ผู้โดยสารในสุวรรณภูมิ ยอมกักตัวแล้ว 166 คน

ผู้โดยสาร จำนวน 166 คน ที่เดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่นคืนวานนี้(3 เมษายน 2563) ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยทั้งหมดถูกทางเจ้าหน้าที่คัดกรองให้เข้าสู่การกักตัว แต่เกิดความไม่เข้าใจ ล่าสุดทั้งหมดยินยอมให้กักตัวแล้ว

จากกรณีเมื่อช่วงเย็นวานที่ผ่านมาเกิดเหตุชลมุนวุ่นวายขึ้น หลังจากมีเที่ยวบินผู้โดยสารจากประเทศญี่ปุ่น เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และผู้โดยสารรวมแล้วกว่า 166 คน จะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัว ตามมาตรการของรัฐบาล โดยจะต้องนำผู้โดยสารเหล่านี้ ไปกักตัวในสถานที่และหน่วยงานด้านความมั่นคงเตรียมไว้ แต่ผู้โดยสารกลุ่มนี้ได้ปฏิเสธ ที่จะเข้าสู่กระบวนการกักตัว และเกิดโต้เถียงกันยืดเยื้อนานกว่า 4 ชั่วโมง ก็ไม่ได้ข้อสรุป และเกิดความตึงเครียดขึ้น โดยกลุ่มผู้โดยสารระบุว่าไม่ทราบประกาศเรื่องของการกักตัวผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงประเทศไทยทุกเที่ยวบิน

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ ทีมข่าวเนชั่นทีวี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า จากการสอบถาม พนักงานรักษาความปลอดภัยและแม่บ้านที่เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการปล่อยตัวคนไทยที่กลับจากประเทศญี่ปุ่นตามที่เป็นข่าว แต่ยอมรับว่ามีเหตุชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้นจริง แต่ภายหลังมีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาพูดคุย ก็สามารถตกลงกันได้ และนำตัวคนไทยทั้งหมดขึ้นรถบัสจำนวน 4 คัน ออกจากประตู 10 ชั้น 2 ฝั่งขาเข้า ไปกักตัวที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี ตั้งแต่เมื่อคืนช่วงเวลาตี2 แล้ว แม้แต่บรรดาญาติมาต้อนรับ เจ้าหน้าที่ไม่ได้อนุญาตให้พูดคุยใกล้ เนื่องจากคนไทยที่กลับจากประเทศญี่ปุ่น เป็นกลุ่มเสี่ยง ที่จะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข

ทั้งนี้จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ มีจำนวน 166 คน ประกอบด้วย เที่ยวบิน TG 641 จากญี่ปุ่น จำนวน 16 คน , NH 847 จากญี่ปุ่น จำนวน 19 คน , SQ 976 จากสิงคโปร์ จำนวน 44 คน , JL31 จากญี่ปุ่น 76 คน และ GR 832 จากกาตาร์ 11 คน โดยเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่เวลา 09:00 นที่ผ่านมา

ขณะที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้เป็นไปด้วยความเงียบเหงาไม่มีเที่ยวบินหรือนักท่องเที่ยวใดใดเข้ามา สอดคล้องกับประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ห้าม อากาศยานการบิน เข้ามาประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่4 เมษายน ถึงวันที่6 เมษายน ยกเว้นอากาศยานราชการหรืออากาศยานที่ใช้ในการทหารหรืออากาศยานขอลงฉุกเฉินเท่านั้น