เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนี 2563 สำนักข่าว BBC Thai (บีบีซีไทย) เผยแพร่ข่าวเรื่อง "วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ : พี่สาวเล่านาทีน้องชายหายตัวไปในกัมพูชา เผย ตร.ไทยไปเยี่ยมแม่ที่อุบลฯ เมื่อเดือน พ.ค." โดยเนื้อหาระบุว่า
พี่สาวของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยที่อาศัยอยู่ในกัมพูชา เผยนาทีที่น้องชายหายตัวไปจากหน้าคอนโดฯ ที่พักอาศัยในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ขณะกำลังคุยโทรศัพท์ผ่านแอปพลิเคชัน Line ด้วยกัน
น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ให้สัมภาษณ์บีบีซีไทย ว่าเธอคือผู้ที่พูดคุยกับนายวันเฉลิมในนาทีที่เชื่อว่าเขา "ถูกอุ้ม" เมื่อวานนี้ (4 มิ.ย.) ในเวลาประมาณ 16.35 น. ตามเวลาไทย และได้ยินเสียงน้องชายร้องตะโกนว่า "หายใจไม่ออก ๆ " อยู่ร่วม 30 นาที
พี่สาวคนโตวัย 47 ปี เล่าว่าขณะเกิดเหตุกำลังพูดคุยกับนายวันเฉลิมเรื่องการหาลู่ทางพัฒนาและลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับการปลูกกล้วยและอ้อยในกัมพูชาเพื่อส่งขายไปยังประเทศจีน โดยเธอและน้องชายจะพูดคุยเรื่องธุรกิจกันเป็นประจำผ่านแอปพลิชัน Line
"ในโทรศัพท์น้องบอกว่าเขามาซื้อของที่มินิมาร์ทใกล้คอนโดฯ นะ ตอนนี้ออกจากมินิมาร์ทแล้ว ขอแวะซื้อลูกชิ้นก่อน สั่งลูกชิ้นแล้ว เรายังถือหูอยู่ คุยกันอยู่ เล่าเรื่องที่เขาไปประชุมมา และรายงานผลว่าจะทำไงต่อ แล้วสักพักได้ยินเสียงเหมือนปัง เราคิดว่าน้องเหมือนโดนรถชน เขาบอกว่าหายใจไม่ออก ๆ แล้วก็มีเสียงคนเขมร 3-4 คน เราคิดว่าน้องเกิดอุบัติเหตุ เราบอกเขาว่าให้ทุบหน้าอกจะได้ดีขึ้น แต่เขาตะโกนบอกว่าหายใจไม่ออก ๆ อยู่ประมาณ 30 นาที แล้วสายก็ตัดไป เราโทรกลับไปที่ไลน์ทั้งสองเบอร์ ขอให้เขาแจ้งกลับมาด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะพี่เป็นห่วง"
ทันทีหลังจากนั้นพี่สาวของนายวันเฉลิมได้ติดต่อกับคนไทยที่รู้จักในกัมพูชาให้ติดตามหาน้องชายที่เชื่อว่าได้รับอุบัติเหตุ แต่เพียง 20 นาที หลังจากนั้นก็ได้รับแจ้งว่าน้องชายถูกอุ้มหายตัวไป
"เขาบอกว่าพี่เจนทำใจดี ๆ นะ ต้าร์โดนอุ้มไป"
น.ส.สิตานัน กล่าวว่าเมื่อไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ทำให้เข้าใจได้ว่าเสียงดัง "ปัง" ที่เธอได้ยินนั้นไม่ใช่เสียงรถชน แต่น้องชายน่าจะถูก "ชาร์จ" ตัว และมีการวิ่งหนี เสียงที่ได้ยินน่าจะเป็นเสียงดังตึงตังขณะนายวันเฉลิมขัดขืนและวิ่งหนี ซึ่งในเวลาต่อมาเธอก็ได้รับข่าวเดียวกันนี้จากอีกหลายคน
ขณะนี้ น.ส.สิตานัน มีความเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ว่าน้องชายจะมีชีวิตรอด
"คือว่าถ้าถามส่วนตัวว่าถ้าคนคิดต่างออกไปจากเรา จะต้องมีโทษขนาดนี้เลยเหรอ เราไม่ได้ฉกชิงวิ่งราว ฆ่าข่มขืนใคร แค่ติดต่าง ต้องฆ่ากันเลยเหรอ"
น.ส.สิตานัน กล่าวอีกว่าเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.30 น. มีตำรวจ 6 นายเดินทางไปที่บ้านพักของมารดาวัย 63 ปี โดยตำรวจ 5 นาย ได้ลงจากรถไปสอบถามว่านายวันเฉลิมอยู่ที่บ้านที่จังหวัดอุบลราชธานีหรือไม่ ซึ่งแม่ของนายวันเฉลิมแจ้งว่าไม่ทราบ
