#สรุปเหตุการประท้วงใหญ่ในฮ่องกง เบื้องหลังกฎหมายการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
เมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาการประท้วงใหญ่ในฮ่องกงทวีความรุนแรงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มประท้วงมายาวนานตั้งแต่เดือนมิถุนายน หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าสาเหตุอะไรที่ปลุกให้คนฮ่องกงนับล้านออกมาต่อต้านรัฐบาลของพวกเขาเอง
อย่างแรกต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สมัยก่อนฮ่องกงถูกปกครองอยู่ภายใต้อานิคมของอังกฤษ อยู่ 99 ปี หลังจากที่อังกฤษส่งคืนเกาะฮ่องกงกลับสู้อ้อมอกจีน ทางจีนก็ให้คำมั่นสัญญาไว้ว่าจะใช้ระบบการปกครองแบบ 1 ประเทศ 2 ระบบ พูดง่ายๆก็คือ จีน จะยังคงระบบคอมมิวนิสต์ แต่ฮ่องกงจะปกครองแบบระบบทุนนิยม
จนเมื่อไม่นานนี้รัฐบาลฮ่องกง นำโดย นางแคร์รี แลม ผู้บริหารเกาะฮ่องกงได้ประกาศว่าจะอนุมัติกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีที่จีน มองเผินๆแล้วมันส่งผลกับคนฮ่องกงขนาดนั้นเลยเหรอ?
มากกว่าการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่จีน คนฮ่องกงมองว่า กฎหมายนี้จะทำให้จีนค่อยๆเข้ามาแทรกแทรงกระบวนการยุติธรรมของฮ่องกง และเริ่มกลืนกินฮ่องกงเข้าสู่ระบบคอมมิวนิสต์ ทำให้สูญเสียเสรีภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนฮ่องกงกลัวมาก
นอกจากนี้ยังมองว่าจีนอาจจะใช้อำนาจดังกล่าวดำเนินคดีกับชาวฮ่องกงที่เห็นต่าง เพราะในฮ่องกงก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่เป็นผู้ลี้ภัยอพยพเข้ามา อีกทั้งระบบการลงโทษของจีนก็ไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจนัก เพราะนักโทษไม่ค่อยได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานที่พึงได้
ซึ่งก่อนหน้านี้ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลได้ออกมาระงับกฎหมายและอ้างว่าได้ปรับแก้เพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องไปแล้ว แต่จะไม่ยอมถอนกฎหมายข้อนี้ออกเด็ดขาด โดยแครี แลม ได้ให้เหตุผล เป็นเครื่องมือในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ จึงทำให้ชาวฮ่องกงยังคงออกมาประท้วงอย่างต่อเนื่อง
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ คือ การประท้วงแบบปกปิดตัวตนด้วยเทคโนโลยีต่างๆที่น่าสนใจเซอร์
เนื่องจากเมื่อปี 2014 ที่เกิดการประท้วง กลุ่มที่เป็นแกนนำส่วนใหญ่ถูกตามจับกุมไปลงโทษ บทเรียนนี้ทำให้ผู้ประท้วงเกิดความหวาดระแวงและพยายามปกปิดตัวตนด้วยวิธีการต่างๆ
อย่าง แอปพลิเคชั่น Telegram ซึ่งเป็นพื้นที่สื่อสารของกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อใช้ในการนัดหมาย ติดต่อ สื่อสารระหว่างกัน
เครื่องยิงเลเซอร์ป้องกันการตรวจจับใบหน้า กลุ่มผู้ปะท้วงใช้วิธีการยิงเลเซอร์ตอบโต้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าของทางฝั่งตำรวจ
อีกทั้งผู้ประท้วงทุกคนจะสวมหน้ากากปกปิดใบหน้า เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ และไม่ใช่บัตรโดยสาธารณะ เพื่อป้องกันการนำข้อมูลส่วนตัวส่งไปให้กับทางการจีน
จะเห็นได้ว่าชาวฮ่องกงไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาลของตัวเองขนาดไหน และ ความก้าวล้ำของเทคโนโลยีสสมัยนี้ สามารถสร้างพลังการสื่อสารที่จะดึงให้คนจำนวนมากออกมาเรียกร้องเพื่อสิทธิของตัวเองได้มากกว่าสมัยก่อนมาก
#สรุปแล้วก็คือสิ่งที่ขับเคลื่อนให้คนฮ่องกงจำนวนมมากออกมาประท้วงในครั้งนี้เพราะ กลัวว่า สิทธิการปกครองตนเองตามกฎหมายฮ่องกงที่เป็นแบบระบบทุนนิยม จะถูกจีนดึงกลับเข้าไปสู่ระบบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์
แม้ว่าสถาณการณ์ในฮ่องกงล่าสุดจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการยิงแก๊สน้ำตา ปิดสนามบิน ขัดขวางการจราจร เพื่อเรียกร้องให้ ผู้บริหารยกเลิกกฎหมายนี้ และลากออกจากตำแหน่ง
จนตอนนี้ทางฝั่งจีนก็เริ่มออกอาการฮึ่มและประกาศกร้าวเพื่อเป็นสาสน์เตือนว่า อย่าเล่นกับไฟ!
ทั้งนี้ชะตากรรมของเกาะฮ่องกงจะเป็นอย่างไรคงต้องตามกันต่อไป…
Phanu แปลกที่คนฮ่องกงออกมาเรียกร้องเพราะกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งหลายประเทศเขาก็ทำกัน เหมือนกับว่าคนส่วนใหญ่กลัวโดนส่งตัวกลับจีน คนปั่นหัวมันเก่งนะ เหมือนกับการใช้ข้อมูลจากsocial มาใช้ในการสร้างกระแสแบบ the great hack
08 ส.ค. 2562 เวลา 08.30 น.
Kanitta (Tak) 🎆 แค่จีนยังไม่เอาจริง เพราะเงินของมหาเศรษฐีจีนยังค้างอยู่ที่ฮ่องกงเยอะ
08 ส.ค. 2562 เวลา 09.00 น.
coffeekrap ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนอิสรภาพก็ไม่มีอยู่จริง
เพราะการบังคับใช้กฎหมายมันเป็นมหภาคของประเทศเพื่อความมั่นคงความสงบเรียบร้อย แต่ใจเราต่างหากที่เรากำหนดเองได้ การฝึกจิตด้วยสมาธิภาวนาจะทำให้เราเป็นสุขแม้ถูกขังในคุกอันแน่นหนา...
08 ส.ค. 2562 เวลา 09.31 น.
วิชาญ บุญมีฤทธิ์ ขออนุญาตนะครับเป็นกำลังใจให้ประชาชนชาวฮ่องกงสู้ๆนะครับ
08 ส.ค. 2562 เวลา 12.46 น.
Wilas K. 🇹🇭 ถ้าเราเป็นรัฐบาลจ. ไหนๆ ก็ไหนๆ นาทีนี้จะถือโอกาส
เข้ายึดครองทั้งหมด แล้วเปลี่ยนนโยบายการปกครองเป็นแบบจ.เต็มรูปแบบซะเลย
08 ส.ค. 2562 เวลา 09.35 น.
ดูทั้งหมด