นครปฐม - ผู้ปกครองรวมตัวขอทายาททั้ง 8 ครอบครัว ยุติความขัดแย้งหันหน้าทำเพื่อเด็ก 500 กว่าชีวิตได้เรียนที่ จารุวรรณวิทยาอีกครั้ง ล่าสุดได้ร้องเรียนไปแล้ว 2 แห่ง แต่ยังไม่มีหน่วยงานรัฐแจ้งกลับถึงความเป็นไปได้
หลังจากที่มีข่าวของที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ได้มีการส่งหนังสือเพิกถอนใบอนุญาต โรงเรียนจารุวรรณวิทยา เลขที่ 30 ม.1 ต.ไทยาวาส อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยจะมีผลในวันที่ 31 มีนาคม ที่จะถึงนี้ ทั้งนี้ได้รับการเสนอจากคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เพื่อให้เพิกถอนใบอนุญาตเนื่องจากไม่สามารถที่จะหาผู้รับโอนใบอนุญาต ที่ชัดเจนได้
ซึ่งก่อนหน้าสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐมได้มีการเข้าควบคุมกิจการมาตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีการประชุมหารือเพื่อหาทางออกไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งเมื่อวันที่26 มกราคม ที่ผ่านมาก็เหมือนว่าจะสามารถลงตัวในการหาผู้รับโอนใบอนุญาตได้แล้ว เมื่อทายาททั้ง 8 คนได้มีการลงนามแต่งตั้งตัวแทนที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารงานโรงเรียนมานั่งบริหารงานเพื่อพัฒนาโรงเรียนจารุวรรณวิทยา
โดยดร.กนก ปิ่นตบแต่ง ศึกษาธิการจังหวัดนครปฐมได้มีการประกาศว่าการดำเนินการต่อไปได้ โดยมีผู้ปกครองกว่า 400 คนที่มารับฟังต่างโล่งอกกับการจะเดินหน้าหรือยุติกิจการที่มีมากว่า 67 ปี แต่สุดท้ายเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 63 ที่ผ่านมสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ได้มีการออกหนังสือเรื่องการเพิกถอนใบอนุญาตโรงเรียนจารุวรรณวิทยา หลังจากที่มีทายาทได้ยื่นเอกสาร 6 ข้อในการแต่งตั้งผู้รับโอนใบอนุญาต ซึ่งทำให้มีทายาทบางคนไม่ยอมเซ็นต์เอกสารดังกล่าว
โดย ด.ช.ธีรพล เดชจินดา (น้องอาตี้) นักเรียนชั้น ป.5/1 บอกว่ารู้เรื่องการปิดโรงเรียนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา รู้สึกเสียดายและเสียใจมากเพราะแม่ก็เคยเรียนที่นี่มาก่อน โดยได้คุยกันในครอบครัวว่าอยากให้โรงเรียนนี้ได้ไปต่อเพราะเป็นโรงเรียนที่ดี มีเพื่อนๆดี และมีครูที่เอาใจใส่กับนักเรียนมาก ซึ่งวันนี้ก็บอกกับเพื่อนๆในการเตรียมย้ายโรงเรียนไปแล้ว โดยได้มีการเขียนเรียงความเอาไว้เกี่ยวกับโรงเรียนที่จะต้องปิดตัวลงในอีกไม่กี่วัน โดยวอนไปถึงผู้ใหญ่ให้ทบทวนการปิดโรงเรียนนี้ด้วย
