แม่ผัวไม่ปลื้ม ทำยังไงให้รักไปรอด - ฟาร์มรัก

ถ้าเคยเข้าใจว่าความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ขอให้เข้าใจเสียใหม่ตั้งแต่ตอนนี้เลย…

ความรักไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน แต่มันมีรายละเอียดปลีกย่อยมีมากกว่านั้น ยิ่งถ้าคิดจะแต่งงาน เป็นสามี-ภรรยา มีลูก ใช้ชีวิตร่วมกัน ความรักยิ่งไม่ใช่เรื่องของคุณและเขาเท่านั้น แต่จะกลายเป็นความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวขึ้นมาทันที

“เรารักกันมากว่า 9 ปีและแต่งงานกันในปีที่ 10 เราผ่านอุปสรรค ฝ่าฟันกันมามากมาย แต่อุปสรรคที่ใหญ่กว่านั้นคือความรักของผู้มีพระคุณ เราทำอะไรมักจะดูขวางหูขวางตาไปหมด ไม่สามารถทำอะไรที่เป็นส่วนตัวของคู่เราได้เลย เราควรเริ่มจากตรงไหนให้ท่านเข้าใจเรา และเราเข้าใจท่าน ทำยังไงให้อยู่กันอย่างมีความสุขได้บ้าง ?”

ปัญหาแม่ผัว ลูกสะใภ้ หรือสองครอบครัวไม่ค่อยลงรอยกัน กลายเป็นปัญหาระดับชาติที่พาลให้ความสัมพันธ์สั่นคลอน จะแก้ก็ลำบาก ปล่อยไว้ก็มีแต่เสียสุขภาพจิตด้วยกันทุกคน ที่สำคัญปัญหาแบบนี้อยู่คู่กับครอบครัวมาเนิ่นนาน ไม่ว่าสมัยไหนก็หนีกันพ้น เพราะอะไรถึงกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง เพราะอะไรถึงไม่มีทางออก เราจะมาหาคำตอบกัน !

บางทีการหนีปัญหาไปเลยก็เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ถ้าทำได้แต่งงานแล้วก็แยกบ้าน แยกครอบครัว ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดก็ไม่มีปัญหา แต่เชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนจะใช้วิธีนี้ได้ ด้วยความจำเป็นบางอย่างทำให้แม่ผัว-ลูกสะใภ้ต้องอาศัยอยู่ด้วยกัน พร้อมด้วยปัญหาที่ตามมาอีกเป็นกระบุง

แม่ผัวขี้บ่น จ้องจับผิด เอาแต่ด่า ชอบเข้ามายุ่ง เราทำอะไรก็ขัดหูขัดตาไปหมด และอีกสารพัดปัญหาที่คนเป็นลูกสะใภ้ต้องเผชิญ เรียกว่าอยู่บ้านเดียวกันไป ก็พ่นไฟใส่กันไป แม่ผัวก็ไม่ยอม ลูกสะใภ้ก็ไม่ทน ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันจนกลายเป็นปัญหาโลกแตกของทุกครอบครัว

ทำไมแม่ผัวถึงไม่ชอบลูกสะใภ้ ?

ข้อนี้สำคัญมาก แต่ลูกสะใภ้แทบทุกคนไม่เคยลองหาคำตอบจริง ๆ จัง ๆ สักที ในเมื่อไม่รู้ว่าเค้าไม่ชอบเราเพราะอะไร การจะไปนั่งหาวิธีแก้ไขปัญหาให้มันตรงจุดคงไม่ใช่เรื่องง่าย

แม่ผัวร้อยละ 90 ไม่ชอบลูกสะใภ้ด้วยเหตุผล 3 อย่าง 1. เราไม่ดีพอ ลูกเค้าหาผู้หญิงที่จะมาดูแลได้ดีกว่านี้ 2. กลัวว่าเราจะไปหลอกลูกชายเค้า และ 3. คิดไปเองว่าลูกชายเค้ายังไม่ควรจะมีคนรักหรือยังไม่พร้อมจะมีครอบครัว ทำให้ไม่ว่าใครเข้ามาก็ตั้งหลักไม่ชอบหน้าไปซะหมด ส่วนแม่ผัวที่เหลืออีกร้อยละ 10 คือไม่ถูกชะตา บอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมไม่ชอบ ใครเจอแม่ผัวแบบนี้ วิธีเดียวที่ทำได้คือการทำใจ ต่างคนต่างอยู่ดีที่สุด

ทีนี้ลองพิจารณาดูว่าแม่ผัวไม่ชอบเราด้วยเหตุผลอะไร ในกรณีที่แม่ผัวคิดว่าเราไม่ดีพอ เรื่องนี้แก้ไม่ยาก ก็ทำให้เค้าเห็นไปเลยว่านอกจากเราจะดูแลลูกชายเค้าได้แล้ว เรายังสามารถดูแลแม่ผัวได้ดีด้วย ข้อสำคัญคือต้องจริงใจ แสดงให้เห็นอย่างจริงจัง

