แอปเปิลเปิดตัว ''iPhone 8 , iPhone 8 Plus'' กับ ''iPhone X'' หน้าจอไร้ขอบพร้อม FaceID สแกนใบหน้าเริ่มขาย3พ.ย.นี้
วันนี้( 13 ก.ย.60) นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิล อิงค์ เปิดตัวแอปเปิล วอทช์ ซี่รีส์ 3 นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะรุ่นใหม่เมื่อเวลา 24.00 น.ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวสินค้าครั้งแรกในพิธีเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งคาดว่าจะเป็นสินค้าขายดีด้วยการออกแบบด้วยรูปลักษณ์ที่ยอดเยี่ยม
iPhone X ตัวเครื่องนั้นเฟรมของเครื่องเป็นอลูมิเนียมขัดเงาแบบโค้งมน รับกับหน้าจอที่โค้งไร้ขอบอย่างสวยงาม ส่วนด้านหลังเป็นวัสดุกระจก นอกจากนี้ตัวเครื่องยังประกอบมาในมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นได้เหมือนกับใน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ Apple เปลี่ยนมาใช้หน้าจอแบบ OLED ครั้งแรก
โดย Apple เรียกหน้าจอว่า “Super Retina Display” ที่มากับขนาดหน้าจอ 5.8 นิ้ว ที่ไร้ขอบเต็มพื้นที่ด้านหน้าของเครื่อง ความละเอียดหน้าจอ 2436 x 1125 พิกเซล ถือว่าเป็นหน้าจอที่มีความละเอียดมากที่สุดเท่าที่ Apple เคยใช้ใน iPhone
iPhone X ได้เอาปุ่มโฮมที่มีมาตั้งแต่รุ่นแรกออกไป และเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานใหม่ ด้วยการกวาดนิ้วจากด้านล่างของจอขึ้นมา แทนการกดปุ่มโฮม และการเลื่อนค้างไว้ก็สามารถใช้แทนการเลือกแอพต่างๆ ที่เปิดไว้ ส่วนการเรียกใช้งาน Siri ก็เปลี่ยนไปใช้ด้วยปุ่ม Power ด้านข้างแทน
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยในเครื่องอย่าง TouchID ก็เปลี่ยมาเป็นเทคโนโลยียืนยันตัวบุคคลแบบใหม่ที่เรียกว่า Face ID ที่เป็นการสแกนใบหน้ามาใช้แทน และการสแกนใบหน้ามีการใช้เซนเซอร์หลายอย่างเข้าช่วยกันเพื่อให้สามารถเก็บรายละเอียดของใบหน้าได้อย่างแม่นยำ และสแกนใบหน้าของผู้ใช้ให้เป็นแบบ 3 มิติที่จดจำใบหน้าของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้า ทรงผม ใส่หมวก ใส่แว่น หรือแม้แต่ฝาแฝด ระบบ FaceID ก็ยังสามารถจำแนกตัวบุคคลได้อย่างแม่นยำ
ด้านชิปประมวลผลใน iPhone X นั้นจะเป็นรุ่นใหม่ A11 Bionic เหมือนกับใน iPhone 8 และ 8 Plus ที่เป็นแบบ 6 แกน แยกกันทำงานในระดับประสิทธิ 2 แกน (เร็วกว่า A10 25%) และแบบ 4 แกน ในการทำงานทั่วไป (เร็วกว่า A10 ถึง 70%) โดยจะมีต่างก็ตรงมี Neural engine ที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อช่วยประมวลผลในส่วนของประมวลผลใบหน้าของ FaceID
ส่วนกล้องหลังจะเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 8 Plus เพียงแต่เปลี่ยนตำแหน่งการวางด้านหลังให้เป็นแนวตั้งแทน เพราะ iPhone X นั้นจะมีเซนเซอร์ต่างๆ เพิ่มเข้ามาด้านหน้ามากกว่าไอโฟน 8 นั่นเองทำให้วางกล้องแนวนอนไม่ได้ ความละเอียดของกล้องหลังอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล แฟลช LED ทรูโทน 4 ดวงให้ความสว่างเพิ่มขึ้น 2 เท่า แถมยังนำ AI ช่วยวิเคราะห์องค์ประกอบในภาพเพื่อให้คุณได้ภาพที่ดีที่สุด
กล้องหน้ารองรับ portrait Mode /portrait Lighting เพราะมี dept sensor ที่ไอโฟน 8 ไม่มี ส่วนแบตเตอรี่เคลมว่าใช้งานนานขึ้น 2 ชั่วโมง และแน่นอนว่ารองรับการชาร์จไร้สาย
ทั้งนี้ iPhone X มี 2 ขนาดคือ 64GB และ 256GB ราคาขายเริ่มต้นที่ 999 ดอลล่าร์หรือประมาณ 34,000 บาท จะเปิดให้สั่งจอง 27 ต.ต. เริ่มขาย 3 พ.ย.นี้
ด้าน iPhone 8 มีขนาด 64GB และ 256GB ราคาเริ่มที่ 699 ดอลลาร์ หรือประมาณ 24,465 บาท ส่วน iPhone 8 Plus มีขนาด 64GB และ 256GB เช่นกัน ราคาเริ่มที่ 799 ดอลลาร์ หรือประมาณ 27,965 บาท วางขาย 22 ก.ย.นี้
ⓟ✪❆ Ĵίnģωίή เข้าใจวาเป็นการแข่งขัน แต่นับวันยิ่งเสียความเป็น ไอโฟนที่ใช้ IOS ขึ้นทุกวัน รูปร่างหน้าตาระบบเริ่มจะเหมือนแอนดรอยเข้าทุกวันละ 555
13 ก.ย 2560 เวลา 02.16 น.
ไม่ค่อยน่าตื่นเต้นเรย
13 ก.ย 2560 เวลา 02.25 น.
Songwut C. s1601 มองผ่านๆนึกว่าซัมซูงแอนดรอย
13 ก.ย 2560 เวลา 02.33 น.
ของเก่ายังผ่อนไม่หมดของใหม่มาอีกละ
13 ก.ย 2560 เวลา 03.42 น.
ChAmP!oN ไม่มีไรให้ Wowww
13 ก.ย 2560 เวลา 02.11 น.
ดูทั้งหมด