ทั่วไป

ด่วน! รวบนักข่าวสาวแอบอ้าง ‘บิ๊กโจ๊ก’ เรียกเงิน 33 ล้านจากแก๊งอุ้มบุญจีนเทา

The Bangkok Insight
อัพเดต 27 พ.ค. 2566 เวลา 11.54 น. • เผยแพร่ 27 พ.ค. 2566 เวลา 11.52 น. • The Bangkok Insight

ด่วน! รวบนักข่าวสาวแอบอ้าง "บิ๊กโจ๊ก" เรียกเงิน 33 ล้านบาทจากแก๊งอุ้มบุญจีนเทา อ้างสนิทมากช่วยล้มคดีได้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า กรณีคดีของนางสาวนวพร อายุ 53 ปี เจ้าแม่แก๊งอุ้มบุญให้ทุนจีนสีเทา ที่ถูกตำรวจจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ และอยู่ระหว่างเพิกถอนสัญชาติ ซึ่งจากการสอบปากคำนางสาวนวพรเพิ่มเติม พบมีนักข่าวสาวไทยเชื้อสายจีน ลูกครึ่งไทย-ไต้หวัน เรียกรับเงินจากผู้ต้องหา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
บิ๊กโจ๊ก

"นักข่าวคนดังกล่าวอ้างว่าสนิทสนม และทำงานใกล้ชิดกับตน จึงสามารถวิ่งเต้นล้มคดีของนางสาวนวพรและสามารถช่วยเหลือคนจีน ซึ่งเป็นอาชญากรคนอื่น ๆ ได้ โดยเรียกรับเงินจำนวน 33 ล้านบาท แต่นางสาวนวพรจ่ายไปเพียง 14 ล้านบาท" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

จากการสอบสวนและสืบสวน และรวบรวมหลักฐาน ของตำรวจฝ่ายสืบสวนพบมีมูลความจริง จึงเสนอศาลขอออกหมายจับนักข่าวสาวคนดังกล่าว เมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) ในข้อหาเรียกรับหรือยอมจะรับผลประโยชน์ใด ๆ เพื่อจะให้เจ้าพนักงานของรัฐกระทำการใด ที่ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ ก่อนเข้าจับกุมช่วงเย็นวานนี้ บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน พร้อมยื่นขอประกันตัว โดยพนักงานสอบสวน อนุญาตได้ประกันตัวได้ในวงเงิน 3,500,000 บาท

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
บิ๊กโจ๊ก

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุอีกว่า พฤติการณ์การกล่าวอ้าง หรือแอบอ้างตนว่าจะสามารถช่วยเหลืออาชญากร หรือเรียกรับผลประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าบุคคลดังกล่าวจะเป็นใคร ไม่ว่าจะเป็นลูกน้อง เพื่อน หรือนักข่าว เมื่อแอบอ้างชื่อตน เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งก่อความเสียหายให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนจะไม่ละเว้น ต้องขอดำเนินคดีทุกราย ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เห็นเป็นข่าวแล้วหลายคดี ทั้งเพื่อนร่วมรุ่น หรือแม้แต่นักข่าว ก็ถูกดำเนินคดีมาแล้ว

"กรณีนักข่าวสาวคนดังกล่าว ยอมรับทำงานให้กับผมจริง ซึ่งใช้งานประสานกับทางการจีนเพราะนักข่าวสาวคนนี้สามารถใช้ภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่วและเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในฝั่งประเทศจีน แต่เมื่อกระทำผิด ต่อให้เป็นบุคคลใกล้ชิด มากกว่านี้ก็ต้องดำเนินการ ตามกระบวนการของกฎหมาย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สำหรับความผิดในข้อหาเรียกรับ หรือยอมจะรับผลประโยชน์ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งเมื่อทำผิดก็ต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • nate
    ใครละชื่อแซ่ไม่บอกด้วย555คงคนใหญ่คนโตละสิ
    27 พ.ค. 2566 เวลา 13.28 น.
ดูทั้งหมด