ทั่วไป

“หมอประสิทธิ์” เผย โควิดรอบนี้หนัก มีโรคประจำตัวน่าห่วง ชี้ผู้ตายไม่น้อย ไตวาย-เลือดไม่เลี้ยงแขนขา

Khaosod
อัพเดต 10 ม.ค. 2564 เวลา 03.57 น. • เผยแพร่ 10 ม.ค. 2564 เวลา 03.57 น.
“หมอประสิทธิ์” เผย โควิดรอบนี้หนัก มีโรคประจำตัวน่าห่วง ชี้ผู้ตายไม่น้อย ไตวาย-เลือดไม่เลี้ยงแขนขา

“หมอประสิทธิ์” เผย โควิดรอบนี้หนัก คนมีโรคประจำตัวน่าห่วง ชี้ผู้เสียชีวิตไม่ใช่ปอดถูกทำลาย แต่ตายจากไตวาย-เลือดไม่เลี้ยงแขนขา แนะลด 4 เสี่ยง ย้ำไวรัสพร้อมกลายพันธุ์เสมอ 

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เพิ่มเพื่อน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

วันที่ 10 ม.ค.64 ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล  กล่าวว่า การระบาดโควิด 19 ระลอกใหม่ รุนแรงกว่าและต่างจากรอบแรก ด้วยหลายปัจจัย ตั้งแต่จุดเริ่มในที่อโคจร การกระทำผิดกฎหมายลักลอบเข้าเมือง คนไม่ยอมเปิดเผยตัว สืบสวนต้นตอที่มาของโรคยาก ความรุนแรงของโรคจากการกลายพันธุ์ โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง ที่ปอดทำงานไม่เต็มที่ เมื่อไวรัสจู่โจมระบบทางเดินหายใจ อาจทำลายปอด 10-20% จนปอดไม่พื้นกลับมา

ได้แก่ 1. ผู้สูงอายุ เมื่ออายุมากขึ้น อวัยวะต่างๆจะเสื่อมตามกาลเวลา 2. คนที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับปอด เช่น โรคปอด มะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง แม้ปอดถูกทำลายเล็กน้อย ก็จะส่งผลต่อชีวิตอย่างมาก ร่างกายจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว3. คนที่มีน้ำหนักมาก มีไขมันใต้ผิวหนัง หรือใต้ช่องท้องมาก รวมถึงผู้ป่วยเบาหวาน กลุ่มนี้เสี่ยงกับการหายใจที่ยากลำบากกว่าเดิม เพราะกระบังลมเคลื่อนไหวได้ยาก ทำให้ปอดทำงานได้น้อยลง

ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า งานวิจัยพบเมื่อโควิด 19 เข้าไปในร่างกาย ภูมิคุ้มกันจะทำงานเต็มที่สัปดาห์ที่ 2 หรือวันที่ 8 หลังรับเชื้อ เพื่อยับยั้งหรือช่วยไม่ให้เกิดโรค ถ้าภูมิคุ้มกันปกติ 2-3 สัปดาห์แรก จะทำงานเต็มที่จากนั้นค่อยๆ ลดลง จึงพบมีกลุ่มคนที่ได้รับเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ และหายได้เอง หากภูมิคุ้มกับไม่ปกติ เพราะมีโรคประจำตัว ที่ต้องใช้ยารักษาที่ไปกดภูมิคุ้มกัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เช่นเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลเองไม่ได้ เป็นโรคหลอดเลือด เม็ดเลือดขาวไม่สามารถจัดการเชื้อโรคได้ คนกลุ่มนี้เมื่อได้รับเชื้อโควิด 19 จะมีอาการรุนแรง ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงไม่เพียงปอดถูกทำลาย แต่มีจำนวนไม่น้อยที่เสียชีวิต เพราะไตวาย เลือดไม่ไปเลี้ยงแขนขา ความรุนแรงของเชื้อไปกระทบกับอวัยวะอื่นด้วย  ดังนั้นผู้ที่มีโรคประจำตัวจึงเสี่ยงมากขึ้นไปอีก

“ธรรมชาติของไวรัสทุกชนิดไม่เฉพาะโควิด 19 มันจะปรับตัวหรือที่เรียกว่ากลายพันธุ์อยู่เสมอ อย่างในอังกฤษพบว่า เชื้อโควิด 19 ติดต่อได้ง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น

