EIA กับสัตว์ป่า
วันช้างไทย 13 มีนาคม 2567 เป็นโอกาสให้ได้ฟังคนทำกิจกรรม คนได้รับผลกระทบและนักวิจัยสัตว์ป่ามาสื่อให้ทราบว่าประเด็นของสัตว์ใหญ่ ทั้งในป่าหรือที่ถูกจับมาเลี้ยง มีเรื่องราวมากมาย ใกล้ตัวทุกคน จุดเริ่มต้นก็คนหน้าเหมือนเรานี่แหละ ตัวการ
การอนุรักษ์พื้นที่เป็นอุทยาน ทำให้สัตว์มีที่สงบ แต่การส่งเสริมอุตสาหกรรม และกิจกรรมการท่องเที่ยวแหล่งธรรมชาติ ก็ทำให้ชุมชนรอบป่าขยายตัว เพาะปลูกป้อนแหล่งแปรรูป และบริการผู้ไปเยือน
นักท่องเที่ยวซึ่งแวะเวียนชั่วครั้งคราว แผ่ความเมตตา ให้อาหารสัตว์ โดยไม่รู้ว่าเป็นการเพาะนิสัยการกินแบบใหม่ให้มัน แหล่งพืชพันธุ์รสหวานมันคือความสุนทรีย์ที่สัตว์ป่าพอใจ ได้มาง่ายๆ แค่นั่งรอ ไม่ต้องเดินไกล
รายงานจากนักวิจัยแจ้งว่าช้างป่าฝูงใหญ่ ซึ่งปกติออกเดินหากินเป็นวงรอบ 1 ปี จากภูหลวง จังหวัดเลย ผ่าน จังหวัดหนองบัวลำพู หรือ อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนใหญ่กลับหมด บางปีตกค้าง ระหว่างทาง ล่าสุดเคลื่อนไปอยู่แถวภูกระดึง ซึ่งมีแปลงไร่อ้อยขนาดใหญ่ใกล้เขตป่า
ก็หวานซี!
งานวิจัยพบว่า วิธีที่ได้ผลสำหรับพื้นที่ชิดเขตป่า ให้เลือกปลูกพืชผลที่ช้างไม่กิน เช่น ฝ้าย มะขามหวาน หรือกลุ่มพืชต้มยำ ข่า ตะไคร้ มะกรูด ยกเว้นบางอย่าง ต่างประเทศได้ผลอาจใช้ไม่ได้ในบ้านเรา เช่นช้างแอฟริกาไม่กินพริก ส่วนช้างไทยไม่เกี่ยง
แต่พืชที่ช้างไม่ชอบ ปลูกแล้วก็ติดขัดเรื่องตลาดรับซื้อ การแก้ปัญหาช้างป่าแย่งกินผลผลิตจึงไม่ได้จำกัดเฉพาะหน่วยงานอนุรักษ์ หรือหน่วยงานท้องถิ่น ระดับนโยบายด้านเศรษฐกิจ ผู้สนับสนุนทางการตลาดก็ต้องมา
กระทรวงอุตสาหกรรมกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องร่วมพิจารณาการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment EIA) ที่ดูเฉพาะผลต่อโครงสร้างพื้นฐานทางบก ทางอากาศ ทรัพยากรน้ำ อุตสาหกรรม ปิโตรเลียม พลังงาน การจัดสรรที่ดิน
ควรให้คลุมถึงทรัพยากรสัตว์ป่าด้วย
โรงงานแปรรูปอาหารที่จะทำให้เกิดผลผลิตการเกษตรในพื้นที่ชิดแนวเขตป่าไม่น่าจะมี
เรื่องช้างป่ารวมถึงสัตว์อื่นที่เริ่มต้นจากคนอย่างเรา ต้องเอาทุกหน่วยมาช่วยกัน
โยนหรือโทษใครไม่ได้ #
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ติดตามเราได้ที่