ไอที

ฟินแลนด์พร้อมใช้คลื่นทะเลผลิตไฟฟ้า หลังซุ่มพัฒนากว่า 31 ปี

TNN ช่อง16
เผยแพร่ 12 ก.พ. เวลา 09.14 น.
บริษัทด้านพลังงานในฟินแลนด์ เตรียมพร้อมใช้เครื่องผลิตไฟฟ้าจากคลื่นทะเลเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก หลังใช้เวลาพัฒนาต้นแบบและทดสอบกว่า 31 ปี

พลังงานจากคลื่นทะเลเป็นหนึ่งในแหล่งพลังงานทางเลือกที่ TNN Tech นำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด เอดับเบิลยู เอเนอร์จี (AW-Energy) บริษัทด้านพลังงานสะอาดสัญชาติฟินแลนด์ ก็ได้เปิดแผนการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ จากเครื่องให้กำเนิดไฟฟ้าพลังงานคลื่นทะเล กำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ (MW) อย่างเป็นทางการแล้ว

ข้อมูลเครื่องผลิตไฟฟ้าจากคลื่นทะเลสัญชาติฟินแลนด์

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เครื่องผลิตไฟฟ้าจากคลื่นทะเลดังกล่าวมีชื่อว่า เวฟโรลเลอร์ (Waveroller) กำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 1 เมกะวัตต์ เริ่มต้นพัฒนาในปี 1993 จากการเห็นซากเรืออัปปางเคลื่อนไหวจากกระแสคลื่นใต้ทะเล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคลื่นใต้ทะเลมีพลังงานซ่อนเร้นอยู่จนเป็นแนวคิดผลิตไฟฟ้าขึ้นมา โดยตัวเครื่องออกแบบเป็นทุ่นลอยน้ำทรงกล่องสี่เหลี่ยมความยาว 30 เมตร กว้าง 25 เมตร และสูง 5 เมตร

โดยการใช้งานจะนำ Waveroller ไปติดตั้งที่พื้นทะเลห่างชายฝั่งระหว่าง 0.3 - 2 กิโลเมตร ส่วนที่สูงที่สุดมีลักษณะคล้ายกำแพงกันคลื่นจะทำหน้าที่รับคลื่นและขยับในลักษณะคล้ายคันโยก เพื่อดึงและผลักผ่านระบบไฮดรอลิกให้เกิดการผลิตไฟฟ้าที่ส่วนใต้ฐาน Waveroller ขึ้นมา ซึ่งตัวต้นแบบล่าสุดนั้นมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 350 กิโลวัตต์ (kW) แต่ทางบริษัทประกาศว่าสามารถขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 1 เมกะวัตต์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้งานเครื่องผลิตไฟฟ้าจากคลื่นทะเลสัญชาติฟินแลนด์

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทางบริษัทตั้งเป้าให้เกิดโรงผลิตไฟฟ้าในลักษณะของฟาร์มคล้ายฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่ง โดยมีชื่อเรียกสถานที่ในลักษณะนี้ว่าเวฟฟาร์ม (WaveFarm) ซึ่งเป็นสถานที่ทดสอบที่ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป (EU) ที่เริ่มผลิตไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2020 ที่มี Waveroller ติดตั้งตั้งแต่ 10 - 24 หน่วย ในแต่ละแห่ง

และหลังจากทดสอบอย่างต่อเนื่อง การศึกษาของบริษัทก็พบว่าการผลิตรายปีของ Wavefarm นั้นอยู่ที่ 624 - 813 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) และมีต้นทุนตลอดอายุการผลิต (levelized cost of energy: LCoE) อยู่ที่ 100 - 150 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3,600 - 5,400 บาทต่อเมกะวัตต์ชั่วโมงในขณะที่กังหันลมนอกชายฝั่งมีค่า LCoE อยู่ที่ 82 - 255 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2,900 - 9,100 บาทต่อเมกะวัตต์ชั่วโมง

ทั้งนี้ Waveroller มีแผนขยายการลงทุนและการผลิตเพิ่มอีกประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมากกว่า 10,600 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานมากกว่า 500 ตำแหน่ง และยังมีการบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (Memorandum of Understanding: MoU) กับบริษัทด้านพลังงานสะอาดสัญชาตินามิเบีย ประเทศที่ติดกับทางตะวันตกของประเทศแอฟริกาใต้ ในการนำ Wavefarm ไปติดตั้งตามแนวชายฝั่งในอนาคตอีกด้วย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ข้อมูลจาก New Atlas, Interesting Engineering

ภาพจาก AW-Energy

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ

ดูบทความอื่นๆ จาก TNN ช่อง16

ส่องราคาแบตเตอรี่ EV แต่ละรุ่นราคาเท่าไหร่
TNN ช่อง16
หรือนี่จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมวงการ EV ? แท่นชาร์จรถไฟฟ้าจาก UK อ้างชาร์จเต็มใน 6 นาที
TNN ช่อง16
มาแล้ว ! รถตู้ EV ไซส์เล็กจาก "ญี่ปุ่น" เตรียมขาย 2025 นี้ (ในสหรัฐอเมริกา)
TNN ช่อง16
ชี้เป้า 5 เว็บไซต์ลอยกระทงออนไลน์ 2023
TNN ช่อง16
10 อันดับ รถ EV ขายดีที่สุดในปี 2023
TNN ช่อง16
ที่สุดของรถ EV ในโลกปี 2023 คือรถรุ่นไหน ? จะเป็น Tesla หรือว่าเป็นรถจากจีน
TNN ช่อง16
นักวิทยาศาสตร์สร้างไม้โปร่งใส วัสดุที่อาจมาแทนที่พลาสติกในอนาคต
TNN ช่อง16
ไทยพบแหล่งลิเทียม 14.8 ล้านตัน ใหญ่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก เตรียมเป็นผู้เล่นหลักวงการ EV
TNN ช่อง16
เปิดตัว “OPPO Pad Neo” 10,990 บาท ได้จอ 2.4K พร้อม gadget หูฟังไร้สาย TWS อีก 2 รุ่น
TNN ช่อง16