การบังคับใช้มาตรการปิดกั้นการเดินทาง และการกักตนเองภายในที่พักเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของแคนาดา และสหรัฐฯ กำลังส่งผลกระทบต่อเกษตรกรทั้ง 2 ประเทศที่ต้องพึ่งพาแรงงานต่างชาติตามฤดูกาล และจะมีผลต่อการเก็บเกี่ยวผลผลิตในปีนี้ โดยในแคนาดาเกษตรกรส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาแรงงานต่างชาติชั่วคราวมากกว่า 60,000คน ปรากฏว่าแรงงานเหล่านี้ที่เดินทางกลับไปเมื่อการเก็บเกี่ยวในรอบปีก่อน ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งกลุ่มที่มาถึงยังต้องเข้าสู่กระบวนการกักตนเอง 14 วันก่อนจึงจะกลับมาทำงานได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีเกษตรกรผู้ปลูกแอปเปิ้ลบางรายที่มีคนงานต่างชาติกลับมาแล้ว และต้องกักตนเองแต่ด้วยกฎหมายแรงงาน ทำให้นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมงให้กับคนงาน ทั้งที่ยังไม่ได้ทำงาน ซึ่งทำให่กลุ่มนายจ้างมีความไม่พอใจ ส่วนในสหรัฐอเมริกาที่ต้องพึ่งพาแรงงานต่างชาติชั่วคราวเกือบ 250,000 คน และไม่มีข้อบังคับให้แรงงานต่างชาติต้องกักตนเอง 14 วันก่อนเริ่มงาน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวเม็กซิกัน ที่จะมารับจ้างเก็บเกี่ยวผักและผลไม้ในแต่ละปี ซึ่งแม้กระทรวงการต่างประเทศจะออกวีซ่า H-2A สำหรับแรงงานในฟาร์มโดยตรง แต่ก็มีชาวเม็กซิกันให้ความสนใจจำนวนไม่มากนัก ทั้งยังมีความล่าช้าเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตทำงาน เนื่องจากสถานกงสุลของสหรัฐฯ ในบางประเทศมีการปิดทำการเป็นการชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา ….
ʕっ•ᴥ•ʔっ𝙷𝚞𝚐𝚘𝙱𝚘𝚜𝚜19956 ก่อนหน้าโควิดก็ออกวีซ่าทำงานยากเหลือเกิน สมควรแล้ว เก่งนักก็ทำกันเองเถอะ
06 เม.ย. 2563 เวลา 14.01 น.
ข้าวหอม3/3น้ำเพชร3/1 หลังโควิดไทยจะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของคนทั้งโลกสินค้าเกษตรเราจะส่งออกเศรษฐกิจจะกลับมาบูมสูดๆ กลับบ้านไปทำเกษตรกันข้าวจะมีราคาเป็นที่ต้องการของคนทั้งโลก
06 เม.ย. 2563 เวลา 13.35 น.
ดูทั้งหมด