กีฬา

เจาะลึกเหตุเพราะ 'อะไร' ทำไมแมนเชสเตอร์จึงเป็น 'สีฟ้า' ?

MATICHON ONLINE
อัพเดต 12 พ.ย. 2561 เวลา 13.36 น. • เผยแพร่ 13 พ.ย. 2561 เวลา 01.00 น.

เป็นอันว่าเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็สามารถลบอาถรรพ์ที่ไม่สามารถเอาชนะ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรังของตัวเองได้สำเร็จ หลังจากที่เปิดอิติฮัด สเตเดียม เอาชนะไปได้ 3-1

ถือว่าเป็นเรื่องน่าแปลกใจพอสมควรสำหรับ “แมนเชสเตอร์ ดารบี้” ที่ช่วงหลังก่อนหน้าเกมนี้ 6 เกม ไม่มีเจ้าบ้านทีมไหนเป็นฝ่ายชนะได้เลยสักครั้ง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่ทว่าครั้งนี้ เป็นเกมที่หลายๆ ฝ่ายมองกันตั้งแต่ก่อนการแข่งขันว่าด้วยฟอร์มอันร้อนแรงของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ดาหน้าไล่ถล่มคู่แข่งยับเยินมาตลอดในช่วงหลัง ก็น่าจะเอาชนะปีศาจแดงที่ฟอร์ม 3 วันดี 4 วันไข้ ไปได้ไม่ยาก

ซึ่งแล้วรูปเกมมันก็ออกมาเช่นนั้นจริงๆ ปีศาจแดง สู้ เรือใบสีฟ้า ไม่ได้ในทุกกระบวนท่า ทำให้เมืองแมนเชสเตอร์กลายเป็นสีฟ้าไปอย่างน้อยๆ 4 เดือน ก่อนที่จะกลับไปเจอกันอีกครั้งที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในเดือนมีนาคมปีหน้า

โจเซ่ มูรินโญ่ ก็ยังคงยึดบอลสไตล์ของตัวเองคือรถบัสเอาไว้ได้ ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าเกมรับของทีมนั้นไม่เคยไว้ใจได้นอกจาก ดาบิด เด เคอา นายทวารเบอร์ 1 ของโลกตอนนี้ แต่ต่อให้เด เคอา ดีแค่ไหน ตราบเท่าที่แนวรับยังเล่นกันหละหลวม ก็เหมือนรอโดนชัดๆ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เชื่อว่าแฟนปีศาจแดงคงอยากเห็นทีมเล่นแบบกล้าๆ เปิดบุกแลกกับซิตี้ไปเลย เสียเป็นเสีย เชื่อมั่นในแนวรุกว่าจะเอาคืนได้ เพราะเอาจริงๆ ช่วงหลังทั้ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หรือ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ผลัดกันยิงเรื่อยๆ ต่อให้แพ้มาก็ยังได้ใจแฟนมากกว่า

หลายคนบอกว่าการขาด ปอล ป๊อกบา คือส่วนหนึ่งที่ทำให้เกมของแมนฯ ยูไนเต็ด นั้นยิ่งเป็นรองซิตี้หนักข้อขึ้นไปอีก การดันเอา มารูยาน เฟลไลนี่ มาเล่นร่วมกับ อันแดร์ เอร์เรร่า กลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ซิตี้นั้นคุมเกมได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทั้งๆ ที่ฝั่งของซิตี้เองก็ยังขาดเพลย์เมกเกอร์ของทีมอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ แต่ตัวแทนที่ลงมานั้นกลับทำหน้าที่ได้ไม่ขัดเขิน การเล่นของ ดาบิด ซิลบา กับ แบร์นาโด้ ซิลวา ในเกมนี้คือจุดสำคัญที่ทำให้ซิตี้ชนะ โดยเฉพาะซิลบาที่เกมนี้ทั้งยิงประตูแรก และยังมาแอสซิสต์ปิดท้ายให้กับ อิลคาย กุนโดกัน อีก

ขณะที่เซร์คิโอ อากูเอโร่ เองก็ทำสถิติกลายเป็นผู้เล่นที่ยิงในแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ได้มากที่สุด 8 ประตู เทียบเท่ากับทางด้านของ เวยน์ รูนีย์ อดีตกองหน้ายูไนเต็ด แต่อากูเอโร่ยังมีลุ้นเพิ่มสถิติต่อไปได้

ตอนที่ยูไนเต็ด ได้ประตูจากจุดโทษไล่มาเป็น 1-2 ในการใช้เวลาในสนามเพียง 30 วินาทีของ โรเมลู ลูกากู เรียกจุดโทษให้กับทีมได้ และเป็นมาร์กซิยาล ที่กลายเป็นผู้เล่นฝรั่งเศสคนที่ 5 ที่สามารถทำประตูได้ 5 เกมติดต่อกัน

ประตูนี้ดูเหมือนจะเป็นการจุดประกายความหวังของยูไนเต็ดขึ้นมา เพราะอย่างที่หลายๆ คนทราบกันดีว่า ช่วงหลังมานี้ ปีศาจแดงพลิกสถานการณ์จากการเป็นผู้ตามหลัง กลับมาเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะ หรืออย่างน้อยมีแต้มได้บ่อยครั้ง ล่าสุดเองก็เพิ่งปราบ “ม้าลาย” ยูเวนตุส คาบ้านมาแล้ว

