ทั่วไป

 จับตาป่วยโควิดไร้อาการ เตือนใส่แมสก์สกัดรับ-แพร่เชื้อไม่รู้ตัว

เดลินิวส์
อัพเดต 06 มิ.ย. 2563 เวลา 06.35 น. • เผยแพร่ 06 มิ.ย. 2563 เวลา 06.17 น. • Dailynews
“ศบค.“เผยไทยป่วยโควิดเพิ่ม 2 ราย กลับจากต่างประเทศ เปิดข้อมูลประเทศต้นทางป่วยโควิดมากสุด"คูเวต-ซาอุฯ-อินโดฯ"จับตา"เกาหลี“ป่วยกลุ่มก้อน ไร้อาการ สอดคล้องข้อมูลป่วยระยะหลังของไทยไม่แสดงอาการเช่นกัน ลั่นต้องสวมหน้ากากเข้มข้น ป้องกันติด-แพร่เชื้อไม่รู้ตัว

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่กระทรวงสาธารณสุข  พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า วันนี้ (6 มิ.ย.) ประเทศไทยมีผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย รายแรกเป็นนักศึกษาชายไทยอายุ 22 ปีเดินทางกลับจากประเทศรัสเซียมาถึงประเทศไทยวันที่ 1 มิ.ย.  เข้าพักที่สถานที่แยกกักของรัฐ (state quarantine) และตรวจพบเชื้อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างรักษาในรพ.แห่งหนึ่ง ใน จ.ชลบุรี ส่วนรายที่ 2 เป็นชายอายุ 39 ปีเป็นพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศคูเวต เดินทางมาถึงไทยวันที่ 24 พ.ค.เข้าพักที่สถานที่แยกกักของรัฐในกรุงเทพฯ ตรวจเชื้อครั้งแรกไม่พบเชื้อ แต่เมื่อตรวจครั้งที่ 2 ก็พบเชื้อในวันที่ 4 มิ.ย.จึงส่งตัวรักษาที่รพ. สำหรับทั้ง 2 รายใหม่นี้ เป็นผู้ไม่มีอาการแต่อย่างใด สอดคล้องกับกรณีผู้ป่วยรายใหม่ในระยะหลังของประเทศไทยซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีอาการเยอะมากขึ้น

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

พญ.พรรณประภา กล่าวว่า โดยสรุป ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยโควิดสะสม 3,104 ราย ติในจำนวนนี้เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ และอยู่สถานที่แยกกักของรัฐ 167 ราย สำหรับผู้ป่วยรักษาหายสะสมอยู่ที่ 2,971 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในรพ. 75 ราย เสียชีวิตคงที่อยู่ที่ 58 ราย ทั้งนี้เมื่อดูในรายละเอียดผู้ป่วยในประเทศไทย พบว่าเป็นเพศชาย1,708 ราย หญิง1,396 ราย อายุเฉลี่ย 20-29 ปี ส่วนใหญ่อาชีพรับจ้างทั่วไป ค้าขาย พนักงานบริษัท โรงงาน นักเรียน นักศึกษา เป็นต้น ส่วนพื้นที่พบผู้ป่วยมากสุดคือ กทม. นนทบุรี ภาคใต้  สำหรับในจำนวนผู้ป่วยที่อยู่ในสถานที่แยกกักของรัฐ ที่มีพบว่าป่วยโควิด-19 นั้น เมื่อวิเคราะห์ตามประเทศต้นทาง พบอัตราป่วยมากสุดคือคูเวต ซึ่งมีผู้เดินทางกลับมา 174 ราย ป่วยโควิดฯ 32 ราย ซาอุดิอาระเบีย เดินทางกลับมา 79 ราย ป่วย 12 ราย และอินโดนีเซีย เดินทางกลับมา 451 ราย ป่วย 65 ราย

พญ.พรรณประภา กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก สหรัฐอเมริกามีจำนวนผู้ป่วยสะสมสูงสุดเกือบ 2 ล้านรายโดยผู้ป่วยรายใหม่กว่า 4 หมื่นราย รองลงมาคือบราซิลพบผู้ป่วยสะสม 6.4 แสนราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 3 หมื่นราย ขณะที่อินเดียผู้ป่วยสะสมประมาณ 2.3 แสนราย ผู้ป่วยรายใหม่ 9.4 พันราย และยังถือเป็นประเทศที่พบผู้ป่วยมากที่สุดในเอเชีย มีประเด็นที่น่าสนใจโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ประกาศว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 39 ราย ซึ่งตรวจพบเป็นกลุ่มก้อนแต่ไม่แสดงอาการ และรายงานด้วยว่าประมาณ 25-35% ของผู้ป่วยโควิดในเกาหลีคือผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ สอดคล้องกับตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการในประเทศไทย ดังนั้นจึงต้องเน้นย้ำเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่และรับเชื้อโดยไม่รู้ตัวและขอให้เว้นระยะห่าง และขอย้ำเรื่องของการเช็ค์อิน เช็คเอาท์ เมื่อไปสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยประเทศบราซิลไฟเขียวทดสอบวัดซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ซึ่งวัคซีนตั้งกล่าวพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ผ่านการทดสอบในลิงทดลองในห้องปฏิบัติการและอาสาสมัคร 10,000 คน ในสหราชอาณาจักร แล้ว และบราซิลเป็นประเทศแรก ที่มีการทดสอบวัคซีนดังกล่าวในอาสาสมัครที่ไม่ได้ติดเชื้อนออกสหราชอาณาจักร.

 

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 3
  • เว้นระยะ​ห่าง​ แบบคุณ​หมอที่ไปนั่งกินกับ​ รมต.สธ.ใช่ป่าว?
    06 มิ.ย. 2563 เวลา 08.38 น.
  • 徐文輔
    ไม่ใช่ว่าการ์ดตก แต่เคสในประเทศเป็น0มากี่วันแล้ว ภาครัฐนับแต่จำนวนผู้ติด เล่นนำเข้ามาจากต่างประเทศแล้วนับรวม เมื่อไหร่มันจะหมด วัคซีนไม่มี ก็ต้องป้องกันกันไปแต่ทำไมยังต้องมี พรก ฉุกเฉิน ปิดกิจกรรม ทั้งๆที่ในประเทศไม่มีการติดเขื้อ แบ่งเค็กหารับประทานยังไม่พอ หรอกลัวโดนไล่
    06 มิ.ย. 2563 เวลา 09.15 น.
  • สุพัฒน์ ฤทธิสุนทร
    แล้วคนในประเทศไม่มีติดเพี่มดันคนทีเข้ามาจากต่างปนะเทศพาโรดมาเรวไม่นุ้สิ้นสุด
    06 มิ.ย. 2563 เวลา 08.09 น.
ดูทั้งหมด