ทั่วไป

แม่ร้อง “ปวีณา” วอนช่วยลูกสาวโดน บูลลี่-ทำร้าย จนคิดจบชีวิต

อีจัน
อัพเดต 27 ม.ค. เวลา 15.00 น. • เผยแพร่ 27 ม.ค. เวลา 08.00 น. • อีจัน

วันนี้ (27 ธ.ค. 68) ที่ มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แม่พาลูกสาวนักเรียนชั้น ม.2 วัน 14 ปี เดินทางจาก จ.กำแพงเพชร มาร้อง “ปวีณา” หลังลูกสาวถูกเพื่อนนักเรียนชายในห้องเรียน 2 คน รุ่นน้อง ม.1 และ รุ่นพี่ ม.3 รวมอีก 4 คน ร่วมกันบูลลี่ กลั่นแกล้ง และทำร้ายเป็นประจำ จนทำให้ลูกสาวเครียดจัดไม่อยากไปโรงเรียน ป่วยซึมเศร้า คิดสั้นกินยาเกินขนาด 30 เม็ด หวังจบชีวิต โชคดีที่พ่อแม่เห็นพาส่งโรงพยาบาลล้างท้องนอนอยู่โรงพยาบาลหลายวัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แม่เล่าว่า ลูกสาวเป็นเด็กค่อนข้างอ่อนแอ ไม่สู้คน ไปโรงเรียนทุกวัน ลูกสาวเล่าให้ฟังว่า เริ่มถูกกลุ่มเด็กนักเรียนชายกลั่นแกล้ง ช่วง ม.2 เทอม 1 โดย ด.ช.เอ กับ ด.ช.บี (ทั้งสองนามสมมุติ) ที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันชอบบูลลี่หน้าตา ด่าหยาบคาย ตบศีรษะ ถีบหลัง ยกขาพาดไหล่ เอาหนังสือเรียน และสมุดเรียน รองเท้านักเรียน เสื้อคลุมนักเรียนไปทิ้งถังขยะหลังห้องเรียน ค้นกระเป๋าเอาผ้าอนามัยไปเล่นและไปแขวนหน้าห้องเรียนตะโกนพูดว่าเป็นของลูกสาวทำให้อายคนอื่น

และที่หนักสุดคือวันที่ 14 มิ.ย.67 ขณะที่ลูกสาวนั่งอยู่กับเพื่อนผู้หญิงที่ข้างสนามฟุตบอล ด.ช.เอ ได้แกล้งเตะฟุตบอลมาอัดใส่หน้าอย่างจัง…จนหน้ามืดเป็นลม ขณะที่ ด.ช.บี ที่ยืนดูอยู่ก็หัวเราะชอบใจ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ซึ่งหลังเกิดเหตุลูกสาวได้ไปบอกครูที่ปรึกษา ซึ่งครูได้ทำการตักเตือนไปแล้ว แต่ ด.ช.เอ กับ ด.ช.บี ก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมกลั่นแกล้งลูกสาวตนมาโดยตลอด แถมยังข่มขู่ห้ามไปบอกครูหรือบอกพ่อแม่อีกไม่งั้นจะโดนหนักกว่าเดิม และเวลาที่เพื่อนผู้หญิงจะเข้าไปช่วยก็ถูก ด.ช.เอ กับ ด.ช.บี ข่มขู่ด้วยเช่นกัน

ส่วน ด.ช.ซี (นามสมมุติ) รุ่นน้อง ม.1 อายุ 13 ปี ก็ชอบแกล้งผลักลูกสาว ด่าหยาบคาบทุกครั้งที่เจอหน้า ขณะที่ ด.ช.ดี (นามสมมุติ) รุ่นพี่ ม.3 ได้ทำร้ายลูกสาว เช่น เตะก้อนหินใส่หัวและขา จุดไฟแช็กใส่หน้า และบลูลี่

