ทั่วไป

บิ๊กโจ๊ก คอนเฟอเรนซ์ ถกคดีฮั้วประมูล 'กำนันนก' บอกชาวนครปฐม ที่เดือดร้อนแจ้งได้ทันที

MATICHON ONLINE
อัพเดต 19 ก.ย 2566 เวลา 08.43 น. • เผยแพร่ 19 ก.ย 2566 เวลา 08.18 น.

บิ๊กโจ๊ก คอนเฟอเรนซ์ ถกคดีฮั้วประมูล ‘กำนันนก’ บอกชาวนครปฐมที่เดือดร้อนแจ้งได้ทันที

เมื่อวันที่ 19 กันยายนพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากประเทศจีน มาที่ประชุมตำรวจภูธรภาค 7 ประเด็นเกี่ยวกับการประชุมคณะทำงานตรวจสอบธุรกิจของ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก อายุ 35 ปี อดีตกำนันตำบลตาก้อง อ.เมืองนครปฐม ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของพ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ว่า วันนี้เป็นการบูรณาการการตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), กรมสรรพากร, กรมบัญชีกลาง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในการประชุมร่วมกันวันนี้ มีประเด็นหลักๆ ได้แก่ เส้นทางการเงิน และการฮั้วประมูลโครงการต่างๆ โดยมีตัวแทนของทุกหน่วยงานมาเข้าร่วม

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ในคดีของนายประวีณ ที่เป็นผู้สั่งการให้นายธนัญชัย เป็นผู้ยิง พ.ต.ต.ศิวกร เสียชีวิตนั้น ในเนื้อหาของสำนวนนั้นวันนี้ได้จบเสร็จสิ้นไปแล้ว ปัจจุบันทางกองปราบปรามได้รับสำนวนไปดำเนินการต่อ ในส่วนการสืบสวนสอบสวนนั้น ก็ได้สมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว มีพยานหลักฐานที่เพียงพอและสามารถเอาผิดกับผู้ที่กระทำผิดได้ ส่วนนายตำรวจอื่นๆ ที่อยู่ในวันเกิดเหตุนั้น กระทำผิดหรือไม่ ทางพนักงานสืบสวนนั้นได้ทำรายงานให้กองบังการปราบปรามเรียบร้อยแล้ว และจะเป็นผู้พิจารณาต่อไป ส่วนในการตรวจสอบธุรกิจของกำนันนกว่ามีร่องรอยการกระทำผิดมากน้อยเพียงใดนั้น เรียนว่าในวันนี้เป็นแค่การประชุมและตรวจสอบกันเบื้องต้น อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ฉะนั้นแล้ววันนี้จะยังไม่พบอะไรทั้งสิ้น

“ในการมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบให้แต่ละหน่วยงานนั้น ได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบตามที่หน่วยงานนั้นดูแลและรับผิดชอบในเรื่องนั้นอยู่แล้ว เช่น ในเรื่องของการฮั้วประมูล หรือการได้รับงานต่างๆ นั้น ก็เป็นหน้าที่ของ สตง. หรือ กรมสรรพากร ก็ตรวจสอบว่ามีการเลี่ยงภาษีหรือไม่ เป็นต้น เพราะฉะนั้นหลังจากการแบ่งมอบหน้าที่แล้ว ต่างหน่วยงานต่างทำงานที่ตนได้รับมอบหมายมา แต่ท้ายที่สุดแล้วจะสามารถทำงานร่วมกันได้หมด จากการประชุมบูรณาการการทำงานในครั้งนี้ ไม่ได้วางกรอบเวลาในการทำงาน แต่ว่าอย่างไรก็ต้องรวดเร็วที่สุด เพราะว่าเรื่องนี้นั้นเป็นเรื่องที่ประชาชนติดตามและให้ความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า ในการตรวจสอบย้อนหลัง สามารถย้อนตรวจสอบได้ทั้งหมดไม่ได้มีกรอบเวลามากำหนด หากเป็นการกระทำผิดจริงไม่ว่านานเท่าไหร่ก็จะทิ้งร่องรอยไว้เสมอ พื้นที่ของจังหวัดนครปฐมนั้นเป็นพื้นที่ที่แปลก เพราะว่า ไม่มีประชาชนคนไหนมาร้องเรียนตำรวจเลย จึงอยากจะแจ้งกับประชาชนว่า หากประชาชนคนใดได้รับความเดือดร้อนในกรณีของนายประวีณ ไปสร้างความเดือดร้อนโดยตรงหรือมีลูกน้องของนายประวีณเข้าไปเกี่ยวข้อง สามารถมาพบตนที่ตำรวจภูธรภาค 7 ได้เลย จะได้เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี การประชุมบูรณาการร่วม หน่วยงานทั้งหมดที่กล่าวมานั้นไม่ใช่ว่าเกิดของนายประวีณขึ้นมาสักพักค่อยตรวจสอบ เพราะทุกๆ หน่วยงานที่ได้มาบูรณาการร่วมกันตรวจสอบตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นแล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้ในแต่ละหน่วยงานนั้นได้มีการสั่งการมาจากผู้บังคับบัญชาหรือหน่วยงานแล้ว เพียงแต่ว่านับตั้งแต่วันนี้นั้นจะมีการทำงานร่วมกันที่ชัดเจนมากขึ้น

รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ในส่วนของที่เลขาฯของทาง ป.ป.ท.ได้ออกมาบอกว่า ตัวของนายประวีณนั้น มีความผิดในการฮั้วประมูลโครงการชัดเจนนั้น ยังไม่สามารถบอกได้ ทางคณะทำงานต้องขอประชุมและใช้เวลาในการตรวจสอบอีกสักพัก จึงจะสามารถบอกได้ เพราะตนนั้นต้องการที่จะไม่ให้ผู้ต้องหานั้นเข้าต่อสู้ด้วยกฎหมาย หากว่ายังไม่ชัดเจน เพราะอย่าลืมว่าการต่อสู้กับผู้ที่มีอิทธิพลนั้น โดยเฉพาะในเรื่องของเงินนั้น จะต้องเตรียมการต่อสู้โดยทนายไว้อยู่แล้ว จึงอยากจะทำการตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง แต่จากกรณี 1,500 กว่าโครงการที่ผู้ต้องหาได้ทำการประมูลไปนั้น หากผิดหนึ่งหรือสองโครงการก็สามารถดำเนินคดีได้อยู่แล้วและแต่ละทีก็โทษหนัก ส่วนในเรื่องของการยึดทรัพย์สินนั้น ต้องดูว่าทรัพย์นั้นได้มาอย่างไร เช่น ทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิด หรือทรัพย์ที่ได้มาจากการฟอกเงิน ฉะนั้นจะต้องดูเป็นกรณีไป

ในกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.ต.ศิวกร ที่ทาง บช.ก.มีการแถลงในลักษณะที่ว่าอาจจะต้องเริ่มต้นใหม่ ในเรื่องของการทำสำนวน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าทำใหม่นั้นหมายถึงอย่างไร เพราะทุกวันนี้ทาง บช.ก. และเป็นผู้สอบสวนอยู่แล้ว ไม่ได้มีใครไปก้าวก่าย เพียงแต่ว่าตำรวจภูธรภาค 7 และชุดสืบสวน ตร.ช่วยสนับสนุนในเรื่องการสืบสวน เพราะว่าคดีที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องใช้การสืบสวนนำการสอบสวน เพราะว่าที่เกิดเหตุ ณ วันที่เกิดเหตุนั้น เละเทะไปหมดแล้ว ตำรวจในที่เกิดเหตุ ไม่มีใครรักษาสถานที่เกิดเหตุไม่มีใครหยุดการกระทำความผิดซึ่งหน้าได้เลย ดังนั้นจึงจะต้องใช้ตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในพื้นที่และชุดสืบสวน ตร. เพียงแต่ว่าในเรื่องของการสอบสวนนั้นทาง ผบ.ตร.ได้โอนไปยัง บช.ก. ตั้งแต่วันแรกเเล้ว อย่าได้มองว่าเป็นเรื่องของความขัดแย้งให้มองว่าเป็นเรื่องของการทำงานร่วมกันจะดีกว่า ปัจจุบันนี้ทุกหน่วยงานต้องช่วยกันทั้ง บช.ก., กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจภูธรภาค 7

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า วันนี้สังคมคงเห็นเเล้วว่าสังคมไทยในปัจจุบัน ที่มีการพูดถึงในการเลือกผู้ว่าท้องถิ่นเองนั้นเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ เพราะว่าในแต่ละท้องถิ่นเองยังมีผู้ที่มีอิทธิพลระดับนี้กระจายอยู่ทั่ว ยังจะต้องเป็นการพิจารณาเพื่อแต่งตั้งไปก่อน