แต่สุดท้ายก็ผิดหวัง เพราะหลังตีไข่แตกได้ แมนฯ ยูไนเต็ด เองก็ไม่ได้สร้างความรำคาญใจให้กับซิตี้ได้อีกเลย แถมยังมาเสียประตูปิดท้ายอีก

ประตูของกุนโดกัน บันทึกเอาไว้ว่าผู้เล่นของซิตี้นั้นจ่ายบอลผ่านกันไปมาถึง 44 จังหวะ สถิตินี้เป็นรองเพียงประตูของฮวน มาต้า ที่ยิงให้ยูไนเต็ด ในเกมชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อปี 2015 เท่านั้น

อลัน เชียร์เรอร์ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ พูดถึงประตูนี้ในรายการ แมตช์ ออฟ เดอะ เดย์ ของบีบีซี ว่า ช่วงนาทีนั้นมันควรจะเป็นการบีบไล่บอลของยูไนเต็ดเพื่อที่จะทำประตูตีเสมอให้ได้ แต่นี้เหมือนกับผู้จัดการทีมสั่งการในการซ้อมวันศุกร์ ที่แบ่งทีมแข่งกัน แลัวยูไนเต็ดเป็นทีมสำรองที่ถูกสั่งว่าห้ามเข้าบอลหนักใส่ตัวจริง เพื่อไม่อยากให้บาดเจ็บ

เชียร์เรอร์ ยังบอกว่า ซิตี้นั้นเหนือกว่าในทุกตำแหน่งตั้งแต่เริ่มจนจบเกม ขณะที่ปีศาจแดงแม้จะโดนนำแต่ก็ไม่ไล่ ไม่บีบ หรือพยายามเอาบอลมาเป็นของตัวเอง ไร้พลัง และแรงกระตุ้นในการเล่น เหมือนไฟที่มอดไปแล้ว
เช่นเดียวกับ เจอร์เมน เจนาส อดีตกองกลางของนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่บอกว่าปีศาจแดงเล่นได้ไม่เป็นทีม เน้นความสามารถส่วนตัวมากกว่า พอโดนยิงก็จ่ายบอลกันเสียๆ หายๆ จนบุกไม่ขึ้นได้แต่ส่งคืนหลัง แล้วก็เล่นเหมือนกลัวเสียประตูเพิ่ม ไม่พยายามทวงคืนจนเปิดพื้นที่ให้ซิตี้ได้เล่น

ตามหลักสไตล์ดาร์บี้แมตช์ เราน่าจะได้เห็นฟุตบอลบู๊ล้างผลาญ ต่อให้เล่นเกมรับสู้กับเกมรุก แต่เราก็จะได้เห็นการเล่นที่แบบใส่เต็มร้อยให้กับคู่แข่ง แบบ “เอ็งไม่ตายข้าก็ม้วย” ทว่าเกมนี้ปีศาจแดงไม่มีลูกแบบนั้นออกมาให้เห็นเลย

เล่นกันแบบนี้ เรือใบสีฟ้าคงบอกว่าง่ายกว่าเอาชนะ ฟูแล่ม เสียอีก เพราะเกมนั้นฟูแล่มยังมีโอกาสทำประตูมากกว่ายูไนเต็ดด้วยซ้ำ

สรุปแล้วการที่เมืองแมนเชสเตอร์กลายเป็นสีฟ้าในครั้งนี้ สาเหตุมันคงไม่ได้มีอะไรมากนอกจากปีศาจแดงนั้นแพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง เพราะตั้งแต่คนวางแผน ยันผู้เล่นที่ออกมาเล่น ไม่มีใครสู้สักคน จะไปมีโอกาสชนะใครได้อย่างไร

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 7
  • MarKk Apisit
    อย่าว่างั้นงี้เลย ถ้าเปิดหน้าแลก อาจมา 4-5เม็ด (ซิตี้ยิงนะ) ครึ่งแรกยังไม่ไล่บอลพอเข้าใจได้ รอเปลี่ยนแผน + ยังไม่อยากโดนเพิ่ม โดนแค่ลูกเดียวยังพอไหวประคองไว้ก่อน แต่ครึ่งหลังยังไม่ไล่บอลเริ่มแปลกๆทั้งๆที่โดนลูก2เร็ว และก็ไม่ไล่บอลเลย คือถ้าลองสู้อาจจะพอสู้ได้นะ แต่นี้ไม่สู้รับรอโดนอย่างเดียว กองหลังทั้ง4ท่านนี่เล่นแบบไม่เอาเลย
    13 พ.ย. 2561 เวลา 03.06 น.
  • น้ามูเก่งนักบอลห่วย
    13 พ.ย. 2561 เวลา 05.21 น.
  • ΜӒx Devil👹
    ปลดมูออกไป กองกลางก็ห่วย แต่กองหลังห่วยกว่า
    13 พ.ย. 2561 เวลา 03.06 น.
  • โอ๋น้อยA 789
    ไม่แปลก
    13 พ.ย. 2561 เวลา 02.36 น.
  • CAKE4YOU
    ไม่เห็นแปลก. แมนยูรถบัสแล้วเป็นรถบัสแบบรถปุโรทั่งมีแต่โดนกับโดน
    13 พ.ย. 2561 เวลา 02.21 น.
ดูทั้งหมด