แม่ค้ากุมขมับ เจอลูกค้าสั่ง ‘ทาร์ตไข่’ ก่อนเจอคอมเพลนสุดงง หน้าไหม้ กินไม่ได้มีผลต่อสุขภาพ จนร้านถูกปิด ระงับระบบการใช้งาน
เรียกได้ว่ากำลังกลายเป็นเรื่องราวที่ชาวโซเชียลฯ ให้ความสนใจ และต่างพากันแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก เมื่อแม่ค้าร้าน “ทาร์ตไข่” ในแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ รายหนึ่ง ได้ออกมาแบ่งปันประสบการณ์ พร้อมโพสต์ภาพ ผ่านกลุ่ม "พวกเราคือผู้บริโภค" หลังมีลูกค้ามารีวิวทาร์ตไข่ จนร้านถูกระงับการใช้เงิน
“แบบนี้ปกติเรียกว่า ไหม้ จนรับประทานไม่ได้หรือเปล่า?? เราขายทาร์ตไข่ในเดลิเวอรี่เจ้าหนึ่ง แล้วลูกค้าสั่งเข้ามา 2 รอบ กดรายงานร้าน 2 รอบ แจ้งว่าไหม้ รับประทานไม่ได้ได้รับเงินคืนทั้ง 2 รอบ ล่าสุด ตอนนี้ร้านโดนแจ้งปิดระบบ เพราะโดนลูกค้าคนนี้รายงาน”
อีกทั้งทางเพจของร้านขายขนมดังกล่าว ยังเผยว่า “บอกเราที ร้านเราผิดตรงไหน ปวดใจมากเลย เจอลูกค้ารายงานเรื่องนี้จากลูกค้าคนเดียวกัน ติดต่อกันในเดือน ส.ค. เห็นใจร้านด้วยนะคะ ร้านโดนปิดในระบบเลยนะคะ
**ทาร์ตไข่มันต้องหน้าไหม้อะ ตามแบบฉบับของมัน แล้วมารายงานเราเอาเงินคืนไปอีก รายงานมา 2 รอบ ล่าสุดโดนปิดร้านในแอพพ์เดลิเวอรี่เรียบร้อย ขายของกว่าจะได้เงินเขาน้อ
อย่ารังแกร้านค้าเลยค่ะ ใครเป็นแฟนคลับร้าน ถ้าอยากทานสั่งผ่านเพจร้านได้นะคะ จะมารับหรือให้ร้านไปส่งได้หมด ตอนนี้ร้านขาดรายได้หนักมาก..”
ท่ามกลางกระแสโซเชียลฯ คอมเมนต์แสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลามว่า หากเป็นสายชอบกิน “ทาร์ตไข่” จะคุ้นชินกับภาพที่บริเวณผิวของขนมมีลักษณะไหม้ๆ อยู่แล้ว ซึ่งการทำหน้าไหม้ๆ แบบนี้เรียกว่า“หน้าคาราเมลไลซ์” (Caramelized) หรืออบจนน้ำตาลเกรียมที่ผิวหน้าขนม เกิดจากส่วนผสม และการอบแบบพิเศษเพื่อดึงน้ำตาลให้ออกมาด้านบน ให้กรอบเกรียมหอมกรุ่นตามแบบฉบับของต้นตำรับจริง
ทว่า หลาย ๆ คนอาจจะไม่ชอบลักษณะพิเศษนี้ หรืออาจจะไม่ทราบว่าแบบนี้คือต้นฉบับ ไม่เพียงแค่นั้นบางมุมเรียกร้องให้ทางร้านฟ้องร้อง เพราะการคอมเพลนแบบนี้เหมือนเป็นการกลั่นแกล้ง ให้ร้านโดนปิด เสียรายได้
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางร้านยังได้อัปเดตความคืบหน้า ว่า “ขอบคุณพลังโซเชียลมีเดียทุกกลุ่ม ตอนนี้แอพเปิดให้ทางร้านรับออเดอร์ปกติแล้วนะคะ ตามปกติแจ้งว่าใช้เวลาพิจารณา 3-5 วัน”
Natcha คงต้องขึ้น blacklist ลูกค้ารายนี้ไปเลย เหตุที่รักจะสั่งอาหาร หรือขนม แล้วไม่ศึกษาให้ดี ทำให้ร้านเสียชื่อ และถูกปิดแพลตฟอร์มจนได้รับเสียหาย
06 ก.ย 2566 เวลา 00.44 น.
ดูทั้งหมด