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แม่เล่าอีกว่า เวลาที่ลูกสาวถูกกลั่นแกล้งจะอดทนไม่กล้าบอกครูและพ่อแม่ มีแค่บางครั้งที่ลูกสาวทนกับเหตุการณ์ไม่ไหวถึงจะมาบอก และดูเหมือนว่าลูกสาวจะถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจหนักขึ้นเรื่อยๆ แม่มาสังเกตเห็นว่าระยะหลังเวลาลูกสาวเลิกเรียนกลับมาบ้านมักจะบ่นปวดหัวอยู่ตลอดไม่อยากไปโรงเรียน แม่จึงพาลูกไปหาหมออยู่บ่อยครั้งก็พบว่าลูกมีอาการเครียดก็รักษามาตลอด กระทั่งลูกสาวมาคิดสั้นกินยาเกินขนาด

แม่เสียใจมากที่ลูกทำแบบนี้ แม่ถามเหตุผลทำไมลูกถึงจะฆ่าตัวตาย ลูกบอกว่า

“ถูกเพื่อนแกล้งครูก็ได้แต่ทำทัณฑ์บนเรียกตักเตือนเท่านั้น ไปโรงเรียนก็โดนหนักกว่าเดิมทุกวัน ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว”

ฟังแล้วใจแม่แทบสลายอยากจะช่วยลูกให้ได้ ซ้ำร้ายหลังจากส่งลูกสาวไปล้างท้องรอดชีวิตแล้ว เมื่อเพื่อนที่โรงเรียนรู้ข่าว มีกลุ่มเพื่อนของเด็กนักเรียนชายทั้ง 4 คน ที่ก่อเหตุยังได้ส่งข้อความมาเยาะเย้ย เหน็บแนมว่า “โดนแค่นี้ถึงกับเป็นซึมเศร้าเลยหรือ?”

หลังได้ข้อความลูกสาวก็พยายามจะฆ่าตัวตายอีก ทุกคนในครอบครัวจึงต้องดูแลน้องอย่างใกล้ชิด แม่คิดว่าเรื่องจะไปกันใหญ่แล้วจึงมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการช่วยเหลือเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาในโรงเรียน โดยได้ประสาน ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ,ดร.ตฤณ ก้านดอกไม้ ผอ.ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. ได้มอบหมายให้ นายธีรดนย์ ศรีฟ้า ผอ.กลุ่มส่งเสริมความสุขและความปลอดภัย ศสป. สพฐ. และเจ้าหน้าที่ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. มาร่วมประชุมและรับเรื่อง

โดยให้ตั้งคณะกรรมการสอบโรงเรียนให้มีมาตราการลงโทษนักเรียนผู้กระทำผิด หากพบมีการกระทำความผิดจริงก็จะต้องดำเนินการลงโทษตามมาตรการ และให้ผู้ปกครองเข้ามารับทราบ เนื่องจากนักเรียนที่กระทำความผิดยังเป็นเยาวชน ซึ่งไม่ควรจะทำแบบนี้กับเพื่อน หรืออาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะร่วมกับ สพฐ. ช่วยเหลือ ด.ญ. 14 ปี ผู้เสียหายต่อไป

ส่วนเรื่องการย้ายโรงเรียน นายธีร์ดนย์ ศรีฟ้า ผอ.กลุ่มส่งเสริมความสุขและความปลอดภัย ศสป สพฐ. กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาใน จ.กำแพงเพชร เรื่องการย้ายโรงเรียนของน้อง ซึ่งช่วงนี้ใกล้จะจบภาคการศึกษาช่วงชั้นเรียน ทางโรงเรียนเดิมจึงจะได้จัดการเรียนการสอนให้กับน้องที่บ้านเพื่อให้จบชั้น ม.2 ก่อนจะย้ายไปโรงเรียนใหม่

ขณะเดียวกันทางกระทรวงศึกษาธิการมีนักจิตวิทยาจะได้ส่งเข้าไปดูแลสภาพจิตใจของน้องด้วย โดยกระทรวงศึกษาธิการจะติดตามการช่วยเหลือดูแลสภาพจิตใจของน้องทั้งระยะสั้นและระยะยาวต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