เกมที่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น

สุดทางเลื่อน การเลือกตั้งต้องมี

ดูเหมือนว่าสถานการณ์การเมืองต้องเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งลูกเดียว แม้ว่าหลังการเลือกตั้งผลจะออกมาแบบไหนก็ตาม

ประชาชนคนทั่วไปล้วนมองไปในทางเดียวกันแล้วว่า ทางออกของประเทศดีที่สุดก็คือ การนำไปสู่การเลือกตั้ง

น้ำหนักและผลการเลือกตั้งต้องยอมรับว่าทุกอย่างกำลังพุ่งไปที่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะจะมีผลโดยตรงกับพรรคตระกูล “เพื่อ” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“ไทยรักษาชาติ” หากไม่ถูกยุบพรรคผลเบี่ยงเบนจะน้อยมาก เนื่องจากจะเป็นไปตามที่มีการวางแผนกันไว้แล้ว

แตกแบงก์พันจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

ตรงกันข้ามหากถูก “ยุบพรรค” จะเกิดอาการเบี่ยงเบนอย่างแน่นอน

ซึ่งก็ต้องดูว่าจะมีการเทเสียงไปทางไหน เท่าที่มีการวิเคราะห์กันรูปการณ์ที่จะออกมานั้นผู้สนับสนุนเครือข่ายนี้น่าจะมีการกำหนดทิศทางไปในลักษณะที่จะหันไปสนับสนุนพรรคการเมืองแบงก์ร้อยที่แตกย่อยออกมา

ไม่ว่าจะเป็นเพื่อชาติ ประชาชาติทำนองนั้น

หรือก็ไปเทคะแนนให้ “พรรคแม่” คือพรรคเพื่อไทย

แต่เนื่องจากการส่งผู้สมัครที่ดำเนินการไปแล้วนั้นเป็นการสร้างข้อจำกัดตัวเอง

คือส่งไม่ครบจำนวนทั้ง ส.ส.เขต และปาร์ตี้ลิสต์ จึงไม่สามารถได้ ส.ส.มากไปกว่านี้ได้ จึงจำเป็นต้องกระจายไปที่พรรคอื่น

แต่อีกมุมหนึ่งเมื่อไทยรักษาชาติถูกยุบด้วยข้อกล่าวหาที่หนักเอาการ และสังคมทราบกันดีว่าใครอยู่เบื้องหลังแผนการนี้

ที่สำคัญก็คือความรู้สึกที่ว่า ความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ก่อนหน้านั้นกำลังจะกลับมาอีกครั้ง ด้วยลักษณะที่จะรุนแรงมากกว่าเดิม

การตัดสินใจต่อการกาบัตรเลือกตั้งจึงต้องเลือกหนทางที่ดีที่สุด เพื่อไม่ให้สังคมเดินไปสู่จุดอับ ซึ่งทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นมาอีก

นี่คือสิ่งที่ประชาชนจะต้องตัดสินใจให้ดี

อาการที่เริ่มเห็นชัดหลังจากที่มีเหตุให้เกิดการ “ยุบพรรค” ก็คือ ปฏิบัติฟันต่อฟันกันไม่ปล่อยด้วยการเปิดประเด็นฟ้องร้องพรรคการเมืองคู่แข่ง โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐเพื่อให้ถูกยุบพรรคเป็นการตอบโต้

มีการฟ้องร้องกันแล้วเพื่อให้ยุบพรรคด้วยการหยิบประเด็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นบุคคลที่พลังประชารัฐเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ

เป้าใหญ่น่าจะอยู่ตรงนี้มากกว่าเข้าลักษณะ “มึงฟ้องกู กูฟ้องมึง”

ในห้วงจากนี้ไป แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะพยายามดึงตัวเองให้ออกมาจากวังวนนี้ แต่สัญชาติมนุษย์เมื่อเข้าไปเป็นผู้เล่นแล้วก็ต้องหวังให้เป็น “ผู้ชนะ”

หากไม่ระมัดระวัง ไม่กุมสภาพตัวเองให้ดี จะกลายเป็นเหยื่อคนต่อไปในทางการเมืองอย่างแน่นอน

เพราะนี่ก็เป็นอีกเกมหนึ่งในการต่อสู้ทางการเมือง

แม้ “ทักษิณ” จะแพ้ในเกมแตกแบงก์พัน ซึ่งถือว่าเสียศูนย์ไปไม่น้อย แต่เมื่อเกมยังไม่จบยังมีผู้เล่นโลดแล่นอยู่บนเวที ก็ต้องหาทางพลิกฟื้นกลับมาให้ได้

คงไม่มีใครเชื่อหรอกว่าเขาจะยอมแพ้ยกธงขาว มีแต่จะเดินหน้าต่อไปและเข้มข้นแม้จะรู้ว่าจะต้องเจอคู่ต่อสู้ระดับไหนก็ตาม

เพราะรู้กันดีว่าเขารักตัวเองมากกว่าชาติบ้านเมือง.

“สายล่อฟ้า”