วัฒนธรรม “คำด่า” สมัยโบราณ ที่ขึ้นต้นด้วย “อี” มีสารพัดอี- ทั้ง อีกาก, อีขี้เ-ด, อีร้อยค-ย
เปิดคลังคำด่าที่ขึ้นต้นด้วย “อี”
หนังสือ อักขราภิธานศรับท์ ที่หมอบรัดเลย์ (Dan Beach Bradley) เป็นผู้รวบรวมและจัดพิมพ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2416 ได้รวบรวมคำในภาษาไทยไว้ราว 40,000 คำ และจัดคำอธิบายความหมายของคำนั้น ๆ ไว้ในลักษณะของพจนานุกรม
ที่น่าสนใจคือ “คำด่า” อันสะท้อนให้เห็นถึงการใช้ภาษา วัฒนธรรม กฎเกณฑ์ทางสังคม ฯลฯ ของสยามในช่วงเวลานั้น โดยในที่นี้จะยกคำด่าที่มี “อี” ขึ้นต้นมาบางส่วน ดังนี้
อีกาก, คือเปนคำหยาบสำหรับด่าหญิงคนโง่แล้วชั่วด้วยนั้น, เพราะหญิงนั้นเปรียบเหมือนกากของทั้งปวงนั้น.
อีโกง, เปนคำเขาด่าหญิงที่พูจไม่จริงว่าอีคนโกง.
อีขี้ข้า, คือเปนคำหยาบสำหรับด่าหญิงทาษีทั้งปวง, เปนคำด่าประจานหญิงนั้นว่าเปนข้าเขาเปนต้น.
อีขี้เย็ด, คือเปนคำหยาบด่าหญิงชั่ว, ที่อยากมีผัวมาก ๆ นั้น.
อีเคอะ, คือคำหยาบด่าหญิงชั่วแล้วโง่ด้วยนั้น, มีหญิงบ้าไม่ใคร่รู้อะไรเปนต้น.
อีชาติชั่ว, คือคำหยาบด่าถึงหญิงที่ไม่ดีนั้น.
อีแดกแห้ง, คือเปนคำหยาบด่าประจานหญิงเด็ก ๆ ว่าหญิงนั้นมีผัวแต่อายุสิบสองปี, ยังแห้งอยู่ไม่มีระดูเปนต้น.
อีดอกกะทือ, คือคำหยาด่าหญิง เปนคำผวนกลับเหมือนกัน.
อีดอกทอง, คือคำหยาบด่าหญิง, เปนคำผวนสำนวนกลับนั้น.
อีตอแหล, คือคำหยาบด่าหญิงโกหกนั้น.
อีทิ้มขึ้น, คือคำหยาบด่าประจานผู้หญิงว่าหญิงนั้นนอนเบื้องบนผัว ๆ นอนเบื้องล่างเปนต้นนั้น.
อีหน้าเกือก, เปนคำหยาบด่าประจานผู้หญิงว่าหน้าแขงไม่มีอายอย่างหนังเกือกเปนต้นนั้น.
อีหน้าด้าน, คือเปนคำหยาบด่าประจานหญิง, ว่าหญิงนั้นไม่มีอายหน้าด้านเหมือนส้นตีนนั้น.
อีหน้าเปน, คือคำหยาบด่าประจานหญิงว่าหน้าเปนคือไม่สลด, เช่นหญิงชั่วมาชู้หลายผัว, หัวเราะอยู่เสมอเปนต้น.
อีหน้าสด, คือเปนคำหยาบด่าประจานหญิงว่าหน้าไม่แห้งรื่นเริงอยู่เปนนิตย, เช่นหญิงคนชั่วนั้น.
อีเปรต, คือคำเขาด่าหญิงโดยโกรธ, ว่าอีเปรต ๆ นั้นเปนกำเนิดต่ำช้า, คนตายไปเกิดบ้าง, สัตวนะรกมาเกิดเปนเปรตบ้าง.
อีผีทะเล, คือคำด่าหญิงโดยโกรธ, ว่ามึงเหมือนผีที่มันอยู่ที่ทะเล ๆ คือคนเรือล่มจมนาตายเปนต้นนั้น.
อียักขินี, คือคำด่าหญิงโดยโกรธ, ว่ามึงราวกับอีขักขินีนั้น, มันร้ายกาจกินเนื้อมะนุษฤๅเนื้อสัตว์เปนอาหาร, ต่ำชาตินัก.
อีระยำ, คือคำด่าหญิงที่ทำให้เคืองใจ, เขาด่าว่าอีระยำ, คือคนนั้นเปนหญิงชั่วถ่อยหลายอย่างนั้น.
อีร้อยควย, เปนคำด่าหญิงว่ามีผัวร้อยคน, ถ้าหญิงใดคบชายมากก็ย่อมเปนที่อายนัก.
อีร้อยซ้อน, เปนคำด่าหญิงชั่วว่าอีร้อยซ้อน, อะธิบายความว่ามีผัวอยู่แล้วคบชายอีกร้อยคนนั้น.
อีเสเพล, เปนคำด่าหญิงชั่วว่าอีเสเพล, คือหญิงต่ำชาติต่ำสกูลไม่มีผู้ใดนับถือ เปนหญิงนักเลงนั้น.
อีห่าฟัด, เปนคำด่าหญิงโดยโกรธว่าอีห่าฟัด, ความว่าให้ผีห่าเช่นโรคลงรากเปนต้นเบียดเบียฬนั้น.
แม้คำด่าที่ขึ้นต้นด้วย “อี” เหล่านี้จะเป็นคำหยาบที่ใช้ด่าผู้หญิงโดยเฉพาะ แต่บางคำก็สามารถเปลี่ยนคำขึ้นต้นจาก “อี” เป็น “อ้าย” หรือ “ไอ้” ไว้สำหรับใช้ด่าผู้ชาย เช่น อีกาก-ไอ้กาก, อีเคอะ-ไอ้เคอะ, อีระยำ-ไอ้ระยำ เป็นต้น
สำหรับหนังสือ อักขราภิธานศรับท์ เล่มนี้ นับว่าเป็นพจนานุกรมไทยเล่มแรกที่จัดพิมพ์ขึ้นก่อนที่ราชการจะจัดทำพจนานุกรมใน พ.ศ. 2426 โดยมีพระยาปริยัติธรรมธาดา (แพ ตาละลักษมณ์) เป็นผู้จัดทำพร้อมคณะ ทั้งนี้ ก็ได้ยึดเอาหนังสือ อักขราภิธานศรับท์ เป็นหลักในการทำพจนานุกรมด้วย
อ่านเพิ่มเติม :
- วัฒนธรรม “คำด่า” (ในไทย) ทำไมต้อง “ดอกทอง”? คำสมัยก่อนเจ็บอย่างไร?
- “อีคนสามแยก” คำด่าตกรุ่นที่วันนี้ คนโดนด่าอาจไม่เข้าใจและไม่เจ็บเท่าที่ควร
- การใช้คำว่า “สัตว์” และยก “สัตว์ไม่ประเสริฐ” ใช้เทียบเคียงในวัฒนธรรมคำด่าแบบไทยร่วมสมัย
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 21 มีนาคม 2565
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : วัฒนธรรม “คำด่า” สมัยโบราณ ที่ขึ้นต้นด้วย “อี” มีทั้ง อีกาก, อีขี้เ-ด, อีร้อยค-ย
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com