ส่วนถ้าเป็นเหตุผลที่ว่าแม่ผัวกลัวว่าเราจะไปหลอกหรือคิดว่าลูกเค้ายังไม่ควรมีครอบครัว คนที่จะต้องเข้ามามีบทบาทที่สุดก็คือสามี ไม่ใช่ให้สะใภ้อย่างเราแก้ปัญหามือระวิงอยู่คนเดียว เพราะปัญหาแม่ผัว-ลูกสะใภ้ก็จริง แต่มันคือปัญหาครอบครัว สามีมีหน้าที่ทำให้แม่ตัวเองมั่นใจในตัวลูกสะใภ้ ซึ่งจริง ๆ ควรจะทำตั้งแต่ก่อนแต่งงาน ก่อนย้ายเข้าอยู่ด้วยกัน ก่อนที่จะมีปัญหาเสียด้วยซ้ำ

ข้อสำคัญก็คือลูกสะใภ้เองก็ต้องทำความเข้าใจแม่สามีด้วย อย่าลืมว่าแม่ผัวก็คือผู้ให้กำเนิดคนที่เรารัก การจะไปปะทะ ยอมหักไม่ยอมงอ หรือหักหาญน้ำใจกันคงไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง มีแต่จะทำให้เกิดปัญหาตามมาไม่รู้จักจบสิ้น คิดซะว่าแม่ผัวก็เหมือนแม่ตัวเอง ถ้ารักลูกชายเค้าก็ต้องรักพ่อแม่ ผู้ให้กำเนิดเค้าด้วย การที่เราก้าวเข้ามาในครอบครัวนี้ก็ต้องถือว่าแม่ผัวคือคนในครอบครัวคนหนึ่งด้วย คำว่า “ครอบครัว” ไม่จำเป็นต้องมีแค่พ่อ แม่ ลูกนี่นา

ความจริงแม่ผัวก็ไม่ได้ตั้งแง่กับลูกสะใภ้ไปซะหมด อาจเป็นแค่ความเข้าใจผิดกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าเราใช้ความรัก ความจริงใจก็ไม่ยากที่จะเปลี่ยนใจแม่สามี โดยปกติผู้ใหญ่ทุกคนมักจะเอ็นดูคนที่เข้าหา อ่อนน้อม พูดจาดี น่าฟังอยู่แล้ว การทำให้ผู้ใหญ่รักและเอ็นดูไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย แค่ต้องเข้าใจและแสดงให้เห็นอย่างจริงใจ ซึ่งถ้าทำได้ ผ่านปัญหามาได้ก็ถือเป็นเรื่องดีที่ครอบครัวจะมีความสุขมากขึ้น

ทางออกอาจไม่ใช่การแก้ปัญหาแต่เป็นการลดความขัดแย้ง

จริง ๆ แล้วไม่ใช่ทุกคนที่จะแก้ไขปัญหาแม่ผัว-ลูกสะใภ้ได้ แม้แต่นักวิจัยด้านครอบครัวยังออกมาบอกเลยว่า ลูกสะใภ้ที่สามารถลดความขัดแย้งกับแม่ผัวได้มีจำนวนไม่มากนัก และส่วนใหญ่มีตัวกลางอย่างสามีเป็นตัวช่วยสมานให้รอยร้าวระหว่างแม่ผัว-ลูกสะใภ้เล็กลง

ข้อแนะนำของนักวิจัยด้านครอบครัวบอกว่าเมื่อเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นแล้ว ทางออกที่ดีที่สุดไม่ใช่การแก้ปัญหาแต่เป็นการลดความขัดแย้งให้น้อยลงไปเรื่อย ๆ จนถึงขั้นไม่มีเลย

วิธีก็คือการค่อย ๆ โน้มน้าวใจแม่สามีด้วยการแสดงให้เห็นว่าเราเป็นคู่ครองที่ดีของสามี เป็นลูกสะใภ้ที่ดีของครอบครัวนี้ เปิดใจให้แม่สามีมากขึ้นอีกหน่อย ถ้ามีปัญหา มีการฮึ่ม ๆ กันเกิดขึ้น ก็ยกให้แม่ผัวชนะซะ บางครั้งคนที่เงียบก่อนก็ไม่ใช่คนแพ้เสมอไป หรือแม่ผัวอยากทำอะไร อยากได้อะไร ถ้าไม่ลำบากก็ช่วยจัดแจงให้เรียบร้อย

การทำแบบนี้ช่วยลดการกระทบกระทั่ง ทำให้ความขัดแย้งลดลง ยิ่งถ้าสามีเข้ามามีส่วนช่วยทำให้แม่ผัวและลูกสะใภ้ใกล้ชิดกันมากขึ้นก็จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์เป็นไปในทิศทางดีขึ้น

สุดท้ายแล้วความสัมพันธ์ของแม่ผัว-ลูกสะใภ้จะให้ราบรื่น แฮปปี้เอนดิงคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ หลายบ้านก็ประสบความสำเร็จกันมาแล้ว ลองเปิดใจและอดทนดูอีกนิด..มันอาจจะดีขึ้นก็ได้