บันเทิง คมชัดลึก - หลังจากที่ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นแล้วโดนแมลงกัด จนทำให้เกิดเชื้อโรคแบคทีเรียกินเนื้อคน ลุกลามจนหวิดเกือบถูกตัดขา แต่โชคดีที่เจ้าตัวได้มาหาหมอทัน แม้จะต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานหลายสัปดาห์ แต่ตอนนี้ได้หายเป็นปกติแล้ว ได้พูดคุยอับเดทอาการป่วยกับดีเจแจ็ค ไรเดอร์ ในงานแถลงภาพยนตร์ "ฮาร์ทบีท เสี่ยงนัก รักมั้ยลุง" ที่สยามพารากอน ได้ความว่า
"ตอนนี้เรื่องโรคก็หาย 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ว่าลักษณะทางกายภาพเปลี่ยนแปลงเพราะตอนนี้เราไม่มีผิวหนังปกติละ เป็นผิวหนังปลูกถ่าย ซึ่งเอาเซลผิวหนังอีกฝั่งหนึ่งมาแปะและมันมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า มีความแข็งแรงของผิวน้อยกว่าปกติก็เลยเดินยากนิดหนึ่ง เดินมากก็จะปวด คุณหมอบอกว่าจะเป็นแบบนี้ครึ่งปีกว่าจะชินหรือรู้สึกปกติเหมือนเดิม (ตอนนี้ยังทำกายภาพอยู่ไหม) กายภาพไม่ได้ทำแล้ว คือผมทำกายภาพก่อนออกจากโรงพยาบาล 2 อาทิตย์ ตอนทำกายภาพต้องหัดเดินใหม่ เพราะกล้ามเนื้อไม่ได้ 2 เดือนมันลีบ ขาก็ลีบเล็กลง พอหลังจากทำกายภาพและฝึกเดินแล้วลักษณะทั่วไปเหมือนเดิม แต่ลักษณะการใช้ชีวิตไม่เหมือนเดิม เราจะรู้สึกเหมือนมีอะไรรัดที่ขาตลอดเวลา ตอนแรกที่ฝึกเดินยากมาก มันทำให้เรารู้ว่าขาคนที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเดือนมันจะผิดปกติทันที คือเดินยากและทุกครั้งที่เดินจะปวดขา
(โชว์แผลตัวเองที่ขา)
ตอนนี้หายแล้ว ก็ยกอะไรออกจากอกไปเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโรค ที่ตอนแรกรักษาดูวันต่อวัน ไม่รู้ว่าจะหยุดตรงไหน ตามความเสี่ยงของหมอที่เคยบอกเราว่าตัดขาไหม คือช่วงนั้นก็เครียดเยอะมาก แต่พอผ่านไปแล้วคุณหมอเอาอยู่ แล้วคุณหมอบอกว่าคุณแจ๊คไม่ต้องตัดขาแล้ว ตอนนี้ดูแค่ว่าเราจะตัดเนื้อออกไปเยอะแค่ไหน (ต้องไปหาคุณหมออีกไหม) ล่าสุดเพิ่งไปเจอมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณหมอบอกว่าแผลก็เรียบร้อยดี แต่สิ่งที่เราเป็นคือผังผืดคือการที่จะให้หนัง 2แผ่นเกาะกัน ร่างกายจะต้องสร้างผังผืดออกมา และผังผืดมันมีความแข็งมันก็เลยทำให้เราเจ็บบ้าง ตอนนี้ก็ต้องทาครีมที่คุณหมอให้มา และก็รอให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง เจอคุณหมอครั้งต่อไปน่าจะอีก 2 เดือนข้างหน้าก็จะยาวเลย"
(เมื่อครั้งนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล)
เมื่อถามต่อว่า ตอนนี้กังวลอะไรอีกไหม พิธีกรหนุ่มกล่าวว่า ไม่กังวลเลย
"คือพอหมอบอกว่าเรื่องโรคจบ เราก็ดูแลแผลของเราไปเรื่อยๆ ให้ความยืดหยุ่นกลับมาปกติ และในช่วงเวลาที่ผ่านมาก็เครียดน้อยหน่อย อย่างเรื่องค่ารักษาพยาบาลสุดท้ายมันเกือบ 1.4 ล้าน ถามว่าตอนแรกเครียดไหมก้เครียด แต่พอเรามีประกันที่เราซื้อเข้ามาดูแลเราก็สบายใจไปเยอะ ถามว่าส่งผลกับงานไหมตอนนั้นก็ต้องยกเลิกงานทั้งหมด เหมือนบอย พอบอยเป็นเขาก็ไปไหนไม่ได้ ต้องยกเลิกงานเหมือนกัน ต้องส่งข้อความขอโทษผ่านไอจีถามว่ารายได้หายไปเยอะไหม ก็เยอะ เพราะ 2 เดือนเต็มที่ไม่ได้ทำงาน เรื่องอาหารการกินตอนนี้ก็กินปกติ ก่อนหน้านี้คุณหมอก็เร่งเรื่องโปรตีน ตอนนี้ก็ทานปกติ แต่คุณหมอขอว่าอย่ากลับไปอ้วนอีก (หัวเราะ)
บอย และ ดีเจแจ๊ค ไรเดอร์
ก่อนออกมาเราก็ไปเยี่ยมบอย คือเราอัพเดทกันตลอด อย่างล่าสุดผมก็ขอดูแผลบอย เพราะของเราค่อนข้างฉกรรจ์ ส่วนของบอยเป็นหนังจริงไม่ได้เป็นหนังปลูกถ่ายแบบเรา คุณหมอเก่ง ดังนั้นพอบอยหายออกมาบอยก็จะเป็นหนังจริงหมดแต่อาจจะมีรอยแผลเป็นที่เกิดจากการเย็บแผล ที่ผ่านมาเราก็คุยกันตลอด เพราะช่วงนั้นไปไหนไม่ได้ก็อยู่โรงพยาบาล ก็ได้คุยกัน คือตั้งแต่แวบแรกที่บอยมาหาหมอ สิ่งที่เรารู้สึกแวบแรกคืออยากให้เขาเป็นน้อยๆ เพราะเรารู้ว่าถ้าเป็นเยอะแบบเรามันจะต้องรักษาหลายเดือน (ตอนนี้กลับมารับงานได้เต็มที่หรือยัง) ก็รับงานได้เต็มที่ รับมากกว่าปกติก็ได้ เพราะเราหยุดงานไป 2 เดือนเราก็คิดถึงงาน คิดถึงบรรยากาศ พอมีกำลังใจจากแฟนที่ส่งกำลังใจเข้ามาว่าคิดถึงกันก็รู้สึกดีมาก ก็ต้องขอบคุณมาก"
Joannie ดีใจด้วยจริงๆครับ เหนข่าวแรกๆตกใจและน่ากลัวมากๆๆๆ
21 พ.ย. 2562 เวลา 00.33 น.
วรรณี กระสันกลาง ดีใจด้วยค่ะ หายแล้ว เยี่ยมๆๆ
21 พ.ย. 2562 เวลา 00.57 น.
Kran ยิ่งลงข่าว ยิ่งเห็นความแตกต่างการรักษาพยาบาลคนมีเงินกับคนจน
21 พ.ย. 2562 เวลา 00.40 น.
ดูทั้งหมด