ทั่วไป

รองผบช.น. เตรียมเรียก อัจฉริยะ สอบปากคำ 26 ก.ย. คลี่ปมวิ่งเต้นคดี ช่วยเอมี่พ้นข้อหาค้ายา

Khaosod
อัพเดต 23 ก.ย 2561 เวลา 09.47 น. • เผยแพร่ 23 ก.ย 2561 เวลา 09.47 น.
เตรียมเรียก อัจฉริยะ สอบปากคำวันที่ 26 ก.ย.ที่จะถึงนี้

รองผบช.น. เตรียมเรียก อัจฉริยะ สอบปากคำ 26 ก.ย. คลี่ปมวิ่งเต้นคดีช่วยเอมี่พ้นข้อหาค้ายา

อัจฉริยะ – กรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. หลังรับร้องเรียนจากพลเมืองดีว่าคดียาเสพติด ซึ่งมีนายปุณยวัจน์ หิรัณย์เตชะ และ น.ส.อาเมเรีย จาคอป หรือเอมี่ อดีตมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2006 นางเอกธิดาวานร ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายฝ่ายร่วมกันทุจริตในการช่วยเหลือให้ น.ส.อาเมเรีย หลุดพ้นคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดในชั้นศาล

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ต่อมานายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมนางสาวอาเมเรีย จาคอป หรือเอมี่ นักแสดง นำเอกสารหลักฐานที่ใช้ในการต่อสู้คดีจำนวน 710 แผ่นมามอบให้ฝ่ายร้องทุกข์บช.น. โดยมีพล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. เดินทางมารับฟังข้อมูลดังกล่าว หลังพล.ต.ท.ชาญเทพ แต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ก.ย. ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. ฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมด้วย พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รองผบก.น.2 พ.ต.อ.ทนงศิลป์ มณีโชติ ผกก.สน.สายไหม พ.ต.อ.ชัยชนะ บุญรอด รองผกก.(สอบสวน) สน.สายไหม พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี สว.(สอบสวน) สน.บางเขน เป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีความบกพร่องของพนักงานสอบสวนสน.สายไหม ทำให้น.ส.อาเมเรีย หลุดพ้นคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดในชั้นศาล โดยใช้เวลาการประชุม 1 ชั่วโมงครึ่ง จึงแล้วเสร็จ

พล.ต.ต.สมพงษ์ เปิดเผยหลังการประชุมว่า พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. เร่งรัดตรวจสอบกรณีดังกล่าวภายหลังจากที่มีประชาชนสนใจเป็นจำนวนมาก จึงเรียกประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยนัดหมายทางนายอัจฉริยะ มาสอบปากคำในวันที่ 26 ก.ย. ช่วงเวลา 13.00 น. ซึ่งในส่วนประเด็นที่นายอัจฉริยะไม่สบายใจในประเด็นการขอเปลี่ยนตัวคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สายไหมนั้น กรณีผกก.สน.สายไหม มารับตำแหน่งเมื่อเดือนมี.ค.2561 แต่สำนวนดังกล่าวเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่เดือนธ.ค.2560 ทางผกก.สน.สายไหม เป็นคนดีตั้งใจทำงาน แต่เพื่อความสบายใจจะเปลี่ยนตัวคณะกรรมการดังกล่าวให้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ส่วนที่ทราบจากทางโฆษกอัยการสูงสุดว่าทางอธิบดีอัยการยาเสพติดสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยตนจะขอเข้าพบอธิบดีอัยการยาเสพติดเพื่อหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ทั้งนี้ต้องสอบปากคำนายอัจฉริยะก่อน เนื่องจากประเด็นที่นายอัจฉริยะร้องมาอย่างเป็นทางการยังไม่เห็นเรื่องดังกล่าว

เมื่อถามว่าข้อมูลที่นายอัจฉริยะให้เพิ่มเติมว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ศาลาแดง มาดูคดีเพิ่มเติมด้วยนั้น พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า ตนเห็นเรื่องผ่านทางสื่อแต่ในส่วนของเอกสารหรือคำให้การของนายอัจฉริยะยังไม่ได้ เพราะฉะนั้นเวลาการทำงานในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเราทำงานตามพยานหลักฐาน เราจะไม่ตอบโต้ทางสื่อหรือทางโทรศัพท์ ต้องทำตรงไปตรงมา เขามีหลักฐานอะไรเราก็สอบเขามีหลักฐานอะไรก็นำมาพิจารณาเมื่อเราได้มาก็นำไปตรวจสอบ ถ้าพบว่ามีใครที่เกี่ยวข้องและมีการกระทำผิดกฎหมายอาญาจะต้องดำเนินการทั้งหมด

