ทั่วไป

ไขปริศนาแผลรูโบ๋ศพชมพู่ ชี้วันตายไม่ใช่ตอนถูกอุ้ม แม่ปัดทำ-ลุงเพิ่งเห็น (คลิป)

Amarin TV
เผยแพร่ 10 ก.ค. 2563 เวลา 11.34 น.
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ ระบุชัด รูแผลที่สะโพกบนศพน้องชมพู่ เกิดขึ้นหลังเสียชีวิตไปแล้ว จากการกดทับกิ่งไม้หรือหินแหลมนาน ๆ มั่นใจไม่ใช่แผลคมมีดหรือคมกระสุนแต่อย่างใด

กรณีบาดแผลที่พบบริเวณสะโพกขวา บนศพของ น้องชมพู่ วัย 3 ขวบที่เสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟ จ.มุกดาหาร หลังหายตัวนาน 4 วัน จนมาพบเป็นศพ และล่าสุดมีภาพบาดแผลลักษณะเป็นรู คล้ายกับถูกของมีคมแทง บริเวณสะโพกขวานั้น

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่ 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ล่าสุดวันที่ 10 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี มีโอกาสพูดคุยกับ ลุงพล ป้าแต๋น ระบุว่า สภาพศพที่ทีมข่าวให้ดู ตนไม่เคยเห็น และวันที่ไปพบศพตนก็ไม่ได้เข้าไปใกล้ขนาดที่จะเห็นรายละเอียด ตนนั่งห่างพอสมควร ซึ่งได้ยินแค่เจ้าหน้าที่คุยกัน แต่หากดูจากภาพ มีบาดแผลเป็นรูเช่นนี้ เจ้าหน้าที่คงจะมีข้อมูลอะไรบ้างแล้ว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ซึ่งช่วงยังมีชีวิต ไม่มีบาดแผลแบบนั้น ตนไม่เคยอาบน้ำให้ชมพู่ แต่ป้าแต๋นเคยอาบ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเห็นบาดแผลเช่นนี้ รวมทั้งบาดแผล รอยช้ำอื่น ๆ ก็ไม่มี แผลที่เห็นก็มันเป็นรู เหมือนถูกอะไรทิ่ม ซึ่งก็ไม่ทราบว่ามาจากไหน ที่ผ่านมาน้องชมพู่เป็นเหมือนตุ๊กตาในบ้าน

ขณะที่นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา บอกว่า ไม่เคยสังเกตว่ามีแผลนี้ ก็เพิ่งทราบเหมือนกัน เวลาน้องซน เท่าที่จำความได้เคยตีลูก 1 ครั้ง เพราะไม่ยอมเชื่อฟังตน การเลี้ยงลูกก็มักจะไม่ใช้ความรุนแรง 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมื่อสรุปคำสัมภาษณ์ดังนี้ นางสาวิตรี บอกว่า "ยืนยันไม่เคยมีการทำร้ายลูก" ส่วน ลุงพล บอกว่า "เพิ่งรู้เพราะไม่ได้สังเกตวันพบศพ และไม่เคยพบแผลแบบนี้ บนร่างกายชมพู่มาก่อน"

รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว. เปิดเผยว่า ขณะนี้ศพได้ถูกเผาไปแล้ว ซึ่งหากดูจากรูปถ่ายจะวิเคราะห์ยากกว่าการผ่าพิสูจน์

แต่เท่าที่ตนดูรูปที่ทีมข่าวนำมาให้ดู ประกอบกับดูลักษณะของบาดแผล ส่วนตัวคิดว่า ร่องรอยรู ที่เกิดขึ้นบริเวณ สะโพกขวาของน้องชมพู่เกิดขึ้นหลังจากที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์ด้วยสายตาจะไม่สามารถสรุปได้ว่า ความลึกของแผล ที่เป็นรูกลมบนศพนั้นจะลึกขนาดไหน ต้องผ่าพิสูจน์ จะทำให้เห็นเนื้อเยื่อภายใน ถึงจะทำให้วิเคราะห์สภาพบาดแผลแบบระเอียดและระบุชัดเจนได้

