ทั่วไป

(คลิป) “เต้” ไหว้ขอโทษ ‘ศักดิ์สยาม’ หน้าศาลบุรีรัมย์ ยอมรับกล่าวหาชู้สาว-คลัสเตอร์โควิดไม่จริง-ทำเสียชื่อเสียง

Manager Online
อัพเดต 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

บุรีรัมย์ - “เต้ มงคลกิตต์” อดีต ส.ส. ยกมือไหว้ขอโทษ “ศักดิ์สยาม” อดีต รมว.คมนาคม หน้าศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ยอมรับกล่าวหาเรื่องชู้สาว และคลัสเตอร์โควิด ทั้งที่ไม่เป็นความจริงทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ย้ำลูกผู้ชายทำผิดยอมรับผิดและขอโทษ ขอบคุณที่ให้อภัย ด้าน “ศักดิ์สยาม” เผยเห็นในความตั้งใจที่ขอโทษอย่างจริงใจจึงให้อภัย แต่ต้องโพสต์โซเชียลฯ ขอโทษและคงไว้ไม่ต่ำกว่า 10 ปี หากไม่ทำตามข้อตกลงต้องจ่ายค่าเสียหาย 5 ล้าน

วันนี้ ( 22 ม.ค.) จากกรณีที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ พระราม 7 อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ไลฟ์สดกล่าวหานายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไปเที่ยวผับย่านทองหล่อ จนทำให้เกิดคลัสเตอร์แพร่ระบาดโควิด-19 เมื่อปี 2564 และมีการกล่าวหาทั้งเรื่องชู้สาวอีกหลายกรณี จนถูกนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ซึ่งดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม ในขณะนั้นได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงได้มอบหมายให้ทนายความแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ แต่นายมงคลกิตต์ไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก จึงถูกออกหมายจับโดยศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ข้อหา "หมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณาในระบบคอมพิวเตอร์ สร้างความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์"

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จากนั้นคดีเข้าสู่กระบวนการศาล โดยล่าสุดวันนี้ (22 ม.ค. 68) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รมว.คมนาคม ในฐานะโจทก์ร่วมและเป็นผู้เสียหายในคดี พร้อม นาย มงคลกิตต์ จำเลย และทนายความ ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ หลังนัดสืบพยานนัดแรก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่ในวันนี้ทั้งโจทก์และจำเลยมีการพูดคุยไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความกันในชั้นพิจารณาคดี แต่โจทก์มีเงื่อนไขให้จำเลยขอโทษในสื่อโซเชียลฯ ต่างๆ ตามข้อตกลง แล้วโจทก์จะถอนฟ้องในคดีดังกล่าว

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กล่าวว่า จากกรณีที่ตนเองเคยไลฟ์เฟซบุ๊ก วันที่ 17 เม.ย. 64 และมีการโพสต์ ในวันที่ 24 เม.ย. 64, 27 เม.ย. 64 และวันที่ 1 พ.ค. 64 หลายเหตุการณ์ เช่น เรื่องการแพร่ระบาดโควิด คริสตัลทองหล่อ โพสต์เฟซบุ๊ก ภาพ นายศักดิ์สยาม กับผู้หญิง 2-3 คน ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด คลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริง ทั้งมีการกล่าวหานายศักดิ์สยาม ในลักษณะชู้สาวกับผู้หญิง ซึ่งไม่เป็นความจริง ทั้งยังมีการให้สัมภาษณ์สื่อช่องหนึ่งพาดพิงถึงนายศักดิ์สยาม เกี่ยวกับคลัสเตอร์สุโขทัย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของตัวเอง ทั้งที่ความจริงนายศักดิ์สยาม ไม่ได้ไปอยู่ในเหตุการณ์นั้น จนนำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีต่อตนเอง ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 64 หลังจากนั้นก็มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในฐานะฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายมงคลกิตติ์ยอมรับว่าทั้ง 4 เหตุการณ์เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของตัวเอง ทำให้กระทบต่อชื่อเสียงของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อัยการจึงสั่งฟ้องฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และส่งฟ้องศาล ล่าสุดมีการสืบพยานนัดแรก ท่านผู้พิพากษาก็เปิดโอกาสอะไรที่พอพูดคุยกันได้ก็ให้คุยกัน ซึ่งตัวเองก็พร้อมคุยและขอโทษนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในกรณีที่ล่วงเกินไปทำให้ต้องเสียชื่อเสียงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนายศักดิ์สยามให้ความกรุณา ให้อภัย ก็ถอนฟ้องในคดีอาญาให้

ข้อตกลงในศาลตัวเองก็จะลงโพสต์เฟซบุ๊กเป็นระยะเวลา 15 วัน แล้วบันทึกเทปในติ๊กต็อก เป็นเวลา 15 วัน ซึ่งเหตุการณ์มันผ่านไปแล้วอะไรที่ผิดตัวเองก็ยอมรับผิด ก็ขอโทษ ซึ่งนายศักดิ์สยามก็ให้อภัย ก็ดีใจที่ให้อภัย ซึ่งในตอนนั้นมันคนละบทบาท ช่วงนั้นท่านเป็นรัฐมนตรี ส่วนตัวเองเป็นฝ่ายค้านก็เป็นการกระทบกระทั่งกันบ้าง ตัวเองในฐานะเป็นลูกผู้ชายผิดก็ยอมรับผิด พี่โอ๋ ก็เป็นผู้ใหญ่ใจดีก็ให้อภัย ยืนยันไม่มีใครบังคับ เพราะรัฐบาลชุดที่แล้วมีคนเดียวที่กล้าฟ้องตนเองก็คือพี่โอ๋