เมื่อถามถึงกรณีที่นายอัจฉริยะนำหลักฐานมาเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมานั้นเป็นหลักฐานอะไร พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า ในวันดังกล่าวทางนายอัจฉริยะมาพบทางผบช.น. แต่ก็คงเป็นการพูดคุย ตนยังไม่แน่ใจประเด็นดังกล่าว แต่ในส่วนของตนฐานะคณะกรรมการได้มีการพูดคุยสอบถามมาแล้วยังไม่ได้อะไรที่เป็นทางการ จึงต้องขออนุญาตสอบปากคำและขอเอกสารหรือหลักฐานต่างๆ ที่เป็นทางการก่อน เพื่อให้สามารถตรวจสอบที่มาที่ไปในการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“ส่วนจะต้องสอบสวนในประเด็นไหนอย่างกรณีของตำรวจและพลเรือนที่เกี่ยวข้อง ต้องรอผลสรุปจากการสอบปากคำนายอัจฉริยะก่อนจึงสามารถระบุได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนสอบปากคำนายอัจฉริยะได้สั่งการให้คณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงสอบปากคำเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพร้อมทั้งพนักงานสอบสวนที่ดำเนินคดี กรณีที่ทางนายอัจฉริยะกล่าวถึงพนักงานสอบสวนไม่ได้ขึ้นเบิกความนั้น ทางพนักงานสอบสวนท่านนั้นเป็นพนักงานสอบสวนคู่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพนักงานสอบสวน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนตัวหลักได้ขึ้นเบิกความในชั้นศาล มีพนักงานสอบสวนขึ้นเบิกความ 1 นาย และชุดจับกุมขึ้นเบิกความ 2 นาย

แต่กรณีดังกล่าวเป็นการพิจารณาตามดุลยพินิจของทางอัยการถ้าเห็นว่าพยานเป็นพยานคู่ทำหน้าที่คล้ายกันและเบิกความไปก็เพื่อความรวดเร็ว ก็ถือเป็นดุลยพินิจของทางอัยการที่จะตัดออกไปได้ ไม่มีในกรณีที่มีหมายเรียกมาแล้วตำรวจไม่ขึ้นยืนยันว่าตำรวจไป” รองผบช.น. กล่าว

เมื่อถามถึงการตรวจสอบเงินในการวิ่งเต้นคดีดังกล่าวที่มีมูลค่าหลายบาทนั้น พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวให้ทางนายอัจฉริยะนำหลักฐานและก็เข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ก่อน ยืนยันว่าไม่ต้องห่วงทางคณะกรรมการทำงานอย่างตรงไปตรงมาให้ความสำคัญทุกฝ่าย ต่อข้อซักถามว่าจะมีการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินครอบครัวของทางเอมี่หรือไม่ ต้องรอผลการสอบปากคำนายอัจฉริยะก่อน อะไรที่เกี่ยวข้องเป็นประโยชน์กับการตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด

เมื่อถามว่าการพูดคุยกับทนายษิทราอ้างถึงทนายคนก่อนหน้านี้เอาข้อมูลไปบอกนายอัจฉริยะนั้น พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวทางทนายษิทรามายืนเอกสารโดยมีฝ่ายร้องทุกข์เป็นผู้รับเรื่อง เพียงแต่ตนไปสอบถามความต้องการของเขาทราบว่าเขามาขอยื่นเอกสาร โดยเอกสารดังกล่าวเป็นการขอคัดสำเนาคำพิพากษาซึ่งเป็นเอกสารทางราชการ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการขอคัดเอกสารดังกล่าวด้วย ส่วนมีความจำเป็นต้องเรียกทนายคนก่อนมาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ว่าใครก็ตามที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นใคร อาทิเช่น ทนาย เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเป็นตัวบุคคลอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ถ้ามีข้อมูลบางประการที่เกี่ยวข้อง กฎหมายให้อำนาจหน้าที่เรียกเขามาได้เราจะทำเพื่อทำให้ความจริงกระจ่าง ซึ่งการสอบปากคำจะต้องสอบผู้ร้องก่อนซึ่งเป็นพยานหลักฐานจากผู้ร้องและการสอบปากคำ

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 12
  • บจก.ถาวรกิจ - เดี่ยว
    กวาดล้างมันให้หมด พวกวิ่งเต้นล้มคดีนะ มีแน่นอน
    23 ก.ย 2561 เวลา 12.06 น.
  • sippaphat®
    ดีแตกซะละ ทนายยยย 5555
    23 ก.ย 2561 เวลา 12.23 น.
  • Smile
    ทนายต.เลวจริงๆ รับเงินวิ่งเต้นคดี แบบนี้ไม่ควรเป็นทนายอีกต่อไป พอทำไม่สำเร็จจะอมเงินไปตั้งเป็นแสน
    23 ก.ย 2561 เวลา 12.16 น.
  • kamen rider
    หมดศรัทธากับทนายคนนี้ไปนานแล้ว สงสารก็แต่ครอบครัวลุงจรูญ
    23 ก.ย 2561 เวลา 12.11 น.
  • อำนาจเงินครับ
    23 ก.ย 2561 เวลา 11.52 น.
ดูทั้งหมด