"ประยุทธ์" โบ้ยสื่อเสนอมาตรการแจก 1,500 กระตุ้นท่องเที่ยว จนสับสนทั้งที่ยังไม่สะเด็ดน้ำ วอนอย่าเพิ่งตระหนก ชี้ถ้าคนไม่ใช้จ่าย ยุ่งแต่การเมือง ทุกอย่างหยุดหมด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อพยุงเศรษฐกิจช่วงกลางปี 2562 คนละ 1,500 บาทว่า หลายอย่างเป็นเรื่องที่รัฐบาลยังไม่ดำเนินการ เพียงข่าวที่สื่อมวลชนนำเสนอเยอะแยะไปหมด ทำให้เกิดความสับสนอลหม่าน ทั้งการเมือง ค่าใช้จ่าย แล้วก็ตีกลับมาที่รัฐบาลแล้วจะไปได้อย่างไร อย่าลืมว่า รัฐบาลก็คือรัฐบาล เราก็ทำหน้าที่รัฐบาลต้องทำหน้าที่ต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีครม.ใหม่ขึ้นมา มีการถวายสัตย์ปฏิญาณตนเมื่อมีการถวายสัตย์เราก็จะหมดหน้าที่ ระหว่างนี้ประเทศเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ งานต่างๆ ไม่สามารถหยุดได้ ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย รัฐบาลพยายามที่จะควบคุมสถานการณ์ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจ
"ดังนั้นที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะมีมาตรการต่างๆ ออกมาช่วงนี้นั้น ขอบอกว่ายังเป็นเพียงการศึกษาและปรึกษาหารือกัน ของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง เพียงแต่วันนี้ข่าวออกมาก่อน โดยเฉพาะในเรื่องของการท่องเที่ยวเมืองรอง สื่ออย่ามาถาม มันยังไม่มีข้อสรุปอะไรออกมาเลย บางทีเป็นเรื่องแค่การหารือกันเพื่อหาข้อสรุปให้ได้ ยืนยันว่ายังไม่ได้ข้อยุติ เพราะมีหลายอย่างเกี่ยวข้องไม่ใช่ให้เงินแล้วจบ ยังมีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้องทั้งเรื่องของภาษีคณะกรรมการกำลังพิจารณาอยู่ ขอร้องทุกคนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก" นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการทางเศรษฐกิจมีผล 2 อย่าง เพราะเศรษฐกิจของประเทศขึ้นอยู่กับการส่งออกมาด้วย ซึ่งทุกคนก็ทราบดี ดังนั้นเมื่อโลกมีผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ มีสงครามการค้าก็จะส่งผลกระทบต่อยอดการส่งออก จึงจำเป็นต้องมีการเพิ่มการใช้จ่ายในประเทศ ถ้าทุกคนไม่กล้าที่จะใช้เงิน ไปยุ่งแต่กับเรื่องการเมือง ทุกอย่างมันหยุดไปหมด แล้วรัฐบาลจะทำอะไรได้ วันนี้จึงอยากขอร้องประชาชนทุกคนที่มีขีดความสามารถในการใช้จ่ายเงินต้องช่วยกัน มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย คนไม่มีรัฐบาลก็จะดูแลให้สามารถดำรงชีพอยู่ต่อไปได้ ถือเป็นหลักการสำคัญ ถ้าเราไม่ช่วยกัน ทุกคนไม่ยอมเสียอะไรเลย อยากจะได้เพียงอย่างเดียวก็ไม่มีใครทำอะไรให้ได้
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลจึงจำเป็นต้องหามาตรการเพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายภายในประเทศให้ได้มากยิ่งขึ้น เงินเหล่านี้ก็จะลงไปในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต ทั้งเอสเอ็มอี โรงงานอุตสาหกรรม ที่เป็นภาคการผลิต แต่ถ้าคนซื้อไม่ยอมซื้อและไม่กล้าใช้จ่ายเงิน แล้วจะไปผลิตให้ใคร รัฐบาลจึงต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในไตรมาสแรกผ่านไปแล้ว 2 เดือน เหลืออีก 1 เดือน จากนั้นต้องมาดูในไตรมาส 2 เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เพราะถ้ามีปัญหาผลกระทบจะตกไปอยู่ที่ประชาชน รัฐบาลจึงต้องหามาตรการที่เหมาะสม แต่ก็ต้องระมัดระวังในข้อกฎหมายทุกประการ โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณ
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลนี้ระมัดระวังอย่างเต็มที่ ทำงานทุกอย่างด้วยความรอบคอบ หลายอย่างหลายคนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องแก้แบบนี้ แต่เราจำเป็นต้องแก้ไขให้เป็นระบบเพื่อไม่ให้เป็นภาระรัฐบาลต่อๆไป เหมือนกับที่ปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้นมาก่อนรัฐบาลนี้ แต่เราต้องมาแก้ปัญหา ทั้งปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ปัญหาสิทธิประโยชน์ การร่วมลงทุนการค้า เพราะทุกอย่างรัฐบาลเป็นคู่สัญญาทั้งสิ้น เมื่อเกิดปัญหารัฐบาลต้องรับผิดชอบและแก้ปัญหาให้ได้ ทุกอย่างจึงต้องช่วยรัฐบาลในการแก้ปัญหา ไม่อย่างนั้นก็จะตีกันไปมา เรื่องก็จะไม่จบ แก้ปัญหาไม่ได้ ประชาชนก็ไม่เข้าใจ ก็ไปโพสต์ข้อความกันต่อ กลายเป็นปัญหาให้รัฐบาลทำงานได้ยากขึ้น อีกทั้งสถานการณ์ก็บังคับ แต่ถ้าทุกคนร่วมมือกันก็จะไปได้ทั้งหมด อย่าลืมประเทศมีศักยภาพ เพียงแต่เราต้องรักกัน สามัคคีกันให้มากขึ้น ต้องเข้าใจระบบเศรษฐกิจของประเทศ ถ้าทุกคนเรียกร้องอยากได้แต่ไม่ยอมให้ความร่วมมือก็ไม่สามารถที่จะเดินต่อไปได้ ไม่ว่าจะออกมาตรการอะไรออกมา.
แจกเงินให้เที่ยวให้ใช้จ่าย!!!!มันใช่มั้ยเนี่ย ไหนหละเศรษฐกิจพอเพียงทั้งหลาย!!!!! สร้างนิสัยงอมืองอเท้า..ไม่อยู่กับความเป็นจริง....ถ้ามีความคิดที่ดี ก็เอาไปทำอย่างอื่นเถอะ
อยากได้หน้าก็แจกเงิน...ง่าย!!! แจกทุกคนทุกเดือนเป็นไง
เอาให้สะใจ
25 เม.ย. 2562 เวลา 00.40 น.
Audiomaker เดี๋ยวเผลอๆมึงก็อนุมัติ
24 เม.ย. 2562 เวลา 23.41 น.
peterpandora แจกหนักกว่า แจกถี่กว่า ประชานิยมกว่า
24 เม.ย. 2562 เวลา 23.34 น.
VIZA007 เอาแต่แจกเงินภาษีแล้วก็เก็บภาษีมีแค่นี้จริงๆ
25 เม.ย. 2562 เวลา 00.24 น.
จอมทัพ การช่วยเหลือต้องมีขอบเขต ถ้าให้ทุกอย่างเขาจะเป็นคนไร้ค่า!
25 เม.ย. 2562 เวลา 00.52 น.
ดูทั้งหมด