จีนชี้ตลาดสดเมืองอู่ฮั่น ไม่ใช่ต้นตอ "โควิด-19" แต่เป็นแหล่ง "ซุปเปอร์สเปรดเดอร์"

เดอะ เดลีเมล์ รายงานเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา อ้างการเปิดเผยของนายกั๋ว ฟู่ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของจีน กล่าวว่า ตลาดสดหัวหนานในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ของจีน ไม่ได้เป็นต้นตอเริ่มแรกของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างที่เข้าใจ แต่อาจจะเป็นแหล่งที่เกิด “ซูเปอร์สเปรดเดอร์” ผู้แพร่กระจายเชื้อไปสู่คนจำนวนมาก

ทั้งนี้หลักฐานทางพันธุกรรมยืนยันว่าต้นตอของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มาจากค้างคาวในจีน ก่อนจะแพร่มาสู่คนผ่านสัตว์ที่เป็นพาหะ แต่ยังไม่รู้แน่ชัดถึงแหล่งต้นตอของการแพร่เชื้อ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางการจีนระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรก มาจากตลาดสดขายอาหารทะเลในเมืองอู่ฮั่นแห่งนี้ ทว่าผู้อำนวยการซีดีซีของจีนอ้างผลการศึกษาจากสัตว์ที่ถูกขายในตลาดแห่งนี้ พบว่าต้องตัดทฤษฎีข้างต้นออกไป หลังจากตัวอย่างจากสัตว์ที่ขายในตลาดสดแห่งนี้มีผลตรวจไวรัสโควิด-19 ออกมาเป็นลบ นั่นหมายความว่าสัตว์อาจไม่ได้แพร่เชื้อไปยังผู้ที่เข้ามาจับจ่ายในตลาดแห่งนี้

“ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าตลาดสดแห่งนี้ เป็นหนึ่งในเหยื่อ” นายกั๋วกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อทางการจีนในวันก่อนหน้า

ด้านโคลิน คาร์ลสัน นักสัตววิทยาแห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ กล่าวว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เชื่อมโยงกับตลาดสด อาจมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นสถานที่เกิดซูเปอร์สเปรดเดอร์ ที่คนหนึ่งได้แพร่เชื้อไวรัสให้กับอีกหลายคน

ก่อนหน้านี้ ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 41 รายแรกที่มีการรายงานต่อองค์การอนามัยโลกในเดือนธันวาคม ส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงกับตลาดสดในเมืองอู่ฮั่น เป็นผลให้ตลาดสดแห่งนี้ถูกทางการจีนสั่งปิดไปในวันที่ 1 มกราคม

อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เอ็มไอที และ มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย ในสหรัฐอเมริกา ตรวจสอบกลุ่มตัวอย่าง 4 กลุ่มที่มาจากตลาดสดแห่งนี้ และพบร่องรอยของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ถึง 99.99 เปอร์เซ็นต์ ที่ตรงกับตัวอย่างนำมาจากผู้ป่วยในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเชื้อไวรัสที่พบในกลุ่มตัวอย่างมาจากคนขายหรือผู้ที่เข้าไปในตลาดสดแห่งนี้ ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้ถูกคนนำเชื้อไวรัสเข้าไปแพร่ในตลาด