ด่านสะเดาเปิดรับคนไทยจากมาเลย์ หลังด่านปาดังฯปิด ยังเข้มคัดกรองโควิด – 19

สงขลา – สะเดา เปิดด่านพรมแดนสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา รับคนไทยกลับบ้านอีกครั้ง หลังจากที่ด่านปาดังเบซาร์ปิดตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมียอดคนไทยที่ลงทะเบียนเพื่อเดินทางกลับรวม 486 คน ในขณะที่นายอำเภอสะเดาย้ำชัด การตรวจคัดกรองโรคผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย ผ่านทางด่านในอำเภอสะเดา ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด – 19 ยกเว้นนักศึกษาชาวไทยที่เดินทางกลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย

31 พ.ค. 63 ด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา เปิดให้คนไทยที่อาศัยหรือไปทำงานอยู่ในประเทศมาเลเซีย เดินทางกลับภูมิลำเนาอีกครั้ง  หลังจากที่ก่อนหน้านี้อนุญาตให้เดินทางกลับทางด่านปาดังเบซาร์ จนกระทั่งถูกสั่งปิด เนื่องจากมีการตรวจคัดกรอง และพบนักศึกษาชาวไทยที่เดินทางกลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ผ่านด่านปาดังเบซาร์ เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมาติดเชื้อโควิด – 19 รวมทั้งสิ้นในขณะนี้ 7 ราย

สำหรับบรรยากาศที่ด่านพรมแดนสะเดา เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา ทหาร ตำรวจ แพทย์ พยาบาล ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ได้เตรียมพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวก และตรวจคัดกรองโรคโควิด -19 อย่างเข้มงวดตามขั้นตอน โดยคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย เริ่มทยอยเดินทางออกมาตั้งแต่เวลาประมาณ 0900 น. ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ผู้ชาย พระภิกษุ และเด็ก ตามลำดับ

นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา บอกว่าได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศ คนไทยที่ลงทะเบียนเดินทางกลับมาในวันนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 486 คน ซึ่งเป็นยอดที่สะสมจากการที่ปิดด่านปาดังเบซาร์ไป 3 วัน และรวมยอดในวันนี้ด้วยเป็น 4 วัน ซึ่งปกติกระทรวงการต่างประเทศจะอนุญาตให้เข้ามาเฉลี่ยวันละ 100 กว่าคนเท่านั้นซึ่งในวันนี้เป็นกรณีพิเศษ และพบมีผู้ที่เดินทางจริงจำนวน 344 คน

ทั้งนี้คงไม่มีปัญหาอะไรตั้งแต่ 31 มี.ค. 1 เม.ย. 2 เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่เราเปิดรับคนไทยเข้ามาผ่านทางด่านพรมแดนสะเดา ช่วงนั้นวันละหลายร้อยคน  สำหรับคนไทยที่เดินทางเข้ามาตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.ถึงวันที่ 27 พ.ค. มีจำนวน สามพันสี่ร้อยกว่าคน ขอนำเรียนว่าในจำนวนนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ ยกเว้นนักศึกษาชาวไทยจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งมาขอใช้ช่องทางนี้ผ่านเท่านั้น