รศ.นพ.วีระศักดิ์ บอกอีกว่า แต่จากที่ตนดูจากบาดแผลตามรูปที่เห็น จะเป็นแผลที่ไม่มีเลือดออก หมายถึงว่าเป็นแผลที่เกิดตอนที่เสียชีวิตไปแล้ว ยกตัวอย่างเช่นเมื่อน้องชมพู่เสียชีวิต 1-2 วัน ร่างกายอาจไปทับอยู่กับหิน แหลม หรือไม้ที่มีลักษณะคล้ายกับรูที่ปรากฏบนตัวน้อง เป็นเวลานาน จนเป็นรอยบุ๋ม หรือรูแบบที่เห็น เนื่องจากเนื้อของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว เวลากดลงไปจะไม่เด้งขึ้นเหมือนตอนยังมีชีวิต

ทั้งนี้ตนยืนยัน แผลลักษณะนี้ ตัดเรื่องรอยกระสุน รอยแทงจากมีดหรือของมีคมอื่น ๆ ไปได้เลย เพราะรอบแผลไม่มีร่องรอยฉีกขาดให้เห็นแต่อย่างใด ตนมองว่าเป็นการกดทับหลังเสียชีวิตมากกว่า และต้องใช้วิธีผ่าพิสูจน์ ตัดเนื้อเยื่อบริเวณนี้ไปส่องกล้องจุลทัศน์ดู ถึงจะระบุที่มาได้ชัดเจน แต่ตนมั่นใจว่ารอยแผลนี้ แพทย์ที่ชันสูตร เห็นและบันทึกไปแล้ว เพราะการชันสูตร แพทย์จะดูร่องรอยตามตัวศพทุกจุดอย่างละเอียด ปล่อยผ่านไม่ได้ซึ่งแพทย์อยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี ตนมองว่าแผลที่เป็นรูนี้ ไม่มีผลต่อการเสียชีวิต หรือทำร้ายร่างกายเพราะบริเวณนี้ไม่มีเส้นเลือดใหญ่ จึงไม่เป็นนัยสำคัญที่นำมาถูกกล่าวถึง ทำให้ไม่มีการนำมาเสนอข่าว ประเด็นหนึ่งที่ให้คนตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมแพทย์ปล่อยผ่านบาดแผลจุดนี้ไป แต่จริง ๆ ไม่ได้ปล่อยผ่าน แค่ไม่มีนัยสำคัญต่อการเสียชีวิตหรือ การทำร้ายร่างกาย ส่วนทางคดีขณะนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจ เพราะทางแพทย์ได้ชันสูตรไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 52
  • สงสัยตั้งแต่แรก จะรีบเผากันทำไมนักหนา
    11 ก.ค. 2563 เวลา 05.27 น.
  • P
    จบละครับ ลูกตายก่อนหน้านั้น พ่อแม่และน้องสะดิ้งพูดความจริงเถอะครับ
    11 ก.ค. 2563 เวลา 05.05 น.
  • Pim56
    สรุปว่ายังไม่ได้เรื่องจะมาออกข่าวทำไม ตอนนี้รอข่าวจับคนร้ายได้ ค่อยมาลงน่ะ เดากันมั้วไปหมด
    11 ก.ค. 2563 เวลา 05.22 น.
  • เอ็กซ์
    เยอะ ไปกันใหญ่ สรุปไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ความ ค่อยๆโผล่ มาที่ละอย่างๆ เมื่อไหร่ จะจบ สะที
    11 ก.ค. 2563 เวลา 04.51 น.
  • Anonymous
    ผมว่าสมเหตุ สมผลนะ คราบเลือดไม่มีที่ปากแผลเลย น่าจะใช่กดทับอย่างที่ว่า
    11 ก.ค. 2563 เวลา 05.08 น.
ดูทั้งหมด