รายงานผลการจัดอันดับประจำปีของ INRIX บริษัทที่ให้บริการข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับการจราจรและการขับรถ ซึ่งทำการสำรวจสภาพการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนใน 1,064 เมือง จาก 38 ประเทศทั่วโลก ผลปรากฎว่า ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็น ประเทศที่รถติดมากที่สุดในช่วงที่มีการจราจรคับคั่ง โดยผู้ขับขี่ใช้เวลาบนถนนเฉลี่ย 64.1 ชั่วโมงต่อปี ตามมาด้วยโคลอมเบีย และอินโดนีเซีย ที่ใช้เวลาบนถนนที่สภาพการจราจรติดขัดเท่ากันที่ 47 ชั่วโมงต่อปี
อย่างไรก็ตาม หากนับเฉพาะเมือง เมืองที่รถติดมากที่สุดในโลกในชั่วโมงเร่งด่วน คือ นครลอสแองเจลิสของสหรัฐฯ ซึ่งใช้โดยผู้ขับขี่ใช้เวลาเฉลี่ยบนถนน 104.1 ชั่วโมงต่อปี ตามมาด้วยกรุงมอสโก ของรัสเซีย แชมป์เก่า ที่ 91.4 ชั่วโมงต่อปี และอันดับ 3 คือ นครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ ที่ 89.4 ชั่วโมงต่อปี
ส่วนกรุงเทพมหานครอยู่ในอันดับที่ 12 ที่ 64.1 ชั่วโมงต่อปี ขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 30 เมื่อปีที่แล้ว แซงหน้ากรุงการากัส เมืองหลวงของเวเนซุเอลา และกรุงเม็กซิโกซิตี้ เมืองหลวงของเม็กซิโก ที่เคยอยู่ในท็อปเทน
ทั้งนี้ จากข้อมูลที่สำรวจในสหรัฐอเมริกา ต้นทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมจากเวลาที่เสียไปบนท้องถนน คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี หรือเฉลี่ย 1,400 ดอลลาร์ต่อคน หรือประมาณ 5 หมื่นบาท ส่วนที่กรุงลอนดอน เมืองหลวงของอังกฤษ ซึ่งติดอยู่ในอันดับ 7 มีการระบุว่าหนึ่งในสาเหตุที่ทำรถติดมากขึ้นก็คือการชอปปิ้งออนไลน์ เนื่องจากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การจับจ่ายใช้สอยบนโลกออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้จำนวนรถส่งของที่วิ่งบนถนนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยทุกวันนี้ขับรถยนต์ไปทางไหนก็มักเห็นรถของของบริษัทต่างๆ เต็มท้องถนนไปหมด
รถติดแย่จัง
26 ก.พ. 2560 เวลา 11.31 น.
Ka_Tol *_*" คงจะไม่มีใครมาแย่งแชมป์นี้ได้หรอก 5555
22 ก.พ. 2560 เวลา 07.58 น.
เปี๊ยก ดีล่ะครับรถขายง่าย
ใครซื้อได้หมด
22 ก.พ. 2560 เวลา 06.49 น.
เย้...ประเทศเราได้ที่หนึ่ง
22 ก.พ. 2560 เวลา 06.13 น.
N'JOY(江玉梅) แต่ละบ้านมีรถกันก็เยอะ น่าจะมีจำกัดการใช้รถของแต่ละครอบครัว บ้านไหนไม่มีที่จอดไม่ให้ซื้อ จอดตามถนนห้ามจอด ใช้รถส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว ขยายความเจริญไปให้ทั่วไม่ใช่แค่กรุงเทพเพราะคนส่วนใหญ่จะมาหางานทำในกรุงกัน ถ้ากระจายขยายก็จะทำให้ในกรุงไม่แออัด มีงานทำทุกที่ไม่ต้องไปไกลจากบ้าน
22 ก.พ. 2560 เวลา 05.40 น.
ดูทั้งหมด