เปิดใจเจ้าของคอนโด หาดกะตะยอมไม่สร้างต่อ รอศาลปกครองสูงสุดตัดสินก่อนดำเนินการ ย้ำผิดที่ตัวเองและไม่ขอโทษใคร ยันไม่มีผลประโยชน์กับหน่วยงานใด ขณะที่ลูกค้าที่ซื้อโครงการเข้าใจดี
จากกรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐได้มาตรวจสอบหลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านว่าได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการดังกล่าว เนื่องจากมีน้ำและดินแดงไหลลงมาช่วงที่มีฝนตกลงมา ตลอดจนการเข้าพบนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.ภูเก็ต เพื่อขอให้ตรวจสอบการออกใบอนุญาตก่อสร้างโครงการดังกล่าวว่าถูกต้องหรือไม่
เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2562 นายมนัสนันท์ นรารัตน์วันชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กะตะ บีช จำกัด ผู้บริหารโครงการเดอะพีค เรสซิเด้นท์ กล่าวว่า ทางบริษัทได้ซื้อที่ดินมาและพัฒนาโครงการ ทุกอย่างตามกฎหมาย ปลายทางทราบว่าที่ดินแปลงนี้ เป็น นส.3 ก เลขที่ 1863 ศาลปกครองชั้นต้นนครศรีธรรมราชได้มีคำพิจารณาเพิกถอน ส่วนที่มีการกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเอื้อนายทุน จึงไม่มีจริง เพราะเมื่อบริษัทไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ตามขั้นตอนของกฎหมาย เขาก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการ ไม่มีผู้ใดมีส่วนได้ส่วนเสียกับทางโครงการ โดยทุกฝ่ายปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
“ที่ดินแปลงนี้ บริษัท กะตะบีช จำกัด ได้ซื้อมาจากผู้ขาย ซึ่งเป็นนักธุรกิจและอดีตนายตำรวจระดับสูง โดยทั้ง 2 คนได้ถูกกล่าวถึงชื่อมาโดยตลอด ดังนั้นจึงอยากชี้แจงว่าทั้ง 2 ท่านดังกล่าว ไม่ใช่เจ้าของโครงการและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เป็นเพียงผู้ขายที่ดินให้กับบริษัทเท่านั้น แต่หากที่ดินที่มีการซื้อมาไม่สามารถทำประโยชน์ได้ตามสัญญา ทั้งหมดทั้งสิ้นก็จะเป็นกรอบของสัญญา ทั้งที่ผู้ซื้อผู้ขายตกลงกัน โดยผู้ขายไม่ได้มีเจตนาที่จะนำที่ดินที่มีปัญหามาขายให้กับเรา ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกระบวนการของศาลนั้น ผู้ซื้อและผู้ขายไม่ได้รับรู้ โดยโครงการนี้มีเจ้าของ คือ บริษัท กะตะบีช จำกัดและมีตนเป็นกรรมการผู้จัดการเพียงผู้เดียว” เจ้าของโครงการเดอะพีค เรสซิเด้นท์ กล่าว
นายมนัสนันท์ กล่าวต่อว่า จากกรณีในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีคลิปถูกนำเสนอผ่านทางโซเชียลและสื่อมวลชน อยากบอกว่าจริงๆ แล้ว เราเป็นคนไทยด้วยกัน และภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยว เรามีประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงาม ดังนั้นทางบริษัทจึงขอประกาศจะชะลอการก่อสร้าง เพื่อรอคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ทั้งนี้ในรายละเอียดของการชะลอการก่อสร้างนั้น เพื่อให้บุคคลที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่มีข้อห่วงใย หรือท้วงติงโครงการ หากทุกคนยึดหลักนิติศาสตร์ และบอกว่ายืนอยู่บนข้อกฎหมายของตนเอง หรือไม่มีใครยอมถอย แล้วสังคมจะอยู่อย่างไร คนที่ไม่รู้จักกันมาเจอกันและกางเอกสารเถียงกันคอเป็นเอ็น ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้น ส่วนกรณีที่มีผู้ออกมาแสดงความกังวลหรือห่วงใยนั้น เขาก็มีสิทธิ เพราะเราอยู่ในสังคมประชาธิปไตย ซึ่งตนไม่ได้โกรธและไม่ว่าใคร หากผู้ที่ออกมามีเจตนาห่วงใยสิ่งแวดล้อมและห่วงใยท้องถิ่นอย่างแท้จริง ถือเป็นเรื่องที่ดี
