบบไม่สนใจผู้อื่น ก็จะเริ่มเกิดปัญหาความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง คุยกับคนอื่นรอบข้างน้อยลง เก็บตัวมากขึ้น และมีปัญหาด้านอารมณ์มากขึ้น
เกมช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กได้
ความหมายของเกมจริงๆกว้างมาก ตั้งแต่เกมทางกายภาพเช่นพวกบอร์ดเกม ไปจนถึงเกมคอนโซล ปัจจุบันเกมหรือแอพพลิเคชั่นที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กตั้งแต่เล็กๆก็มีจำนวนมากมาย หากพ่อแม่ต้องการใช้ส่งเสริมการกระตุ้นพัฒนาการทางสายตาและการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่ตั้งแต่เด็กก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่แนะนำในเด็กที่อายุต่ำกว่า 3 ปี เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อพัฒนาการทางภาษาที่ล่าช้าได้
เมื่อเด็กโตขึ้นก็จะมีความอยากที่จะเล่นเกมรูปแบบแตกต่างออกไป พ่อแม่ต้องมีส่วนในการช่วยเด็กเลือกเกมโดยดูตามเรทติ้งเกมที่จัดไว้ และพ่อแม่ความต้องมีความเข้าใจในเกมนั้นๆในด้านประโยชน์และโทษที่มี รวมถึงการมีส่วนร่วมในการเล่นเกมของเด็กๆตั้งแต่วัยเยาว์
สอนลูกจากการเล่นเกม ปรับใช้กับชีวิตจริง
การสอนลูกจากการเล่นเกม แบ่งเป็น 2 เรื่อง 1.การสอนจากวินัยในการเล่นเกม 2.การสอนจากเนื้อหาภายในเกม การใช้เกมเป็นตัวสอนเรื่องระเบียบวินัยมักเป็นสิ่งที่พ่อแม่มักมองข้าม เกมเป็นสิ่งที่เด็กชอบและอยู่กับมันได้นาน ในทางกลับกันในการเลิกเล่นแต่ละครั้งก็จะต้องใช้ความพยายามเช่นกัน เมื่อเด็กสามารถเรียนรู้ที่จะทำตามกติกากำหนดเวลาเล่นเกมที่วางไว้ได้ เด็กจะเริ่มพัฒนาความสามารถในการควบคุมและรับผิดชอบตัวเองในอนาคต พ่อแม่อาจช่วยโดยให้แรงสนับสนุนทางบวกเมื่อเด็กคุมเวลาการเล่นได้ด้วยตนเองโดยพ่อแม่ไม่ต้องเตือน
ส่วนการสอนลูกจากเนื้อหาภายในเกมนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ หากพ่อแม่ไม่มีส่วนร่วมเลยก็จะไม่มีทางรู้ว่าเนื้อหาภายในเกมเป็นเช่นไร และควรหยิบจุดไหนขึ้นมาสอน เกมในปัจจุบันมีจำนวนมากที่สามารถปรับเนื้อหามาใช้เพื่อสอนได้ ทั้งเกมที่เกี่ยวกับการใช้เงิน เกมปลูกสิ่งก่อสร้าง เกมกีฬาต่างๆ นอกจากนั้นการสอนให้รู้จักการเป็นผู้ชนะที่ดีและความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นได้ ย่อมจะช่วยให้เด็กปรับมาใช้กับชีวิตจริงให้รับมือกับความล้มเหลวในอนาคตได้
เกมตัวการทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัว ?