ในส่วนตัวเลขที่อาจจะไม่ตรงกับข้อมูลของทาง บช.ก. เช่น ผู้ต้องหาที่จะโดน ม.157 นั้นอาจจะไม่ถึง 13 คน หรือจำนวนกล้องวงจรปิดที่ใช้ได้ ในส่วนนี้ ก็ไม่ทราบว่าไปพิจารณากันอย่างไร เพราะว่าเป็นอำนาจของ บช.ก.แล้ว และที่ทำงานร่วมกันนั้น ที่ได้ออกมาบอกว่าที่กล้องใช้ได้ 13 ตัวนั้น ไม่ใช่ข้อมูลจากผม แต่เป็นข้อมูลจากกองพิสูจน์หลักฐาน และอีกสองตัวที่กู้ไม่ได้ เพราะ 1 ตัว หยุดใช้งานไปตั้งเเต่เดือนสิงหาคม และอีก 1 ตัว มีการกดปิดโดยผู้ต้องหา เพราะฉะนั้นตอนนั้นที่มีการตรวจสอบมา ได้ข้อมูลมาแบบนี้ โดยผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานได้ยืนยันกับผมเช่นนี้

รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า วันนี้จะไปเปลี่ยนแปลงอะไรนั้นทำได้ยากลำบาก เพราะว่ามันเป็นวิทยาศาสตร์ ใครละเว้นไม่ละเว้นนั้นว่าด้วยหลักฐาน ในส่วนของรายงานสืบสวนนั้น เราได้ทำการสืบสวนและตรวจสอบว่าใครน่าจะเข้าข่ายการกระทำผิด ม.157 ในส่วนนี้นั้นทาง บช.ก.ก็จะต้องนำไปพิจารณา อย่าลืมว่าวันนี้เป็นการแจ้งข้อกล่าวหากับนายตำรวจ หากแจ้งข้อหาไม่ครบ ผู้ที่เสียชีวิตหรือถูกลิดรอนสิทธินั้นจะทำการฟ้องร้องได้ เพราะฉะนั้นวันนี้ในการทำงานจะต้องยึดหลักความเป็นธรรม ตนมองว่าวันนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่ยากหากทำอย่างตรงไปตรงมา

“ส่วนในการตั้งข้อหา 157 นั้น ชุดสืบสวนได้ทำรายงานสืบสวนส่งไปแล้ว หลังจากนั้น บช.ก.ก็จะต้องไปพิจารณาว่าจะแจ้งข้อหาอย่างไรบ้าง เพราะฉะนั้นการแจ้งข้อกล่าวหานั้น ก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสืบสวนอยู่แล้ว”

ในกรณีของวัดบางคลาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า ปัญหานั้นได้เรื้อรังมาแปดปีเต็ม ในสิ่งแรกที่แปดปีเต็มไม่สามารถทำได้เลยก็คือการส่งมอบทรัพย์สิน ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ในส่วนนี้ตนได้ทำการปรึกษาที่ปรึกษาและได้ทำการตั้งคณะกรรมการ สุดท้ายนั้นตนได้ลงไปตรวจสอบและพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่จนได้ทำการเปิดทรัพย์สินของวัดได้ และได้ทำการตรวจสอบ และคืนให้กับทางเจ้าอาวาสวัดรูปปัจจุบันแล้ว แต่มีประเด็นหลักที่ตนลงไปเห็นคือประชาชนในพื้นที่กับเจ้าอาวาสวัดนั้น ขัดแย้งกันมาแปดปีเต็มๆ เพราะฉะนั้นวันนี้ตนจึงอยากจะเรียนทางเจ้าอาวาสว่า หลังจากมีการเปิดทรัพย์สินและทำการคืนแล้วทางเจ้าอาวาสควรสร้างความไว้ใจให้กับชาวบ้าน

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 2
  • ⛱️ saeng ☀️
    เออ ให้เพื่อนแสดงผลงาน ได้เสียงเชียร์ประชาชน จากนัันทำอะไรต่อละ ...อืม....ม....ถ้าจบแบบนี้ ประชาชนไม่กล้าสงสัย เบิดคำสิเว้า
    19 ก.ย 2566 เวลา 08.44 น.
  • ตะวันฉาย
    ตำรวจนครปฐมหลอกตำรวจส่วนกลางแน่ ยังไงก็ไม่ใช่ตัวจริง
    19 ก.ย 2566 เวลา 08.25 น.
ดูทั้งหมด