ดังนั้นต้องช่วยกันลดปัจจัยเสี่ยง ที่จะกลายเป็นวิกฤต คือ 1.พบกับบุคคลเสี่ยง 2.อยู่ในพื้นที่เสี่ยง 3.ร่วมกิจกรรมเสี่ยง 4.เข้าไปช่วงเวลาเสี่ยง คนไทยทุกคนต้องร่วมกันจัดการกับ 4 เสี่ยงนี้ เท่าที่จะทำได้ตามปัจจัยและเงื่อนไขชีวิตตนเอง ไม่ต้องรอให้รัฐออกมาตรการ ไม่จำเป็นต้องให้มีการบังคับ นี่คือสิ่งที่เราจะช่วยปกป้องชีวิตของตัวเองและคนที่เรารัก” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว

สสส. วอนคนไทยสร้างสุขภาพตนเอง

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์  ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า กลุ่มประชาชนที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs อาทิ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไต หัวใจ เส้นเลือดอุดตัน และมะเร็ง มีความเสี่ยงโควิด 19  รุนแรงต่อโรคมากกว่าคนทั่วไปถึง  5  เท่า โดยผู้ป่วยเบาหวานในไทยมีถึง 4.8 ล้านคน และข้อมูลจาก UNIATF  (United Nations Inter Agency Task Force Mission to Thailand on Noncommunicable Disease)  รายงานว่า ผู้ที่มีภาวะโรคอ้วนจะเพิ่มความเสี่ยงการเกิดอาการรุนแรงของโควิด 19  ถึง  7  เท่า

ขณะที่ของเด็กและเยาวชนมีปัญหาน้ำหนักเกินเพิ่มขึ้นถึง 13.1% ผู้ที่สูบบุหรี่ เพิ่มความเสี่ยงถึง 1.5 เท่า และการดื่มสุราส่งผลให้ร่างกายมีภูมิต้านทาน ในการต่อสู้กับไวรัสต่ำลง แม้จะดื่มหนักเพียงครั้งเดียว เราจึงควรดูแลสุขภาพอยู่เสมอ เพราะร่างกายที่ดีจะเป็นต้นทุนสำคัญ เพื่อต่อสู้กับทุกโรคไม่เฉพาะโควิด 19 และยกระดับการป้องกันตนเอง คนรอบข้าง และกลุ่มเสี่ยง

โดยใส่หน้ากาก หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่าง ไม่ให้ตนเองกลายเป็นบุคคลเสี่ยงเสียเอง เปรียบเสมือนเรากำลังสร้างวัคซีนทางพฤติกรรมป้องกันการติดเชื้อ ทั้งในขณะที่วัคซีนฉีดยังไม่มา หรือแม้กระทั่งมีวัคซีนกันแล้ว พฤติกรรมเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรคเหล่านี้ก็ควรจะต้องยังปฏิบัติคู่ขนานไปต่อเนื่องไปด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 14
  • 💖ติ๋ม😃🇹🇭💖
    อยากให้ล็อคดาวน์เหมื่อนรอบแรก เจ็บแต่จบ..ไม่งั้นมันลามไม่สิ้นสุดแน่แน่😭
    10 ม.ค. 2564 เวลา 08.40 น.
  • teacher cat
    อยากให้กรมควบคุมโรคลองสุ่มมาตรวจตลาดสี่มุมเมืองกับตลาดไทโดยไม่แจ้งล่วงหน้าจังเลยเป็นไปได้มั๊ยที่ไม่มีใครติดเชื้อโควิคเลยทั้ง2ตลาด คือ งง น่ะทั้งที่แรงงานต่างด้าวแยอะมาก
    10 ม.ค. 2564 เวลา 08.30 น.
  • นก
    เออ คนที่ควรตายไปจากโลกนี้เลวๆทั้งนั้นแต่ยังลอยหน้าลอยตากันในสังคมมากมาย. คนพวกนี้สมควรที่โควิดจะลากคนพวกนี้ลงนรก. ไปเสียที
    10 ม.ค. 2564 เวลา 06.17 น.
  • 🕉ADDY Sundaze♾️
    ปิดประเทศ ล็อคดาวน์ ได้แล้ว จะให้ติดไปทั้งประเทศหรา
    10 ม.ค. 2564 เวลา 08.43 น.
  • Wat Vat Wach
    ตายไปหลายพันหลายโรค ผลการตายแจ้งเป็นโรคอื่่น โรคประจำตัว แทบทั้งนั้นไปดูสถิติยอดผู้เสียชีวิตได้เลยขยับขึ้นมากมาย เพราะตอนตายหมอจะแจ้งตายด้วยโรคประจำตัว เช่น ความดัน เบาหวาน ปอดบวมติดเชื้อ แต่ส่วนใหญ่จะตายเพิ่มขึ้นมากในช่วงโควิด ตายแล้วใครจะตรวจจะแจ้งว่าโควิดละ
    11 ม.ค. 2564 เวลา 03.16 น.
ดูทั้งหมด