การเล่นเกมอยู่คนเดียวทั้งวันโดยไม่สนใจคนอื่นๆรอบข้างเลยย่อมทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัวแน่นอน เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม เราไม่สามารถสร้างสังคมได้หากนั่งจ้องหน้าจออยู่เฉยๆโดยไม่สนใจสิ่งรอบตัว แต่หากใช้การเล่นเกมเพื่อเป็นกิจกรรมทางสังคมของครอบครัวแล้ว ความใกล้ชิดและสายสัมพันธ์ย่อมเกิดขึ้น คนในครอบครัวได้มีการเปิดอกพูดคุยกัน ใช้เวลาร่วมกัน มีความสุขด้วยกัน เด็กย่อมได้ทั้งความรัก ความอบอุ่น และแบบอย่างที่ดีจากพ่อแม่ด้วย ทำให้การเปลี่ยนกิจกรรมครอบครัวไปทำอย่างอื่นที่นอกเหนือจากเกมย่อมทำได้ง่าย เพราะเด็กเสพติดความสุขที่ได้จากพ่อแม่มากกว่าที่ได้จากตัวเนื้อหาของเกม
งานวิจัยชี้เกมมีผลเสียจริง แต่มีอัตราที่ต่ำมากกว่าที่สังคมสร้างภาพไว้
งานวิจัยเกี่ยวกับเกมและเด็กมีจำนวนมากมายในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มีทั้งงานที่บอกผลเสียและบอกผลดี แต่ปัญหาของงานวิจัยที่ถูกกล่าวถึงอย่างมากคือปัญหาอคติในการตีพิมพ์ เห็นได้ชัดจากงานวิจัยที่บอกว่าสื่อส่งผลรุนแรงมากกับเด็กมักได้ตีพิมพ์ ส่วนงานที่บอกว่าสื่อส่งผลรุนแรงน้อยมักไม่ค่อยได้รับการตีพิมพ์
งานวิจัยวิเคราะห์แบบอภิมาน (Meta-analysis) ใน USA ปี 2015 มีการนำงานวิจัยเกี่ยวกับผลเสียของเกมด้านต่างๆ ทั้งเรื่องก้าวร้าว พฤติกรรม การเรียน ซึมเศร้า และสมาธิสั้น จำนวน 101 งานวิจัยทั้วโลก มาคำนวณใหม่ร่วมกัน พบว่าเกมส่งผลเสียแบบที่พูดมาได้จริง แต่ในอัตราที่ต่ำมากๆ ต่ำกว่าที่สังคมได้สร้างภาพเอาไว้ แล้วกลบปัญหาจริงๆที่อยู่เบื้องหลังการติดเกมนั้น
เกมเป็นเครื่องมือที่มีทั้งประโยชน์และโทษขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน
โดยส่วนตัวคิดว่า "เกม" เป็นแค่เครื่องมือรูปแบบหนึ่ง ขึ้นชื่อว่าเครื่องมือย่อมมีประโยชน์และโทษ ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน หากครอบครัวให้ความสนใจและทำความเข้าใจกับมัน ใช้ประโยชน์จากมันให้เต็มที่ย่อมเกิดประโยชน์ต่อเด็กๆในครอบครัว แต่หากไม่สอนวิธีใช้ที่ถูกต้อง ปล่อยปะละเลย ใช้เกมเป็นตัวซื้อเวลาว่างให้พ่อแม่ เกมนั้นย่อมส่งผลเสียถึงลูกแน่นอน
เกมเป็นแค่แพะ ปัญหาที่แท้จริงคือครอบครัว
ไม่อยากให้กลัวเกม เพราะมันผิดประเด็น ปัญหาเด็กติดเกมไม่ใช่เกิดจากตัวเกมเอง แต่เกิดจากปัญหาที่อยู่เบื้องหลัง การติดเกมเป็นแค่สัญญานเตือนบางอย่าง พ่อแม่หลายคนเคยเดินมาหาแล้วบอกว่า หลังจากหยุดเกมไป ทำไมลูกไม่เห็นดีขึ้นเลย นั่นเพราะว่าปัญหาจริงๆนั้นมีอีกมากมาย เช่น การขาดวินัย การใช้เวลากับลูกที่ไร้คุณภาพ ความรุนแรงในครอบครัว การไม่พยายามรับฟังและเข้าใจลูกพวกนี้ต่างหากคือประเด็นที่ทำให้ลูกหันไปฝังตัวอยู่ในเกมแทน
