เคยอ่านกระทู้พันทิปแล้วเจอคำถามเหล่านี้ไหมคะ
อายุ 30 ได้เงินเดือนกันเท่าไหร่ ?
ไม่เคยมีแฟนแปลกไหม ?
10 คาเฟ่ที่ต้องไป ของ 5 อย่างที่ต้องมี และอีกสารพัด bucket list และภาพอุดมคติที่เราต่างมี
รู้ตัวอีกที นิยามความสำเร็จและทุกสิ่งที่ควรทำก็มีให้เสิร์ชในกูเกิลและอิงจากเพื่อนในโซเชียล
การตั้งเป้าหมายความสำเร็จเป็นเรื่องดีที่เราทุกคนต่างไขว่คว้าทำตามฝัน
แต่เมื่อความสำเร็จยุคใหม่เริ่มอิงความคิดเห็นจากสังคมมากขึ้น…
“สำเร็จเร็วเหมือนนักธุรกิจคนดังที่ออกสื่อ"
กินดีอยู่ดีเหมือนบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว
มีความรักโรแมนติกเหมือนในซีรีส์เกาหลี
"สวยหล่อเหมือนเน็ตไอดอล”
แล้วเราควรพอใจกับความสำเร็จขั้นไหนถึงจะพอดี
เมื่อโซเชียลมีเดียเป็นประตูสู่การเปรียบเทียบ
การพกมือถือ 24 ชั่วโมงมีแนวโน้มทำให้กดดันมากกว่าผลักดัน จากการเปรียบความสำเร็จตัวเองกับคนอื่น แม้พื้นฐานไม่ได้เป็นคนอยากเปรียบเทียบตัวเองกับใคร แต่ถ้าติดเล่นโซเชียลมีเดียเยอะๆ ก็เผลอคิดไปเองว่าไม่มีความสุข อยากประสบความสำเร็จเพิ่มแม้ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการในใจจริงๆ
นักจิตวิทยาชี้ว่าเป็นเรื่องน่าแปลกที่แม้เราทุกคนรู้อยู่เต็มอก
ว่าทุกสิ่งที่อยู่ในโซเชียลนำเสนอแต่ด้านดี แต่ในระดับอารมณ์แล้ว
ถ้าพบว่าคนอื่นมีในสิ่งที่เราไม่มี เราก้จะพาลหงุดหงิด และถูกกระตุ้นให้รู้สึกอยากสำเร็จตามคนอื่นได้ง่ายๆ
ที่หนักกว่านั้นคือ การเปรียบเทียบกับตัวเอง หรือ “Self Envy” การที่เราพยายามนำเสนอด้านดีที่สุดของชีวิตตัวเองในโซเชียลและกังวลว่าภาพในชีวิตจริงจะดีเท่า
ภาพอุดมคติที่นำเสนอไว้หรือเปล่า ความอิจฉาทั้งหมดนี้นำไปสู่ Imposter Syndrome อาการจิตตกที่ตั้งคำถามกับตัวเองซ้ำๆว่าตัวเราดีพอหรือยัง
บันไดแห่งความสำเร็จ
หากเปรียบ “การเปรียบเทียบความสำเร็จ” เป็นการยืนบนขั้นบันได
ในยุคก่อนอินเทอร์เน็ต คนที่เราเปรียบเทียบด้วยบนบันไดมีแค่ “เพื่อนบ้าน” หรือ คนที่ได้เจอหน้าค่าตากันจริงๆในชีวิต เมื่อคนให้เทียบด้วยมีจำนวนน้อย จะมีคนที่ยืนบนขั้นบันไดที่สูงกว่าเราบ้าง ต่ำกว่าเราบ้าง ก็ไม่เกิดความเครียดมาก ถ้าเรามีธงในใจว่าเราอยากก้าวไปยืนบนบันไดขั้นไหน
แต่ “บันไดความสำเร็จ” ในยุคนี้เหมือน บันไดที่ยาวขึ้นฟ้าไม่มีสิ้นสุด
โซเชียลมีเดียทำให้เราเปรียบเทียบตัวเองกับใครก็ได้บนโลกและเมื่อไหร่ก็ได้
แค่เปิดหน้าจอมือถือออกมาก็เหมือนเปิดประตูสู่ท้องฟ้าที่
มีบันไดแห่งความสำเร็จหลายแง่มุมในชีวิตให้ปีน
แต่ปีนเท่าไหร่ก็ไม่ถึงปลายทางและไม่สามารถอยู่บนขั้นสูงสุดได้ทุกเรื่อง
ความสำเร็จที่อิงการเปรียบเทียบจากคนอื่นจึงเหมือนท้องฟ้าที่ไม่มีเพดาน
ถ้าเราไม่มีเป้าหมายในใจจะทำให้เราต้องปีนขึ้นไปเรื่อยๆจนเหนื่อยล้า
