รู้ไหม ?..ชีวิตมีหลายด้านที่มากกว่าแค่งาน เงิน ครอบครัว ตัวเอง หรือเพื่อน แต่ยังมีเรื่องของร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสุขภาพ ที่เราจะละเลยอะไรไปไม่ได้เลย
เราต้องจัดลำดับสิ่งเหล่านี้ให้เกิดความสมดุล เพื่อที่จะไม่โอนเอียงไปทางใดทางหนึ่งมากเกินไปจนทำให้เกิดปัญหาในชีวิต
ความสมดุลในที่นี้ ก็คือภาวะที่สิ่งต่าง ๆ มีความลงตัวอย่างเหมาะสมพอดี ซึ่งเป็นหน้าที่ของเราที่จะจัดการให้ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวอยู่ในภาวะพอดิบพอดีแบบนี้
ทำไมชีวิตต้องมีสมดุล..
ลองนึกถึงขาสองข้างที่ต้องก้าวเดินดูสิ ถ้าใช้แค่ขาข้างเดียว หรือขาทั้งสองไม่เท่ากัน การก้าวแต่ละก้าวก็จะลำบากขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าชีวิตไม่มีสมดุล เราก็อาจต้องใช้ความพยายามมากขึ้น ลำบากขึ้น เหนื่อยขึ้นกว่าจะออกเดินไปได้
แล้วทำไมความสมดุลถึงสำคัญ..
ก็เพราะความสมดุลสำคัญกับการดำเนินชีวิตเพื่อไปให้ถึงจุดมุ่งหมาย ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จ ความสุข หรือจุดหมายอะไรก็ตามที่เราวางไว้ ถ้าเราไม่สร้างสมดุลให้เกิดขึ้น ก็ไม่มีวันไปถึงจุดมุ่งหมายนั้น
ทั้งคำถามที่ว่า ‘ทำไมชีวิตต้องมีสมดุล’ และ ‘ทำไมความสมดุลถึงสำคัญ’ บอกได้ว่าเราต้องสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นในชีวิต เพราะจริง ๆ แล้วการดำเนินชีวิตนั้นต้องอาศัยความสมดุลหลายอย่าง ทั้งความสมดุลระหว่างกายกับใจ ความสมดุลระหว่างเรื่องงานส่วนรวมกับงานส่วนตัว ระหว่างงานภายนอกกับงานภายใน โดยเฉพาะสมดุลเรื่องงานกับชีวิตส่วนตัวที่มีแนวโน้มว่าจะถูกกลืนกินเข้าด้วยกันง่ายกว่าอย่างอื่น
เดี๋ยวนี้มี How to 108 อย่างที่ช่วยสร้างสมดุลงานกับชีวิตส่วนตัว โดยไม่ให้ความสำคัญกับอะไรมากเกินไปจนทำให้ตัวเองไม่มีความสุข เพราะคนเราไม่ได้มีชีวิตแค่ด้านเดียว เราก็เลยต้องให้ความสำคัญกับทุก ๆ อย่างให้เท่าเทียมกัน
หัวใจสำคัญของการปรับสมดุลงานกับชีวิตนั้น ไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่ต้องบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพและมีวินัยกับตัวเอง จริงอยู่ที่ “งาน” ก็สำคัญ แต่ชีวิตส่วนตัวหรือชีวิตครอบครัวก็สำคัญไม่แพ้กัน วิธีที่ง่ายและเห็นผลที่สุดก็คือเวลาทำงานหรืออยู่ที่ทำงานก็โฟกัสทุกอย่างไปที่งานอย่างเดียว และเวลาอยู่บ้านหรือออกจากที่ทำงานแล้ว ก็ต้องปล่อยวาง จัดระเบียบตัวเอง สร้างสมดุลกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น
คนเราจะสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นได้อย่างไร
คำตอบง่าย ๆ ก็แค่ ‘เดินสายกลาง’ เป็นเรื่องที่เราชาวพุทธน่าจะเข้าใจกันได้ดีอยู่แล้วว่าไม่ใช่ความเป็นกลางระหว่างสองฝ่าย แต่คือความพอดีพอดิบที่จะนำพาเราไปสู่จุดมุ่งหมาย โดยไม่สุดโต่งไปกับอะไรหรือสิ่งใดมากจนเกินไป
ในกรณีนี้ถ้าเป็นเรื่องงาน แน่นอนทุกคนต้องอยากประสบความสำเร็จ แต่จะทำงานหนัก ทุ่มเทจนตัวตายก็ใช่เรื่อง..สิ่งที่เราทำก็คือสร้างสมดุลหรือเดินสายกลางด้วยการตั้งใจกับงานอย่างเต็มที่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา โดยไม่มาเบียดเบียนสุขภาพหรือชีวิตส่วนตัวและครอบครัว..นี่จึงจะเป็นการสร้างสมดุลและเดินสายกลางที่แท้จริง
จริง ๆ แล้วคนเราสามารถสร้างสมดุลได้กับการดำเนินชีวิตทุกรูปแบบ เพราะถ้าสุดท้ายชีวิตเราจะเหนื่อย ลำบาก หรือเป็นทุกข์ นั่นก็เพราะเราเองที่ไม่เคยเดินสายกลางอย่างถูกต้อง ไม่เคยทำให้ชีวิตเกิดสมดุลใด ๆ เลย…
คิดว่าในความสมดุลของชีวิตย่อมที่จะเกิดขึ้นมาได้ก็ด้วยเพราะในการปรับเปลี่ยนในแนวความคิดของตนเองเพื่อที่จะให้เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องไม่ว่าจะเป็นตนเองหรือว่าสังคม.
15 พ.ค. 2562 เวลา 22.49 น.
มัชฌิมา ค่ะ
17 พ.ค. 2562 เวลา 06.05 น.
วาลา จาบอากาศ
16 พ.ค. 2562 เวลา 13.12 น.
TEERAYUT MC. จริงที่สุด
15 พ.ค. 2562 เวลา 16.16 น.
T.cho เยี่ยม..
15 พ.ค. 2562 เวลา 13.15 น.
ดูทั้งหมด