เลิกกับเรา เขามีคนใหม่ทันที อย่างนี้ก็ได้หรอ?

โสดหนึ่งเดือน พร้อมเลื่อนไปเป็น in a relationship ทั้งที่แฟนเก่ายังไม่ทันทำใจได้ มันก็กลายเป็นเรื่องกอสสิปของชาวบ้าน เพื่อนฝูง คนใกล้ตัว คนว่างๆ ที่พร้อมจะอยากรู้และทำความเข้าใจในความสัมพันธ์ของเรา

มันไม่สำคัญหรอกว่า หลังเลิกกันเราโสดมานานแค่ไหนกว่าจะอินกับความสัมพันธ์ใหม ที่ควรโฟกัสคือเราจบกับคนเก่าอย่างชัดเจนแล้วหรือยัง

จบกับคนเก่า เราต้องเคลียร์ตัวเองทุกประเด็น

“ฉันไม่อยากแก้ไขอะไรอีกแล้ว” เวลาคนรักกันมีปัญหากัน สเต็ปแรกคือจับเข่าคุยช่วยกันแก้ไขให้รักไปต่อได้ เปิดใจ ทำความเข้าใจกันใหม่ ในคอนดิชั่นที่ทั้งสองคนมีความพร้อมทางใจที่จะเจอกับปัญหาต่อไปที่อยู่ข้างหน้า แต่ถึงจุดหนึ่งที่คนหนึ่งล้า ไม่เอาแล้ว ไม่ว่าอีกคนจะพยายามแค่ไหนก็ซ่อมความรักคนเดียวไม่ได้ เอาแรงนั้นไปซ่อมหัวใจตัวเองง่ายกว่า

“ปัญหาก็คือ…” บอกให้เคลียร์ว่ามีอะไรอยู่ในใจ มีคนใหม่? เหนื่อยจะแก้ปัญหา? เบื่อหน้ากันแล้ว? เหตุผลอะไรที่สรรหามาอ้างได้ ยังไงก็ต้องบอก และอย่ายืดเยื้อเพราะมันจะทำให้อีกฝ่ายคิดว่าเรายังเหลือเยื่อใย เขามีความหวังเพราะเราให้ความหวัง แต่สุดท้ายถ้าเราไม่อยากไปต่อ เขาก็จะกล่าวหาเราได้ว่าเราไม่พยายามแต่ก็ไม่เด็ดขาดซะที

“เลิกแล้วต้องเลิกขาด” คนที่ไม่ได้อยู่ใต้สปอตไลท์จะใช้ชีวิตส่วนตัวแบบไหน จะไม่ค่อยหนักอะไรใครเท่าไหร่ อย่างมากก็คนในครอบครัว ถ้ามีเพื่อนเยอะ คนรู้จักเพียบก็อาจจะถูกตั้งคำถาม ยิ่งมีชื่อเสียง ยิ่งเพิ่มมากขึ้น นอกจากเราสองคนจะต้องตอบคำถามตัวเองกันแล้ว ยังต้องตอบคนอื่นให้ชัดเจนอีกด้วย ซึ่งความจริงก็ไม่มีความจำเป็น สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือเราได้เลิกขาดกับคนเก่าของเราแล้วหรือยัง ถ้าเรียบร้อยแล้วเราก็สามารถเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ได้ แม้ว่าอาจจะหนักหัวใจคนเก่าเล็กน้อย แต่เขาก็จะจัดการมันได้เอง

เลิกคนเก่านานแค่ไหนถึงมีคนใหม่ได้ไม่ตกเป็นขี้ปากคน

คำตอบคือ บอกระยะเวลาไม่ได้ แต่ความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ กับคนใหม่ก็ควรเป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน เพราะมันอาจทำร้ายความรู้สึกคนเก่าและกลายเป็นคำถามว่า ความสัมพันธ์ใหม่มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ก่อนหรือหลังที่เราจะจบกัน?

แต่ถ้าเราไม่แคร์ ก็ตัดความรู้สึกของคนเก่าไปได้แล้ว แล้วแต่ แค่สุดท้ายแล้วแม้ว่าความรู้สึกมันเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้ก็จริง แต่พอรู้สึกตัวแล้วก็ควรจะชัดเจนและเด็ดขาด ก่อนมีคนใหม่ เลิกกับคนเก่า แล้วเราจะรีบเปิดตัวสานสัมพันธ์อะไร ยิ่งเร็ว ยิ่งไม่เดือดร้อนใคร

ในช่วงระหว่างที่ยังไม่เลิกกับคนเก่า แต่ไม่แน่ใจในตัวคนใหม่ มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลย มันคือความเสี่ยงที่เราจะไม่มีความปลอดภัย ถ้าอยากรู้ว่าคบกันคนใหม่แล้วเวิร์คไหม หนทางเดียวคือเลิกกับคนเก่าซะก่อน ไม่มีสิทธิ์ที่จะ test drive ก่อนจะกระโดดไปยืนบนหินก้อนใหม่ ก็เลยยืนเหยียบเรือสองแคมอย่างนั้นเรียกว่าเห็นแก่ตัว.