เจ้าของโครงการเดอะพีค เรสซิเด้นท์ กล่าวอีกว่า การจะไม่ได้ส่งมอบอาคารให้กับลูกค้าได้ตามที่ตกลงกันไว้นั้น ย่อมมีผลกระทบแน่ แต่เมื่อเทียบกับภาพลักษณ์หรือความเสียหายของจังหวัดหรือของประเทศ และความรู้สึกของคนไทยแล้ว คิดว่าน่าจะมีมากกว่าของโครงการที่จะได้รับ ดังนั้นจึงขอถอยออกมาก่อนและยอมรับความเสียหายที่เกิดขึ้นเพียงผู้เดียว และขอให้ทุกฝ่ายถอยกันไปคนละก้าว เพื่อทบทวนบทบาทของตัวเอง ดังนั้น ส่วนที่จะมีการชะลอการก่อสร้างออกไปก่อนนั้น ทั้งหมด 18 อาคาร โดยจะรอจนกว่าจะมีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดว่าเป็นอย่างไร จึงจะดำเนินการขั้นตอนต่อไป
นายมนัสนันท์ กล่าวถึงการดำเนินการในพื้นที่จากนี้ว่า ส่วนที่จะยังมีการดำเนินการต่อ คือ ส่วนด้านล่างที่เป็นกำแพงกันดินและบ่อหน่วงน้ำ เพื่อให้ลดผลกระทบผู้ที่อยู่ด้านล่าง หากไม่เร่งทำเมื่อในตกลงมาจะเกิดปัญหาขึ้นอีก รวมถึงการทำถนนในโครงการ ซึ่งปัจจุบันมีการเปิดหน้าดินไปแล้วต้องทำการปิดผิวดินที่เป็นสีแดง เพื่อไม่ให้คนที่อยู่ด้านล่างได้รับผลกระทบ และส่วนของอาคารที่มีการขึ้นโครงสร้างไว้เรียบร้อยแล้ว และมีการเตรียมวัสดุต่างๆ เพื่อติดตั้งภายในอาคารในส่วนนี้คงต้องทำต่อ เพราะไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายของวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ได้เช่น งานระบบ เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
เจ้าของโครงการเดอะพีค เรสซิเด้นท์ กล่าวว่า หลังจากเทศบาลตำบลกะรนมาปิดประกาศให้โครงการชะลอการก่อสร้างและให้ทำการปรับปรุงแก้ไขตามมาตรการสิ่งแวดล้อม หลังจากมีผู้ร้องเรียน โดยโครงการได้ชี้แจงแนวทางการแก้ไขให้กับทางเทศบาลทราบแล้วตามขั้นตอน ขณะนี้รอคำตอบจากทางเทศบาลว่าเห็นชอบตามที่บริษัทเสนอหรือไม่ และหากโครงการ มีเจตนามักง่าย ทำตามเพียงเทศบาลแล้วจบ ซึ่งในหน้างานหากพบว่าส่วนไหนที่จะทำให้เกิดผลกระทบขึ้นอีก เราก็พร้อมจะแก้ไข โดยไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งของเทศบาล
“การตัดสินใจชะลอโครงการนั้น ทางเอเย่นต์ทุกฝ่ายรับทราบเรื่องแล้ว จะมีการติดต่อให้กับลูกค้าทราบ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกค้านั้น ทางบริษัทพร้อมรับผิดชอบ ส่วนกรณีของทุนจดทะเบียนนั้น เป็นเรื่องที่พูดบ่อยมาก จึงขออธิบายว่า ในส่วนของการซื้อที่ดินนั้น เราได้มีการจ่ายเงินสดไปแล้ว 150 ล้านบาทแล้ว ส่วนงบประมาณการลงทุนนั้น ขณะนี้ยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน ซึ่งการดำเนินการของดีเวลล็อปเปอร์นั้น เมื่อซื้อที่ดินมาและทำการพัฒนาระหว่างนั้น จะมีการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน แต่ยังไม่ทราบว่าจะได้รับอนุมัติจำนวนเท่าใด จนกระทั่งรับทราบว่าได้เท่าไร จึงจะมีคำตอบว่าทุนจดทะเบียนที่แท้จริงเท่าใด เพื่อให้สอดคล้องกับสินเชื่อที่ได้รับ เหตุที่เงินจดทะเบียนเพียง 1 ล้านบาท เพราะยังไม่ทราบว่าจะได้รับสินเชื่อเท่าใด จนกว่าจะทราบจึงจะมีการเพิ่มเงินจดทะเบียนให้สอดคล้องกัน ดังนั้นจึงอยากให้ดูเจตนาว่า หากจะหลอกเอาเงินลูกค้า ซึ่งมีพบเห็นกันอยู่เขาก็จะสร้างเพียงบ้านตัวอย่าง มีการปิดป้ายประชาสัมพันธ์ เร่งขายและเก็บเงินลูกค้า แต่โครงการของเราไม่ใช่เช่นนั้น โดยเรามีความพยายามก่อสร้าง แต่มีคนบอกให้หยุด จึงยังไม่ไปถึงไหน และหากเราจะหนีแล้วจะลงทุนก่อสร้างเพื่ออะไร และการขออนุญาตนั้นเพื่อสร้างคอนโดมิเนียม ไม่ใช่โรงแรมและต้องส่งมอบให้กับลูกค้า”
