คนในปชป.เปิดศึก เปิดแผลแฉกันเอง

ที่ได้ชื่อว่าเป็นสถาบันทางการเมืองเก่าแก่ และเคร่งครัด เคารพการตัดสินใจของสมาชิกพรรค ที่จริงแล้วสนิมในเนื้อกัดกร่อนไม่เหลือชิ้นดี

ผลการคัดเลือกหัวหน้าพรรคเที่ยวล่าสุด สะท้อนให้เห็นว่าขั้วที่ไม่เอา อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป. มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และเริ่มแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ฉาก อภิสิทธิ์ หักหลัง กรณ์ จาติกวณิช หนึ่งในผู้สมัครหัวหน้าพรรค ทั้งที่ให้ สัญญาใจ กันไว้แล้วว่าจะเทคะแนนเสียงเลือก กรณ์ ให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ นับหัวกันก่อนโหวต กรณ์ น่าจะมีเสียงสนับสนุนจาก ส.ส. ประมาณ 14-16 เสียง แต่โหวตจริงกลับได้เพียง 5 เสียง

ซึ่งไม่ต้องไล่เช็คคะแนนเสียงก็รู้ว่า อภิสิทธิ์ ที่มี ส.ส. อยู่ในมือ 12-13 เสียง เปลี่ยนใจกะทันหัน เพราะเช็คเสียงแล้วหากยังดันทุรังหนุน กรณ์ ต่อไป มีหวังแพ้ให้กับ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ว่ากันว่ามี ผู้มีบารมี นอกพรรคปชป.คอยให้การสนับสนุนอยู่

การกลับลำของ อภิสิทธิ์ ถูกมองว่าวางหมากเล่นเกมซ่อนแอบตั้งแต่ต้น เพราะไม่ต้องการให้ คู่แข่ง เช็คเสียงได้ว่าใครหนุนใครอยู่กี่คะแนน ต้องหาเพิ่มเท่าไรถึงจะชนะ ซึ่งใจจริง อภิสิทธิ์ อาจจะหนุน จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป. ตั้งแต่แรก แต่เอาคะแนนมาอิงแอบไว้ฝั่ง กรณ์

เมื่อแพ้ในการเลือกหัวหน้าพรรค กรณ์ นำ ส.ส. 5 เสียง มาบวกเพิ่มให้กับฝั่ง พีระพันธุ์ รวมกับ ส.ส. ที่ลงคะแนนให้กับอภิรักษ์ โกษะโยธิน อีก 2 เสียง ทำให้มีคะแนนเสียงเพิ่มขึ้นมาเป็น 27 เสียง หวังจะใช้มติโหวตของ ส.ส. โหวตสวนทาง ก๊วนอภิสิทธิ์ โดยเฉพาะการที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับ ขั้วพลังประชารัฐ หรือไม่

ขณะที่ ชวน VS พีระพันธุ์ เปิดศึกรีดกันไปมา สร้างวาทะกรรมมี-ไม่มี ผู้มากบารมี นอกพรรคปชป. จ้องยึดพรรค โดยการให้เงินซื้อเสียง ส.ส.-ผู้มีสิทธิโหวต เพื่อดัน พีระพันธุ์ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคให้ได้ ชวน ลงมาเล่นเกมนี้ด้วยตัวเอง เพราะไม่ไว้ใจท่าทีของก๊วนกปปส. ที่มีเงาของ สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) คอยหนุนหลังอยู่หรือไม่

เมื่อฉากหลังทำให้ใครหลายคนคิด เปลี่ยนขั้ว-ย้ายข้าง เมื่อ ชวน-พีระพันธุ์ ยังสาดน้ำลายกรีดใส่กันชนิดไม่มีใครยอมใคร ศึกในปชป.คงจบไม่สวย ไม่แฮปปี้เหมือนเก่าแน่นอน