เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รพ.วังน้อย ซึ่งตั้งที่อยู่ริมถนนพหลโยธิน ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้ต้องปิดการให้บริการห้องฉุกเฉินและห้ามคนเข้าออกเป็นการชั่วคราว เนื่องจากตั้งแต่เย็นวานนี้ (3 เม.ย.) มีญาตินำตัว นายประสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี อาชีพพนักงานขับรถส่งของบริษัทแห่งหนึ่งส่งมารักษาเป็นการด่วน เรื่องจากผู้ป่วยมาอาการปวดศีรษะอย่างหนัก อาเจียน แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก โดยแพทย์ พยาบาลได้ให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจจนมีสัญญาณชีพขึ้นมา ก่อนจะประสานกับ รพ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อส่งตัวไปรักษาต่อ
หลังจากที่ นายประสิทธิ์ นอนรอการส่งตัวประมาณ 2 ชั่วโมงก็ได้เสียชีวิตลง โดยน้องชาย นายประสิทธิ์ ให้ข้อมูลกับแพทย์ว่า พี่ชายทำงานรับส่งสินค้าโดยโรงงานอยู่ที่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี แต่ละวันจะวิ่งส่งของไปทั่ว จ.ปทุมธานี จ. สุพรรณบุรี จ.นครปฐม และ จ.สมุทรปราการ ก่อนหน้ามีก็เห็นมีอาการไอ จนกระทั่งประมาณ 16.00 น. พี่ชายก็ได้โทรศัพท์มาหาบอกว่านอนอยู่ที่ห้องพักใน อ.วังน้อย ตอนนี้อาการไม่สู้ดี แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ตนจึงรีบไปหาและพาส่งห้องฉุกเฉิน รพ.วังน้อย ทันที
จากการสันนิษฐานของแพทย์เบื้องต้นคาดว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้อาจจะติดเชื้อ "โควิด-19" จึงได้มีการส่งเนื้อเยื่อและสารคัดหลั่งไปตรวจที่ห้องแล็บรพ.พระนครศรีอยุธยาเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง ทั้งนี้แพทย์และพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ของ รพ.วังน้อย 12 คน ที่ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยรายนี้จะต้องกักตัวดูอาการ 14 วัน และรอผลตรวจจากแล็บยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต
ขณะที่ รพ.วังน้อย ต้องปิดห้องฉุกเฉินชั่วคราวเร่งทำความสะอาดฆ่าเชื้อ และในส่วนศพของผู้เสียชีวิตทาง รพ.วังน้อย ให้ห่อศพอย่างดีด้วยถุงซิป เพื่อรอญาติรับไปบำเพ็ญกุศล ซึ่งขณะนี้ญาติยังไม่สามารถติดต่อวัดไหนให้รับศพได้เลย.
ทอม wut¯-¯ เพราะไม่เปลี่ยนนิยามกันคัดกรองเพื่อให้ได้รับการตรวจสักทีเนี่ยละ ถึงเกิดเหตุการณ์ แบบนี้ และจะเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ถ้ารัฐยังจะทำอย่างนี้ต่อไป ห่วง ปชช บ้างครับ จากเสียงเล็ก ๆ หนึ่งเสียงที่อยากให้ คนใหญ่ คนโตในบ้านเมือง ได้หาวง ปชช ตาดำ ๆ บ้าง ตอนนี้เชื้อมันไม่ได้จำกัดอยู่ในวงแคบ ๆ แล้วนะครับ ใคร ๆ ก็รู้
04 เม.ย. 2563 เวลา 03.24 น.
Anke sawattaworn สงสัยว่าคนที่ตายนี้มีอยู่ยอด ที่สำรวจผู้ติดเชื้อสะสมที่. สธ. รายงานอยู่มั้ย. ถ้าไม่อยู่แสดงว่ามีคนติดเขื้ออีกมาก ที่ไม่ได้รับการตรวจ.
04 เม.ย. 2563 เวลา 06.17 น.
สบายๆ โรคนื้รู้สึกว่าไม่มืยารักษานะเป็นแล้วคนร่างกายแข็งแรงก็จะต้านได้แต่ถ้าเชี้อลงปอดก็จะมืยาค่าเชี้อหรีอยาต้านถ้าแข็งแรงพอก็จะหายไปเองแต่ถ้าผู้มือ่ายุ50ปืขึ้นไปถ้าแช็งแรงก็จะพอสู้กลับโรคแต่60กว่าถึง80กว่าหมดทางรักษา
04 เม.ย. 2563 เวลา 05.04 น.
ฮิเดโกะ ไม่รู้ว่า..เพราะน้ำยาตรวจไม่พอหรือไง.
ก็ยังตรวจฟรี ตามคำสั่ง..
คนที่กลับจากประเทศเสี่ยงตรวจฟรี..
สัมผัสใกล้ชิดคนติดเขื้อตรวจฟรี..
คนมีไข้สูง ต้องเกิน 37.5 ถึงเข้าข่าย..
เปลี่ยนได้ยัง..ตรวจทุกคนที่มีอาการไข้..เห้อ..ปืนเลเซอร์ต้องจะช็อคละมั๊งมันถึงวัดไข้ได้ 37.5 ..
คนไทยในประเทศไม่ต้องไปเสี่ยงที่ไหน..เชื้อมันก็มาหาทุกที่...
ตัวเอง มีไข้ไม่สูง เจ็บคอ ไอ..ได้ยาแก้ไอ แล้วกลับบ้าน..ป่านนี้ก็ไม่รุ้มีเชื้อไม๊..ทำได้เพียง..ทำใจ..เพราะถ้าอยากตรวจต้องไปอีกจังหวัด..
04 เม.ย. 2563 เวลา 11.51 น.
Mng(JP) เคสแบบนี้น่ากลัวมากกว่าพวกกลุ่มเสี่ยงที่มาจากต่างประเทศอีกนะ เพราะไม่รู้ไปติดเชื้อมาจากที่ไหน ถ้าไม่ประกาศเคอร์ฟิว 24 ชม. ปิดแบบจังหวัดใครจังหวัดมัน อำเภอใครอำเภอมัน มีหวังระบาดไปเป็นวงกว้างกว่านี้แน่นอน
04 เม.ย. 2563 เวลา 13.20 น.
ดูทั้งหมด