ขณะเดียวกันผู้ปกครองหลายคนที่ได้เข้ามารับส่งบุตรหลาน ต่างเริ่มจับกลุ่มคุยกันอีกครั้ง ซึ่งแปลกใจที่เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาก็ได้รับหนังสือแจ้งจากบุตรหลานว่าทางโรงเรียนจารุวรรณวิทยา ได้แจ้งว่าให้มีการไปหาสถานที่เรียนแห่งใหม่ในช่วงปิดเทอมนี้ ซึ่งสร้างความประหลาดใจและสับสนกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้ออกมาแสดงความเห็นใจจากทายาททั้ง 8 ครอบครัว ให้ยุติปัญหาในเรื่องการบริหารงานออกไปก่อน เนื่องจากหากยังตงลงกันไม่ได้เด็กอย่างน้อย 400 คนยังต้องมีปัญหารวมถึงผู้ปกครองหลายร้อยครอบครัวก็จะมีปัญหามากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งไปสอบถามโรงเรียนเอกชนแห่งอื่นพบว่ามีค่าใช้จ่าย ราว 1-2 หมื่นบาท ซึ่งโรงเรียนจารุวรรณวิทยาได้มีค่าเทอมเพียงเทอมละเฉลี่ย 2.5 พันบาทเท่านั้น
นายสิทธิศักดิ์ โพธิ์รุ่งแจ้ง อายุ 34 ปี ผู้ปกครอง บอกว่า ตนเองและผู้ปกครองดีใจกันที่เมื่อวันที่ 26 มกราคม ตกลงกันได้แล้วซึ่ง ศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ได้ประกาศบนเวทีว่าโรงเรียนได้ดำเนินการต่อไป แต่เมื่อได้รับเอกสารรู้สึกไม่สบายใจและมีผู้ปกครองหลายคนก็พยายามจะสู้ให้โรงเรียนนี้อยู่ต่อไป และได้พยายามไปหาที่เรียนเอกชนในละแวกใกล้ที่สุดก็ยังไม่ดีเท่าที่นี่ ราคาก็แพงกว่า
ส่วนโรงเรียนของรัฐขณะนี้หลายโรงเรียนก็ยังมีเก้าอี้เรียนไม่พอ เด็ก 400 กว่าคนจะไปอยู่ที่ไหนซึ่งปัญหาหลักคือค่าใช้จ่าย โดยโรงเรียนจารุวรรณวิทยานั้นดีจริงๆ เพราะครูทุกคนใส่ใจเด็กมาก ลูกตนเองได้ทำกิจกรรม นอกห้องเรียนแล้วกลับไปเด็กเล็กยังทอดไข่ได้ ซึ่งทุกคนที่บ้านก็งง พอได้มาแอบดู ทั้งครูเจ้าหน้าที่หรือพ่อค้าแม่ค้า ก็ได้ประสานงานกันดูแลเด็กๆอย่างละเอียดหาโรงเรียนแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว โดยขอให้ทายาททั้ง 8 ครอบครัวกลับมาทบทวนอีกครั้งเพื่อให้โรงเรียนเดินหน้าไปก่อนและเก็บประวัติศาสตร์ที่ดีของชุมชนเอาไว้
chettha ชกส 13 ศธ.แม่งทำได้แค่สั่งปิด
25 ก.พ. 2563 เวลา 09.50 น.
jU ทางเจ้าของโรงเรียนเสียชีวิต แล้วไม่มีบุตรสืบทอด จึงตกเป็นของพี่น้องทายาทที่เหลืออยู่ 8 คน แต่ไม่สามารถตกลงเรื่องการบริหารโรงเรียนได้ จึงไม่ขอต่อใบอนุญาตประกอบกิจการเรียนต่อ ซึ่งใบอนุญาตจะถูกเพิกถอน สิ้นเทอม มีค 63 แต่พึ่งมาแจ้งผู้ปกครองเมื่อ 11 กพ ที่ผ่านมา ทำให้ นร ผปค ต้องหาที่เรียนใหม่ ครูก็ต้องตกงาน ทั้งๆ ที่ รร ก่อตั้งมานานกว่า 67 ปี แล้วค่ะ รู้สึกเสียดาย เราก็เป็นหนึ่งในผู้ปกครองที่เดือดร้อน
25 ก.พ. 2563 เวลา 14.01 น.
ท่านขุน เอาไอ้คนเขียนข่าวไปเรียนด้วย เขียนผิดๆถูกๆ
25 ก.พ. 2563 เวลา 10.06 น.
sri โรงเรียนดี แล้วทำไมปิด ซะ ใครรู้ตอบที ชาวบ้าน รวมตัว ออกทีวีดีมั้ย
25 ก.พ. 2563 เวลา 09.23 น.
ดูทั้งหมด