แม้ว่าประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ จะเป็นประเทศเล็กๆที่อยู่ใจกลางทวีปยุโรป และไม่มีพื้นที่ใดเชื่อมต่อกับทะเลเลย แต่ก็เป็นหนึ่งในที่ตั้งของเทือกเขาแอลป์ ซึ่งยอดเขาแอลป์ใน สวิตเซอร์แลนด์ หรือสวิสแอลป์นั้นเต็มไปด้วยยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ที่คนทั่วไปรู้จักกันดีก็คือ Matterhorn (4,478 เมตร) โดยมีทะเลสาบมากมายกระจายอยู่ทั่วประเทศ ในจำนวนนี้มี 9 แห่งที่สวยงามน่าเที่ยวมาก
และถึงจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ สวิตเซอร์แลนด์ ก็มีดีตรงที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันแสนงดงาม ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ตาม และสินค้าที่ประทับตราเครื่องหมายกากบาทสีขาวบนแบคกราวด์สีแดง ซึ่งเป็นธงชาติ สวิตเซอร์แลนด์ นั้นก็การันตีได้ถึงคุณภาพ แม้กระทั่งนาฬิกาสวิสก็ยังเป็นสินค้าส่งออกที่ชาวสวิสภาคภูมิใจเพราะมั่นใจได้ว่าเดินตรงเวลา ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกากลไกหรือนาฬิกาควอตซ์ หรือกระทั่งผลิตภัณฑ์ชีสและช็อคโกแลตของสวิสก็ขึ้นชื่อว่ามีรสชาติอร่อย เหมาะเป็นของฝากที่สมราคา
แต่การมาเยือน สวิตเซอร์แลนด์ ของ HELLO! ในครั้งนี้ ก็เพื่อขึ้นรถไฟชมวิว Grand Train Tour ซึ่งมีอยู่หลายสายด้วยกัน และเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ ซึ่งโดยมากเปิดทำการตลอดทั้งปี เริ่มจาก
Vigezzina-Centovalli
เส้นทางรถไฟที่พาผู้โดยสารจากเมือง Domodossola ไปยัง Locarno ด้วยระยะทาง 50 กม. พาลัดเลาะผ่าน 100 หุบเขา และสะพาน 83 แห่ง ตลอดระยะเวลาสองชั่วโมงของการเดินทางผ่านหุบเขาและหมู่บ้านเล็กๆที่สวยงาม นับเป็นประสบการณ์ที่ชวนให้นักเดินทางอยากนั่งอ้อยอิ่งอยู่บนรถไฟนานๆ และสำหรับใครที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตแบบท้องถิ่น ก็สามารถแวะเที่ยวตามเมืองต่างๆระหว่างทางได้อย่างสบายใจเลย
Centovalli Express เพิ่งได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยเมื่อไม่นานมานี้ และมอบประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบายทั้งรถไฟชั้น 1 และชั้น 2 นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถจับจองที่นั่งแบบ Vigezzo Vision ที่มีหน้าต่างขนาดใหญ่แบบพานอรามาได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีหูฟังที่มีคำบรรยายให้ฟังประกอบการนั่งรถไฟตลอดทาง เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถค้นพบรายละเอียดที่น่าประหลาดใจ และข้อมูลที่น่าตื่นเต้น เพียงแค่เปิดฟังผ่านสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือแล็ปท็อป เส้นทางสายนี้เปิดให้บริการมาจวนเจียนจะครบ 101 ปี บรรทุกผู้โดยสารจากอิตาลีไปสวิสและจากสวิสไปอิตาลีมาแล้วหลายพันคนในแต่ละปี ผ่าน 32 สถานี แต่เนื่องจากรถไฟไม่ได้แวะจอดทุกสถานี ผู้โดยสารอยากลงสถานีให้แจ้งพนักงานการรถไฟล่วงหน้า ถ้านั่งจาก Domodossola ให้เลือกนั่งด้านซ้าย เพราะจะได้เห็นหุบเขา Centovalli เต็มๆตา มองเห็นดอกไม้ป่าและโดยเฉพาะอย่างยิ่งไร่ไวน์ที่แสดงให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ต่างๆ สวยมากแบบก.ไก่ล้านตัวเลย