จากสิ่งที่เกิดขึ้นอยากฝากว่าการดำเนินการในฐานะฝ่ายค้านต้องตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบ เพราะถ้าไม่รอบคอบก็อาจจะถูกฟ้อง มีหลายเหตุการณ์ที่หลายคนถูกฟ้อง บางรายก็ประนีประนอมกันได้ แต่บางรายประนีประนอมกันไม่ได้ แต่ฝ่ายค้านและรัฐบาลมันไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร สุดท้ายมาเป็นเพื่อนกันก็มี ตนในห้วงที่ผ่านมาก็ทำหน้าที่หลายบทบาท การที่เดินทางไปบุรีรัมย์น่าจะ 10 ครั้ง ในคดีนี้ถือว่าเสียเวลา เสียเวลาที่จะไปดูแลพี่น้องประชาชน เพราะในอนาคตต้องทำหน้าที่ต่อ

หลังจากให้สัมภาษณ์ นายมงคลกิตติ์ได้ยกมือไหว้ขอโทษนายศักดิ์สยาม ซึ่งนายศักดิ์สยามก็รับไหว้

ด้าน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมา 4 ปีแล้ว มีการนำเข้าสู่การอภิปรายและมีการชี้แจง ซึ่งขณะนั้นนายมงคลกิตติ์ก็เป็นฝ่ายค้านไม่ได้มีการพูดคุยกัน ตนรออยู่ว่าเมื่อไหร่นายมงคลกิตติ์จะดำเนินการอะไรที่เป็นเรื่องจริง กระทั่งเมื่อวานที่มีการสืบพยานนัดแรก นายมงคลกิตติ์เดินเข้ามาทักทายและเข้าไปในห้องพิจารณา ก็มีการพูดคุยกันว่าถ้าจะมีการไกล่เกลี่ยขอโทษกันตนจะว่าอย่างไร ซึ่งตนไม่ได้ขัดข้อง แต่ต้องทำเรื่องจริงให้ปรากฏ ว่าเรื่องที่ได้กล่าวหากันความจริงเป็นอย่างไร ซึ่งนายมงคลกิตติ์ยอมรับว่าทุกเรื่องไม่เป็นความจริง เมื่อนายมงคลกิตติ์ยอมรับแล้ว ตนก็ยินดีที่จะให้อภัย แต่ในสิ่งที่เกิดขึ้นประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่คลาดเคลื่อนเมื่อ 4 ปีที่แล้ว

ดังนั้นจึงได้เรียกต่อศาลว่า ได้ขอนายมงคลกิตติ์ แก้เรื่องดังกล่าวให้ ด้วยการลงสื่อโซเชียลต่างๆ เป็นเวลา 15 วัน เพื่อให้เห็นว่านายมงคลกิตติ์มีความจริงใจที่จะขอโทษและแก้ไขให้เกิดข้อเท็จจริง ซึ่งที่ผ่านมานายมงคลกิตติ์ทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้ดี แต่อยากฝากให้ตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบก่อน

คิดว่าน่าจะเป็นกรณีศึกษาสำหรับคนที่จะทำหน้าที่ต่อจากนี้ หรือใครก็ตามที่จะกล่าวหาใครควรตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบ เพราะจะเสียเวลาและเสียชื่อเสียงทั้งสองฝ่าย ดีใจที่นายมงคลกิตติ์ทำเรื่องนี้ให้ได้ข้อยุติ และหวังว่านายมงคลกิตติ์จะไม่ทำอะไรกับตนเองแบบนี้อีก ทั้งกล่าวทิ้งท้ายว่าในความเป็นจริงคนไทยทุกคนเป็นพี่น้องกันอยู่แล้ว ซึ่งในการอภิปรายที่ผ่านมาตนไม่เคยดำเนินคดีใครเลย แต่นายมงคลกิตติ์ เอาเรื่องส่วนตัวของตัวเองซึ่งไม่ใช่เรื่องจริงมาพูด จำเป็นต้องดำเนินคดีเพื่อให้เกิดความจริง

หลังจากวันนี้ต้องรอดูว่านายมงคลกิตติ์จะดำเนินการโพสต์โซเชียลและไลฟ์ในติ๊กต็อกขอโทษให้ครบ 15 วันหรือไม่ เพราะในสัญญาประนีประนอมต้องทำต่อเนื่อง และต้องคงไว้ในโซเชียลเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี แต่หากมีการลบต้องจ่ายค่าเสียหาย 5 ล้านบาท

หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ นายมงคลกิตติ์ และนายศักดิ์สยาม ก็มีการจับมือกันเพื่อแสดงออกว่ามีการขอโทษและให้อภัยกัน

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