นายมนัสนันท์ กล่าวว่า ยืนยันว่าในการขออนุญาตก่อสร้างเป็นอาคารที่พักอาศัยรวม หรือคอนโดมิเนียมบางส่วน เป็นอาคารพักอาศัยรวม เพื่อการพาณิชย์ประกอบธุรกิจโรงแรม บางส่วนเป็นคอนโดมิเนียม ซึ่งที่สงสัยการนำ นส.3 ก ไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคารนั้น เนื่องจากเราอยู่ระหว่างการยื่นขอออกโฉนด ซึ่งผู้ที่ถือ นส.3 ก ส่วนใหญ่มั่นใจอยู่แล้วว่า สามารถออกโฉนดได้ เมื่อถึงเวลานั้นในการขออนุญาตใช้อาคารจะต้องมีการนำโฉนดไปใช้ เพราะจะต้องนำไปแบ่งออกโฉนดให้กับลูกค้า
เจ้าของโครงการเดอะพีค เรสซิเด้นท์ กล่าวด้วยว่า กรณีหาก นส.3 ไม่สามารถออกเป็นโฉนดได้นั้น เรามีแผนรองรับอยู่แล้ว คือ จะเปลี่ยนจากการขายกรรมสิทธ์ขาดให้กับลูกค้าเป็นการให้เช่าระยะยาว ซึ่งในส่วนนี้ขอยืนยันว่าได้แจ้งให้กับลูกค้าที่จองห้องคอนโดทราบแล้วผ่านทางเอเจนซี่ โดยลูกค้าทั้งหมดที่ทราบข่าว ไม่มีรายใดที่ตัดสินใจยกเลิกการจองและไม่มีการขอเงินคืน แม้ว่าทางบริษัทจะเปิดโอกาสให้ทางลูกค้ายกเลิกการจองและซื้อก็ตาม ขณะนี้ มียอดจองไปเกือบหมดแล้ว เหลืออยู่ประมาณ 2-3 ห้อง โดยตามแผนจะต้องก่อสร้างเสร็จภายใน 1 ปี แต่พอมีปัญหาการก่อสร้างคงต้องยืดเวลาออกไป และเสียค่าปรับให้กับลูกค้า หากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเพิกถอนเอกสารสิทธิ ทางบริษัทและลูกค้าที่ทำการจองคอนโดไว้ถือว่า เป็นผู้เสียหายร่วมกัน ก็มีแผนจะฟ้องร้องเอาผิดเรียกค่าเสียหายต่อหน่วยงาน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่ดินผืนนี้ต่อไป.
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ผมไม่ได้ขู่ เปิดคลิป "สิระ" ปะทะเดือด ฉุนลงพื้นที่แล้วไม่มีตำรวจดูแล
- "วัน อยู่บำรุง" ฝากถึง ส.ส.ผู้ยิ่งใหญ่ มาตรวจงานบางบอน จะต้อนรับให้อบอุ่น
- “สิระ” ขอโทษพูดเสียงดัง น้อมรับคำติ ลั่น รู้ปัญหาแล้วนิ่งเฉยไม่ได้
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath
webpra88 ร้อยบาทเอาขี้หมากองเดียว_รอให้เรื่องเงียบก่อนเดี๋ยวสร้างต่อ_พ่อค้าก็คือพ่อค้า_ข้าราชการไม่หลิ่วตาทำได้ไง ... 555 ประเทศไทยจงเจริญ....
21 ส.ค. 2562 เวลา 16.54 น.
pap พรรคไหนแจกที่ดินคนจนออก นส.3ก เพื่อๆๆๆ ให้นายทุนในอนาคต สาดมาก
21 ส.ค. 2562 เวลา 15.19 น.
Phong 4659 ภูเขามีความลาดชัน ควรตรวจสอบทั้งประเทศ การได้มาของ นส3 หรือ ฉโนด เป็นการบุกรุกป่าโดย ใช้ประโยชน์จากกฎหมายที่อ่อนแอ. ใจจะไม่ให้เหลือภูเขากันเลยหรือไง นายทุน
21 ส.ค. 2562 เวลา 18.46 น.
อาหารเสริมแบ่งสันปันส่วนกัน..ไม่ลงตัว..เรื่องเลยแดงความเลยแตก
ห้องสูทริมทะเลแต่ละห้อง..ถูกซะเมื่อนไหร่..หลายสิบล้าน..เลยหละ..มหาศาลครับ..ไม่งั่นมันจะกล้าด่ากดขี่ตำรวจเรอะ..พวกใครพวกมัน
..
21 ส.ค. 2562 เวลา 22.44 น.
สิระต้องปรับปรุงผมรู้คุณเคยเป็นช่างไม้เรี่องตรวจ
21 ส.ค. 2562 เวลา 16.28 น.
ดูทั้งหมด