เส้นทางรถไฟสายนี้เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ถ้าไปในช่วงหน้าร้อนจะเห็นน้ำตก ส่วนหน้าใบไม้เปลี่ยนสีก็จะสวยไปอีกแบบ หรือหน้าหนาวหลังจากหิมะตกจะมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามไปอีกแบบ และหากไปในช่วงใกล้คริสต์มาสก็จะได้เที่ยวตลาดคริสต์มาสที่ Domodossola เสียก่อน หรือถ้าไปในช่วงหน้าร้อน ก็ให้แวะไปดู Locarno Film Festival ที่ Grand Hotel ได้อีกด้วย
Gotthard Panorama Express
เส้นทางรถไฟสายนี้เริ่มจาก Lugano (Bellinzona) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของสวิสท่ามกลางภูมิอากาศแบบเมดิเตอเรเนียนจนถึงตอนกลางของสวิส อุโมงค์ Gotthard ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1882 ผู้ที่เป็นต้นคิดในการเจาะอุโมงค์ทะลุเทือกเขาแอลป์ไปทางเหนือก็คืออัลเฟรด เอคเซ่น
ระหว่างทางจะเห็น Church of Wassen ได้ถึงสามมุมมองแตกต่างกัน ซึ่งทำให้เส้นทางนี้มีชื่อเสียงเรื่องวิวที่สวยงามติดอันดับโลก แนะนำให้จองตั๋วทางออนไลน์มาก่อน เพื่อจะได้มีที่นั่งแน่นอน เพราะวิวสวยจริงๆ โดยที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้
นอกจากนี้พนักงานการรถไฟยังมาแจกโปสการ์ด ให้ส่งถึงคนที่อยากให้ได้รับแบบฟรีค่าการ์ดและฟรีค่าส่งอีกด้วย จากนั้นจะลงเรือพลังไอน้ำแบบใหม่ที่ใช้น้ำมันแทนฟืนที่ Flüelen ข้ามทะเลสาบลูเซิร์น ผ่านสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์อย่างเช่น Rüttliwiese, Schillerstein และ Tell Chapel ซึ่งค่าเรือรวมอยู่ในค่าตั๋วรถไฟแล้ว
และยังสามารถสั่งซื้ออาหารและเครื่องดื่มรับประทานในเรือล่วงหน้า เพื่อจะขึ้นฝั่งที่ลูเซิร์นใกล้กับ Chapel Bridge อันโด่งดัง ใช้เวลาเดินทางห้าชั่วโมงครึ่ง ระยะทาง 182 กม. และเที่ยวลูเซิร์นต่อ เพราะลูเซิร์นยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งเรื่องเล่าและตำนานมากมาย
หรือผู้โดยสารจะนั่งรถไฟต่อไปยัง Arth-Goldau ที่เชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟ Rigi Railways ในทางกลับกันผู้โดยสารยังสามารถเลือกเริ่มต้นการเดินทางจากสถานีนี้ได้ด้วย เพื่อไปยัง Lugano
Voralpen-Express
สวิตเซอร์แลนด์ยังมีเส้นทางรถไฟที่มีวิวงดงามอยู่อีกเส้นทางหนึ่ง นั่นคือเส้นทางสาย Voralpen-Express ที่เชื่อมระหว่างตอนกลางไปยังภาคตะวันออกของสวิส หลังจากซึมซับประสบการณ์และภาพทิวทัศน์อันสวยงามน่าประทับใจของลูเซิร์นแล้ว ก็ได้เวลาของการนั่งรถไฟที่ไต่ไปตามเทือกเขาและหุบเหวอันสูงชันกว่า 4,000 เมตร
เราจะได้พบกับหมู่บ้านน่ารักๆ และสวนผลไม้สองข้างทาง จึงไม่น่าแปลกที่รถไฟสายนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Grand Train Tour แห่งสวิตเซอร์แลนด์ รถไฟสีทองแดงจะแล่นผ่านเนินเขาใน Toggenburg และสะพานรถไฟ Sitter Viaduct ที่สูงถึง 99 เมตร ถือเป็นสะพานรถไฟที่สูงที่สุดในสวิส เพื่อจะจบเส้นทางที่ St.Gallen (ซังกาลเลน) อันเป็นที่ตั้งของ Abbey District ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก
Travel Tips
การเดินทางด้วยรถไฟในสวิส สามารถซื้อทางออนไลน์ (ควรจองชั้น 1) จะได้ SWISS PASS ที่เพียงแค่โชว์ตั๋วที่ดาวน์โหลดมาไว้ในสมาร์ทโฟนก็สามารถโชว์ให้พนักงานตรวจตั๋วได้อย่างสะดวกดาย นอกจากจะไม่ต้องเหนื่อยขับรถเองแล้ว ยังสามารถแพลนเวลาได้ เพราะสามารถเช็คเวลาในตารางเดินรถที่ดาวน์โหลดมาไว้ในสมาร์ทโฟนได้
Cr:Photos: sam.myswitzerland.com