"ชวน" เข้ม ออกกฏห้ามกมธ.เชิญมั่ว ให้ "ปธ.กมธ." รายงานต่อ "ปธ.สภา" ทุกวันศุกร์ พิจารณาเรื่องไหน ประเด็นอะไร เชิญใคร กันทำงานซ้ำซ้อน ให้อำนาจ "ปธ.สภา" ชี้ขาดใครดำเนินการ หากทำมากกว่าหนึ่งคณะแล้วตกลงกันไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 31 ต.ค.62 ที่ผ่านมา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกประกาศระเบียบสภาผู้แทนราษฎร ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการกระทำกิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใดที่มีความเกี่ยวข้องกันของคณะกรรมาธิการหลายคณะ พ.ศ. 2562 มีเนื้อหาว่า
โดยที่เป็นการสมควรให้มีระเบียบสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการกระทำ
กิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใดที่มีความเกี่ยวข้องกันของคณะกรรมาธิการหลายคณะ
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 4 และข้อ 90 วรรคหก แห่งข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พศ. 2562 ประธานสภาผู้แทนราษฎรจึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการกระทำกิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใดที่มีความเกี่ยวข้องกันของคณะกรรมาธิการหลายคณะ พ.ศ. 2562
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตันไป
ข้อ 3 ในระเบียบนี้
"ประธานสภา" หมายความว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎร
"คณะกรรมาธิการ" หมายความว่า คณะกรรมาธิการสามัญของสภาผู้แทนราษฎร
"ที่ประชุม" หมายความว่า ที่ประชุมร่วมกันระหว่างประธานสภาและประธานคณะกรรมาธิการ
ที่เกี่ยวข้องทุกคณะ
ข้อ 4 เมื่อคณะกรรมาธิการจะกระทำกิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใด ให้ประธานคณะกรมาธิการทุกคณะรายงานต่อประธานสภาทราบภายในวันศุกร์ของทุกสัปดาห์ ว่าจะมีการพิจารณา
เรื่องใด ประเด็นใด และเชิญผู้ใด หรือหน่วยงานใดเข้าร่วมการพิจารณาในสัปดาห์ถัดไป
ข้อ 5 ให้ประธานสภาตรวจสอบรายงานตามข้อ 9 หากพบว่ามีคณะกรรมาธิการมากกว่าหนึ่งคณะ
จะกระทำกิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใดที่มีความเกี่ยวข้องกัน ให้ประธานสภาแจ้งให้ประธานคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องทราบโดยไม่ชักข้า และจัดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างประธานสภาและประธานคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องทุกคณะ เพื่อร่วมกันดำเนินการ ทั้งนี้ ให้คณะกรมาธิการที่เกี่ยวข้องยุติการกระทำกิจการ
พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องนั้นไว้เป็นการชั่วคราว ในกรณีที่ไม่อาจยุติการดำเนินการดังกล่าวได้ ให้คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจไปพลางก่อนได้ แต่ต้องไม่เกินเจ็ดวันนับแต่วันที่ประธานสภาแจ้งให้ทราบ
ข้อ 6 การร่วมกันดำเนินการตามข้อ 5 อาจพิจารณาดำเนินการในลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) ให้คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องทุกคณะร่วมกันกระทำกิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง
หรือศึกษาเรื่องนั้น โดยตกลงร่วมกันให้ประธานคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องคณะใดคณะหนึ่งเป็นประธานในการดำเนินการดังกล่าว หากไม่อาจตกลงกันได้ ให้ประธานสภาเป็นผู้กำหนด
(2) ให้คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องทุกคณะร่วมกันกระทำกิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง
หรือศึกษาเรื่องนั้น โดยให้คณะกรรมาธิการคณะใดคณะหนึ่งเป็นหลักในการดำเนินการ และให้คณะกรรมาธิการคณะอื่นที่เกี่ยวข้องส่งกรรมาธิการตามจำนวนที่ที่ประขุมกำหนดเข้าร่วมการดำเนินการนั้นด้วย
(3) แนวทางอื่นที่ที่ประชุมเห็นชอบให้คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการ เมื่อที่ประชุมเห็นขอบให้ร่วมกันดำเนินการตาม (1)(2) หรือ (3) แล้ว ให้ประธานสภาแจ้งคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องทุกคณะทราบเพื่อดำเนินการต่อไป
ข้อ 7 ในกรณีที่มีญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ให้ประธานสภาเป็นผู้มีอำนาจวินิจฉัย และคำวินิจฉัยของประธานสภาให้ถือเป็นเด็ดขาด
ข้อ 8 ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้
ประกาศณวันที่ 31ต.ค. 2562 ลงชื่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้ ระเบียบดังกล่าวออกมาภายหลังเกิดปัญหากรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ออกหนังสือเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถึง 3ครั้ง ให้มาชี้แจงกรณีเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจําปี 2563 โดยไม่ถูกต้อง เนื่องจากยังถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน
ล่าสุดมีการอ้างถึงการใช้อำนาจออกคำสั่งเรียกตามพ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ด้วย ซึ่งในขณะนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มาตรา 5 มาตรา 8 และมาตรา 13 เกี่ยวกับการใช้อำนาจออกคำสั่งเรียกรวมถึงบทลงโทษทางอาญาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 129 หรือไม่ตามคำร้องของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ
Tui TanawuT เท่าที่ดู ไม่ได้ปกป้องใครนะท่าน แต่ ปรับปรุงการทำงานของ สส.ผู้ทรงเกลียดทั้งหลาย ให้อยุ่กะร่องกะรอย ไม่บ้าอำนาจทำตามใจไร้สาระสนองความความรุ้สึกตัวเอง จะได้มีความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่พร่ำเพรื่อบ้าพลัง ไร้สาระไม่มีประโยชน์กับบ้านเมือง เล่นการเมืองน้ำเน่าน่าเบื่อที่สุด
18 พ.ย. 2562 เวลา 05.22 น.
Chimi Chimallu Mee สภาสมัยนี้เหมือนโรงเรียนอนุบาลไปแล้วหรอ? ต้องมีพี่เลี้ยงคอยเตือน สส.
18 พ.ย. 2562 เวลา 05.19 น.
ถูกต้อง..ควรปกป้องสภาฯไม่ให้ กมธ.มั่ว ก้าวก่าย.หลงอำนาจ..
การถ่วงดุลอำนาจต้องมี แต่ต้องไม่ใช้อำนาจเหมือนรัฐซ้อนรัฐ...
18 พ.ย. 2562 เวลา 05.29 น.
X+2X-Y=10....Y=? ประชุมกธก.เหมือนออกงานอีเวนต์ เน้นเอาค่าประชุม
18 พ.ย. 2562 เวลา 04.46 น.
JT ช่วยออกกฎ จัดระเบียบ สส.ที่มาตอกบัตรเอาเบี้ยประชุม แล้วบอกเป็นวัฒนธรรมด้วยครับ
18 พ.ย. 2562 เวลา 05.38 น.
ดูทั้งหมด