จากกรณีที่ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกมาวิจารณ์การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี 2563 ว่า ให้หว่านเหวี่ยงและหยุดแจกแบบให้เปล่านั้น น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ หรือ 'อ้น' รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เป็นการวิจารณ์บนพื้นฐานของความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอยู่หลายประการ ประเด็นแรก ให้หยุดหว่านแห โดยยกตัวอย่างโครงการ "ชิมช้อปใช้"นั้น ยิ่งชัดเจน ว่า นายเผ่าภูมิมีความไม่เข้าใจว่า เป็นเพียงมาตรการกระตุ้นศรษฐกิจในระยะสั้น และเมื่อพิจารณาถึงรายละเอียดของโครงการ จะพบว่าไม่ใช่การหว่านแหแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับเฉพาะเจาะจงที่จะกระตุ้นให้ประชาชนเดินทางไปจับจ่ายใช้สอยข้ามจังหวัด กระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจชุมชน ในจังหวัดนั้นๆ รวมทั้งมีระบบที่สามารถตรวจสอบการใช้จ่ายได้จริง กระทั่งมีเม็ดเงินย้อนกลับเข้ามาหมุนเวียนในระบบ โดยล่าสุดกระทรวงการคลัง"โดยกรมบัญชีกลางได้สรุปการใช้จ่ายโครงการชิมช้อปใช้ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.เป็นต้นมา พบว่ามีจำนวนผู้ใช้สิทธิ 6,507,594 คน คิดเป็นการใช้จ่าย 6,229.2 ล้านบาท การกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นให้มีเงินหมุนเวียนในระบบ ย่อมส่งผลดีต่อชุมชนโดยตรงแน่นอน
ส่วนกรณีที่ให้หยุดแจกแบบให้เปล่าและให้มุ่งเน้น Active Welfare นั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า หากเข้าใจหลักการแล้ว จะพบว่าไม่มีเม็ดเงินที่รัฐบาลให้เปล่า การมุ่งเน้นให้มีการเกิดการใช้จ่ายที่เกิดจากการท่องเที่ยว เป็นการมุ่งเน้นให้ระดับฐานรากให้มีเม็ดเงินในระดับท้องถิ่น นำไปสู่ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน ประชาชนมีงานทำงานในพื้นที่ มีแรงจูงใจที่จะพัฒนาทั้งฝีมือและการบริการต่างๆ จนนำไปสู่การจัดสวัสดิการแบบ Workfare ไม่ใช่ Active Welfare ที่ประชาชนจะรอแรงจูงใจจากภาครัฐอย่างเดียว ซึ่งการที่พรรเพื่อไทยมองแค่ว่าประชาชนจะรอการช่วยเหลือจากรัฐอย่างเดียวนั้น อาจจะดูถูกประชาชนในพื้นที่เกินไป
และประเด็นอื่นที่นายเผ่าภูมิ กล่าวว่าให้ใช้งบประมาณสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ให้ใช้งบประมาณไปสร้างงาน สร้างผลิตภาพ รวมไปถึง ใช้งบประมาณไปสร้างการแข่งขัน นั้น นางสาวทิพานัน กล่าวต่อว่า อยากชวนให้ฝ่ายค้านศึกษาโครงการ “ประชารัฐสร้างไทย” ที่บูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน ของประเทศไปจนถึงระดับโลก ซึ่งพรรคพลังประชารัฐให้ความสำคัญกับการเดินหน้าประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน สร้างชุมชนฐานรากให้แข็งแกร่ง
นางสาวทิพานัน กล่าวต่อว่า แม้แต่การเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย เงินเหล่านั้นเข้าไปหมุนเวียนในระบบ ไปซื้อข้าวของเครื่องใช้อุปโภค บริโภคในชีวิตประจำวัน ก็แปลกลับมาเป็นภาษีที่ต้องจ่ายให้กับผู้ประกอบการส่งให้คลังอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงไม่มีเงินที่ให้เปล่า พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายงบลงทุนช่วงไตรมาส 4/2562 ไว้ 3 หมื่นล้านบาท และในปี 2563 ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 1 แสนล้านบาท เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการค้าและอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งหากฝ่ายค้านมีข้อเสนอที่จะช่วยกันสร้างความเข้าใจอันดีและช่วยกันคิดเพื่อพัฒนาประเทศ ก็สามารถเสนอแนะอย่างเป็นรูปธรรมมาได้ ไม่ใช่ตั้งคำถามแบบหว่านแห ตั้งคำถามแบบการตีเช็คเปล่าเช่นนี้
361` Pollapag ท่านโฆษกก็จะให้เพื่อไทยที่เป็นฝ่านค้านมาชื่นชมกับผลการจัดทำงบประมาณปี63 ชาวก็คงจะบอกว่าค้านแบบปวกเปียก ช่วงนี้เป็นช่วงโหมโรงทนๆหน่อย
16 ต.ค. 2562 เวลา 11.44 น.
อ่าวหรอจัมได้หละ พรรคจํานําข้าวนี้เอง
16 ต.ค. 2562 เวลา 10.44 น.
Nay.D แมคโคบิ๊กซิโลตัสคือแหล่งกระจ่ายรายได้สู้แหล่งชุมชนควายจริงๆไม่เดินไปดูร้านค้าตามบ้านนอกบ้างนั่งตบยุ่งไล่แมลงจนมือบวมหมดแล้ว
16 ต.ค. 2562 เวลา 10.42 น.
เชฟจั๊บ สมองกลวง
16 ต.ค. 2562 เวลา 10.25 น.
อี.... มึงมาลองสำรวจความคิดเห็นชาวบ้านบ้างนะ
งบปีที่แล้ว อนุมัติมา ผล คือ ประชาชนได้อะไรบ้าง แล้วใครคือคนที่รวยขึ้น ทรัพย์สิน ใคร ที่รวยขึ้น มีประชาชนคนไหนที่ ได้ประโยช์นจากงบประมานปีที่ผ่านมาบ้าง
16 ต.ค. 2562 เวลา 10.23 น.
ดูทั้งหมด