"เรากำลังเผลอโทษเอาเกมเป็นแพะแทนปัญหาครอบครัว ปัญหาเด็กติดเกมเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา ส่วนที่อยู่ใต้น้ำนั้นมีขนาดมหึมา"
เล่นเกมให้เหมาะกับวัยช่วยพัฒนาการเรียนรู้
อาจารย์บัญญพนต์ พูลสวัสดิ์ หัวหน้าหลักสูตรการออกแบบเชิงโต้ตอบและการพัฒนาเกม วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยีและ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า เด็กที่เล่นเกมไม่ทำให้เสียการเรียนหากจัดสรรเวลาอย่างดี โดยข้อดีของเกมคือเกมสามารถพัฒนาการเรียนรู้ แต่ต้องเลือกเกมที่จะเล่นให้เหมาะสมแก่ช่วงวัย เนื่องจากเกมมีหลากหลายรูปแบบมีเรทของเกมที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น เด็กวัยเล็กก็เล่นเกมที่สมวัย เกมจับคู่ก็จะทำให้เด็กมีพัฒนาการความจำที่ดีขึ้น ส่วนที่เด็กที่โตขึ้นมาหน่อยก็พยายามหาเกมที่ตอบโจยท์ เช่น เกมการจำลอง เกมเลี้ยงสัตว์ หรือ เกมสร้างเมือง เพื่อให้เด็กหัดแก้ปัญหาในเชิงกว้างและลงลึกในรายละเอียด ต่อมาเด็กที่เป็นวัยรุ่นก็ควรจะจัดเรทว่ามีการเล่นเกมที่มีภาพลามก อานาจารหรือไม่ และมีภาพที่รุนแรงไหม โดยที่ให้เขาหาเกมที่มันสร้างสรรค์ การเล่นเกมทำให้เด็กมีทักษะการแก้ปัญหาที่ดีกว่า
เกมสามารถสร้างทักษะให้คนผู้เล่น สมัยนี้จะมีกีฬา อี-สปอร์ต อย่างเกม MOBA เป็นเกมที่ฝึกการเล่นเป็นทีมการวางแผน เนื้อหาของเกมคือการไปโจมตีอีกฝ่าย โดยมีตัวละครและความสามารถที่หลากหลาย ดังนั้น 5 คน ต้องมีหัวหน้าทีมต้องมีการวางแผนต้องมีการคุยกัน ต้องมีการวางกลยุทธ์ทำอย่างไรก็ได้เพื่อที่จะชนะอีกทีม คือเกมจะสอนเรื่องทักษะการแก้ไขปัญหาและเรื่องการทำงานเป็นทีม การตัดสินใจ
พฤติกรรมความรุนแรงเกิดจากเลียนแบบเกมหรือครอบครัว?
ในกรณีที่สังคมชอบมองว่าถ้าเล่นเกมรุนแรงจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบนั้น อยากจะให้มองย้อนกลับไปว่าพ่อแม่เลี้ยงลูกดีแล้วหรือยัง ? อีกประเด็นคือลูกคุณมีปัญหามาก่อนหน้านั้นหรือไม่ ? ทำให้ไม่สามารถแยกแยะเรื่องเหล่านี้ได้ มันเป็นสิ่งสะท้อนเลยว่าคุณดูแลลูกดีแล้วหรือยัง ส่วนหนึ่งที่ทัศนคติที่มีต่อเกมมันแย่เพราะผู้ใหญ่ทำให้มันแย่เองและไม่ดูแลให้ดีเอง
แนะผู้ปกครองเล่นเกมกับเด็ก เพราะยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ
นายชนิกนันท์ ทิพย์ไพโรจน์ ผู้ก่อตั้งทีม MiTH (ทีมอี-สปอร์ต) และเจ้าของเว็บไซต์ FPSthailand กล่าวว่าเกมมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่แล้ว แต่ในยุคปัจจุบันการที่จะแยกเกมออกจากชีวิตประจำวันทำได้ค่อนข้างยาก เพราะตอนนี้อินเตอร์เน็ตเข้าไปถึงทุกที่ ขนาดในมือถือยังมีเกมให้เล่น ดังนั้นการที่จะห้ามไม่ให้เด็กเล่นเกมเลยดูจะเป็นไม้แข็งเกินไป การยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ถ้าเด็กอยากเล่นและพ่อแม่ยิ่งห้ามเด็กก็จะหาวิธีของเขาเองได้ โดยการแอบไปเล่นบ้านเพื่อน ร้านเกม ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ดังนั้นผู้ปกครองควรที่จะเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ถ้าเกิดผู้ปกครองเปิดใจและเรียนรู้พฤติกรรมของลูกน่าจะเป็นผลดีมากกว่า จริงๆแล้วผู้ปกครองลองเปิดใจมาเล่นเกมกับลูกเลยก็ได้ เพื่อให้ทราบว่าเกมนั้นเป็นยังไง ถ้าเกมไหนที่มีความรุนแรงผู้ปกครองก็สามารถที่จะสอนเด็กได้ถูกวิธี
พ่อแม่เข้าใจลูก ลูกก็ต้องเข้าใจพ่อแม่
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็มักจะมีเด็กมาปรึษาเรื่องที่ผู้ปกครองไม่เข้าใจและไม่อยากให้เล่นเกม ตัวจริงๆแล้วที่บ้านของผมเองก็ไม่เข้าใจและไม่ยอมรับ พ่อแม่ยังเคยพูดว่าอาชีพนี้เต้นกินรำกินเพราะจะเห็นพี่แว่นไปออกงานตามงานเกมต่างๆ หากอยากให้พ่อแม่เข้าใจเราเองก็ต้องเข้าใจพ่อแม่ด้วยว่าพ่อแม่ต้องการอะไร ถ้าพ่อแม่อยากให้ตั้งใจเรียนอ่านหนังสือเราก็ทำตรงนั้นให้เสร็จก่อนและค่อยเล่นเกม ซึ่งการแบ่งเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญ เช่นเดียวกับการเรียน
การเรียนต้องมาก่อน เกมเป็นเรื่องรอง
“ในเรื่องของนักกีฬาอี-สปอร์ตนั้นประเทศไทยยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง แนะนำให้น้องๆที่ต้องการเดินมาทางนี้ตั้งใจเรียนเป็นหลักไว้ก่อน อยากเล่นเกมก็ทำการบ้าน อ่านหนังสือให้เรียบร้อยก่อน ย้ำไว้เลยว่ายังไงก็ต้องเรียน เพราะประเทศไทยยังไม่มีอาชีพนักกีฬาอี-สปอร์ตแบบจริงจัง ส่วนตัวคาดว่าจะมีเป็นรูปเป็นร่างในอีก 1-2 ปี ข้างหน้า ”
ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.digitalagemag.com
ユウタ君 เกมส์เป็นแค่แพะ ปัญหาจริงๆคือครอบครัว ในที่สุดความจริงก็ถูกเปิดเผยแล้ว
31 พ.ค. 2560 เวลา 05.27 น.
NONAME ใช้เวลาเลี้ยงลูก นะครับอย่างอื่นเป็นปลีกย่อย
31 พ.ค. 2560 เวลา 05.16 น.
ในฐานะคนนึงที่ชอบเล่นเกมมาก เกมไม่ใช่ปัญหานะครับ ปัญหาคือครอบครัว มีเวลาให้มั้ย เล่นแต่พอดี แบ่งเวลาให้เป็น เรียนคือเรียน เล่นก็เต็มที่
31 พ.ค. 2560 เวลา 06.13 น.
คมแห่งความรัก🙄😭 ดีคับแต่ต้องให้เด็กอยู่ความดูแลของผู้ครองดีกว่าป่อยให้เป็นขยะของสังคม
31 พ.ค. 2560 เวลา 05.41 น.
ธรรมวัตร สำคัญที่การแบ่งเวลาครับ ลูกผม8ขวบทั้งเล่นเกมส์ดูการ์ตูนจะได้คุยกับเพื่อนรู้เรื่อง มันเป็นสังคมของเด็กน้อยเขา แต่การเรียนไม่เคยเสียนะ ไม่นอนดึกตื่นแต่เช้า ทำการบ้านเองสงสัยถึงถามเรา
ถ้าเราอยู่กับเขาตลอดไม่ปล่อยให้เล่นคนเดียวแล้วคอยตอบเวลาเขาถาม เขาจะแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ รู้ว่าเล่นแค่สนุก มันไม่ใช่โลกในความเป็นจริง
31 พ.ค. 2560 เวลา 06.04 น.
ดูทั้งหมด