ยิ่งไถหน้าจอ Newsfeed มากเท่าไหร่ ยิ่งเหนื่อยใจ
ความสำเร็จไร้พรมแดน
พูดได้ว่าในยุคนี้ เมื่อโลกไร้พรมแดน นิยามความสำเร็จก็ไร้พรมแดนเช่นกัน
ไม่ว่าเราจะมีพร้อมแค่ไหน เมื่อถูกโซเชียลมีเดียกระตุ้น
ก็ย่อมมีความสำเร็จอีกระดับที่อยากก้าวไขว่คว้าขึ้นไปไม่รู้จบ
การมีนิยามความสำเร็จของตัวเองให้ยึดไว้ ว่าเราพอใจ มีความสุขที่จะยืนบนความสำเร็จขั้นไหนจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ลองถามใจตัวเองว่า “สำเร็จแค่ไหนถึงพอ”
ปีนไปยืนบนบันไดขั้นไหน ถึงมองวิวลงมาแล้วมีความสุขแบบพอดี
ที่มา:
https://www.elitedaily.com/life/media-affects-self-worth/1055695
https://thehustle.co/why-70-percent-of-millennials-have-impostor-syndrome
About Me
Instagram: http://www.instagram.com/faunglada
Facebook: http://www.facebook.com/faunglada
Youtube: http://www.youtube.com/faunglada
Twitter: @faunglada
Website: www.faunglada.com
การเป็นตัวของตัวเองและทำหน้าที่ในวันนี้ให้ดีเข้าไว้แค่นั้นก็พอ ถึงแม้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม เราก็ควรที่จะภูมิใจเพราะว่าเราก็ได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว.
28 มี.ค. 2562 เวลา 11.57 น.
ฝัน เหนื่อยเหลือเกิน
28 มี.ค. 2562 เวลา 14.04 น.
N_Tansuwannarat "ในโลกของความสำเร็จในอีกด้านนึงมักมีคำว่าความคาดหวังซ่อนอยู่"
"ความสำเร็จควรอยู่บนฐานของความพอใจ + ความพอดี = มีความสุข" ถ้าเราอยู่ในยุคที่ยังต้องให้สังคมเสมือน "ช่วยเปรียบเทียบชีวิตกับความคาดหวังของตัวเอง" ความสำเร็จที่ได้ก็เป็นเพียงชั่วครั้งชั่วคราว และต่อให้สำเร็จจริง คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ "เราภูมิใจจริงหรือกำลังแกล้งหลอกความรู้สึกในใจตัวเอง"
"เราควรสร้างขั้นบันไดเพื่อให้ดีขึ้นแต่อย่าให้ดีกว่า ถ้าใจคิดดีกว่าเมื่อไหร่ เราจะหาทางลงบันไดไม่ได้เพราะชีวิตจะวนกับการเปรียบเทียบอย่างไม่มีสิ้นสุด"
28 มี.ค. 2562 เวลา 18.35 น.
(ars) ขอติดตามผลงานใด้มั้ยครับ .อ่านแล้วชอบครับ.
28 มี.ค. 2562 เวลา 15.14 น.
ความต้องการของคน ไม่มีที่สิ้นสุด เราควรอยู่บนบันไดขั้นที่๔ คือมีเพียงปัจจัย๔ มีอะไรบ้างจำไม่ได้แล้วลืม แต่รู้ว่านั่นคือความสุขที่พอเพียง สำหรับทุกคน เราเห็นคนที่ประสพผลสำเร็จในทุกๆอาชีพ เราเคยรู้มั้ยว่า กว่าที่เขาจะพบความสำเร็จ เขาเจออะไรมาบ้าง มีใครช่วยเขามั้ย เขาอดทนและลำบากแค่ไหน แล้วเราทำได้เหมือนเขาหรือไม่ นายธนาคารบางคน กินข้าวไม่มีกับข้าว นอนบนเสื่อผืนหมอนใบ ไม่มีผ้าห่ม ถ้าไม่เคยเจอแล้วเพื่อนจะมีชีวิต เหมือนคนอื่นๆได้อย่างไร ความจน ความลำบาก ต้องมีคำว่าอดทน จึงจะชนะรู้มั
29 มี.ค. 2562 เวลา 07.14 น.
ดูทั้งหมด