"เขาไปถามแม่ว่าอยู่ไหม มาไหม เขาถามปกติ เขาคงได้รับคำสั่งให้มาดูว่ามาหรือไม่ แม่บอกว่าไม่ทราบ เมื่อก่อนตอนที่เกิดเรื่องใหม่ ๆ ตำรวจไปทุกอาทิตย์ ไปทุกเดือน แล้วก็เว้นระยะไป เราก็คิดว่ามันซาไปแล้วไม่น่าจะมีอะไร"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุ้ม “วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์” องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ ออกแถลงการณ์ประณาม
โยง"วันเฉลิม" เทียบ "จอร์จ ฟลอยด์" ผิดเพี้ยน
น.ส.สิตานัน กล่าวอีกว่าในช่วงที่นายวันเฉลิมอยู่ในกัมพูชา เธอและครอบครัวไม่เคยเดินทางไปเยี่ยม เพราะได้รับคำเตือนว่าไม่ปลอดภัย แต่เธอได้นัดพบน้องชายในต่างประเทศแทน ส่วนแม่ของนายวันเฉลิมไม่ได้พบหน้าลูกชายนับตั้งแต่เดินทางออกจากไทยเมื่อแปดปีที่แล้ว
"แม่เข้มแข็งมาก เราตัดสินใจบอกแม่ แม่บอกว่าทำใจตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว แต่แม่บอกว่าเขาเลือกทางเดินเอง แม่บอกว่าเกิดแก่เจ็บตายป็นเรื่องปกติ แม่เข้มแข็งกว่าเราอีก" พี่สาวของนายวันเฉลิม กล่าว
"จริง ๆ เรายังบอกเลยว่าไม่รู้จริง ๆ เขาไปอินกับการเมืองขนาดไหน เราไม่รู้ เพราะตั้งแต่เรียนจบ เขาก็ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย เขาเป็นนักสังคม ทำงานสมาคม เป็นนักกิจกรรม"
พี่สาวของนายวันเฉลิมบอกอีกว่าน้องชายเข้าไปลี้ภัยในกัมพูชาตั้งแต่เกิดรัฐประหารในปี 2554 แต่ก่อนหน้านั้นได้อาศัยอยู่ในประเทศอื่นสองปี ในช่วงที่ผ่านมามีผู้ให้คำแนะนำว่าควรย้ายไปปักหลักในยุโรป ซึ่งนายวันเฉลิมได้มาขอคำปรึกษา แต่ทั้งสองเห็นตรงกันว่ามีลู่ทางทำธุรกิจในกัมพูชา มีเพื่อนและคนรู้จัก และตนเองก็สนใจแต่เรื่องการทำธุรกิจเท่านั้นจึงคิดว่าควรอยู่ในกัมพูชาต่อไป
"เราทางนี้จะบอกเลยว่าไม่ยุ่งการเมืองนะ เราคิดจะทำธุรกิจกันเท่านั้น เขาก็เลยไม่ไปยุโรป"
ก่อนหน้านี้มีผู้ลี้ภัยหลายคนที่อาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านหลายคนหายตัวไปและเสียชีวิต อาทิ นายภูชนะ (ชัชชาญ บุปผาวัลย์) และนักกิจกรรมที่ใช้ชื่อว่ากาสะลอง กับการหายตัวไปของนายสุรชัย แซ่ด่าน หรือสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ผู้ลี้ภัยคนสำคัญในลาว
ขณะที่ผู้ลี้ภัยที่ยังมีชีวิตอยู่คนอื่น ๆ เช่น นายวัฒน์ วรรลยางกูร นักเขียน กับนักดนตรีกลุ่มไฟเย็น ได้เดินทางจากประเทศเพื่อนบ้านไปลี้ภัยในฝรั่งเศส เช่นเดียวกับนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ผู้ถูกออกหมายจับตามความผิดมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา และนายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ที่มา : บีบีซีไทย
ฉัตรชัย ครับ ไม่ใช่เรืีองคิดต่างมั๊ง ไม่บอกตรงๆเลยล่ะว่าเคยขึ้นเวที พูดกล่าวร้ายโจมตีสถาบัน
07 มิ.ย. 2563 เวลา 12.04 น.
theep ไม่ต้องไปตามหาหรอกคนแบบนี้ เรียกเงินเขาตั้ง100 ล้าน โทรหาหลานเขยทีเดียวจัดให้
07 มิ.ย. 2563 เวลา 11.42 น.
ChaiNoi หนีไปเขมร ก็สมควรใช้กฎหมายเขมรนะ จัดหนัก
07 มิ.ย. 2563 เวลา 09.39 น.
รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับผู้ต้องหาแบบนี้เข้าข่ายช่วยหลบหนีปิดบังแก่ทางการมั้ย
07 มิ.ย. 2563 เวลา 08.24 น.
ฉลวยลักษณ์ ประไพวงษ์ ก็ดูอยู่สบายนะที่เขมร ไปทำธุระกิจขัดขาเจ้าถิ่นเลยโดนอุ้ม ไปอยู่ตั้งนาน น่าจะโดนอุ้มนานแล้ว อย่าสร้างเรื่องกล่าวหาทางการไทย ไม่เสียเวลากับจิ้งจกตุ๊กแก มีเรื่องอื่นสำคัญมากกว่า
07 มิ.ย. 2563 เวลา 07.50 น.
ดูทั้งหมด