ทั่วไป

จีน'โวย'ให้USปล่อยบุตรสาว'หัวเว่ย' ธุรกิจมะกันหวั่นลูกหลงงดทริปแดนมังกร

Manager Online
อัพเดต 10 ธ.ค. 2561 เวลา 14.02 น. • เผยแพร่ 10 ธ.ค. 2561 เวลา 14.02 น. • MGR Online

เอเจนซีส์ - จีนเรียกทูตสหรัฐฯ เข้าพบเพื่อประท้วงการจับกุมและเรียกร้องให้ปล่อยตัวลูกสาวผู้ก่อตั้งหัวเว่ยทันที หลังจากที่ได้แสดงความไม่พอใจแคนาดามาก่อนหน้านี้แล้ว ขณะเดียวกันทำเนียบขาวยืนยันทรัมป์ไม่รู้เห็นเรื่องนี้ขณะเจรจาตกลงพักรบในสงครามการค้ากับสี จิ้นผิงเมื่อตอนต้นเดือน ด้านผู้แทนการค้าสหรัฐฯ มั่นใจไม่กระทบการเจรจาผ่าทางตันข้อตกลงการค้า กระนั้นมีรายงานว่า ผู้บริหารบริษัทชั้นนำของอเมริกาหลายแห่งเริ่มกังวลว่า จะถูกลูกหลงจากกรณีนี้ และสั่งงดการเดินทางไปแดนมังกรโดยไม่จำเป็น

เมื่อวันอาทิตย์ (9 ธ.ค.) เล่อ อี้ว์เฉิง รองรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ได้เรียก เทอร์รี แบรนสแตด เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่งเข้าพบ เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อกรณีแคนาดาจับกุมเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) และบุตรสาวผู้ก่อตั้งหัวเว่ย ระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องที่แวนคูเวอร์เมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมาตามคำขอของอเมริกาในข้อกล่าวหาว่า เมิ่งสมรู่ร่วมคิดฉ้อฉลสถาบันการเงินหลายแห่ง รวมทั้งเกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมกับอิหร่านซึ่งเข้าข่ายละเมิดมาตรการลงโทษของอเมริกา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า เล่อได้บอกแบรนสแตดว่า อเมริกาละเมิดสิทธิตามกฎหมายและผลประโยชน์ของพลเมืองจีนผู้นี้อย่างร้ายแรง พร้อมเรียกร้องให้เพิกถอนหมายจับและปล่อยตัวเมิ่งทันที ไม่เช่นนั้นปักกิ่งจะดำเนินการตอบโต้เพิ่มเติม โดยขึ้นอยู่กับการกระทำของสหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ เมื่อคืนวันเสาร์ (8) เล่อก็เรียกจอห์น แมคคอลลัม เอกอัครราชทูตแคนาดา เข้าพบเพื่อประท้วงกรณีนี้เช่นเดียวกัน รวมทั้งเตือนแคนาดาว่า จะได้รับผลเลวร้ายหากไม่ยอมปล่อยตัวเมิ่งทันที

ทั้งนี้ ศาลของแคนาดามีกำหนดวินิจฉัยข้อเรียกร้องขอประกันตัวของเมิ่งต่อในวันจันทร์ (10) โดยซีเอฟโอหัวเว่ยระบุว่า ตนควรได้รับการประกันตัวระหว่างรอการพิจารณาคดีเพื่อส่งตัวไปดำเนินคดีต่อในอเมริกาที่ต้องใช้เวลานานหลายเดือนหรืออาจหลายปี พร้อมอ้างอิงความสัมพันธ์ยาวนานกับแคนาดา อสังหาริมทรัพย์ที่ครอบครองอยู่ในเมืองแวนคูเวอร์ และความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ ขณะที่หัวเว่ยยืนยันว่า ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมิ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำความตกลงกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการสงบศึกชั่วคราวและขีดเส้นตายการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างกันภายใน 90 วัน

มีรายงานก่อนหน้านี้ว่า ที่ปรึกษาอาวุโสบางคนของทรัมป์ โดยเฉพาะ จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ออกมากล่าวว่าทราบเรื่องการจับกุมนี้ก่อนการคุยกันของทรัมป์กับสี

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ด้าน แลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจของทำเนียบขาว ยืนยันในวันอาทิตย์ (9)ว่า ระหว่างถกกับผู้นำจีน ทรัมป์ไม่รู้เรื่องการจับกุมเมิ่งแต่อย่างใด

ขณะที่ โรเบิร์ต ไลต์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ก็กล่าวในวันอาทิตย์เช่นกันว่า การจับกุมเมิ่งไม่น่าจะส่งผลมากนักต่อการเจรจาการค้าอเมริกา-จีนเพื่อผ่าทางตันภายใน 90 วัน เขายังยืนยันว่าเส้นตายของการเจรจาคือในวันที่ 1 มีนาคมปีหน้า แม้ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ทวิตว่า การเจรจาจะสิ้นสุดลงใน 90 วัน “เว้นแต่จะมีการขยายเวลาออกไป” ก็ตาม

ปัจจุบันมหาอำนาจเศรษฐกิจของโลก 2 รายนี้ กำลังดวลกันด้วยมาตรการภาษีศุลกากรครอบคลุมการค้ามูลค่ากว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของทรัมป์ในการลดยอดขาดดุลการค้าที่สหรัฐฯ มีต่อจีน รวมทั้งเพื่อตอบโต้สิ่งที่เขาระบุว่าเป็นพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรมของปักกิ่ง

นักวิเคราะห์หลายคนลงความเห็นว่า เมิ่งอาจเป็นหมากต่อรองในการเจรจาการค้าอเมริกา-จีน

ในอีกด้านหนึ่ง พวกผู้บริหารของบริษัทอเมริกันจำนวนมากเริ่มกังวลว่า จะถูกลูกหลงจากมาตรการตอบโต้ของจีน

แหล่งข่าววงในเผยว่า เจ้าหน้าที่ของบริษัทอเมริกันที่เข้าประชุมด้านความมั่นคงแบบปิดลับที่สภาที่ปรึกษาด้านความมั่นคงในต่างประเทศ (โอเอสเอซี) ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ประจำเอเชีย-แปซิฟิกของกูเกิลในสิงคโปร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (6) ได้แสดงความกังวลว่า ผู้บริหารและบริษัทอเมริกันอาจเป็นเป้าหมายการตอบโต้ของจีน และหลายบริษัทกำลังพิจารณาจำกัดการเดินทางไปจีนโดยไม่จำเป็น รวมทั้งย้ายการประชุมไปจัดนอกแดนมังกร

แหล่งข่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทที่ส่งผู้บริหารเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวมีอาทิ วอลท์ ดิสนีย์, กูเกิล, เฟซบุ๊ก และเพย์พัล โดยหัวข้อการหารืออย่างเป็นทางการในที่ประชุมครอบคลุมประเด็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและการก่อการร้ายในเอเชีย-แปซิฟิก

นอกจากนั้นบริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงและนักวิเคราะห์หลายคนยังเผยว่า การจับกุมเมิ่งอาจกระตุ้นให้ปักกิ่งแก้แค้นอเมริกาด้วยวิธีการบางอย่าง และบริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงในเอเชียระบุว่า มีลูกค้าจำนวนมากสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของหัวเว่ย และแนวโน้มผลกระทบที่จะเกิดกับบริษัทอเมริกันในจีน

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 5
  • Jhor
    ขอให้จบลงด้วยดี ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ต่อตา ฟันต่อฟัน ท้ายที่สุดก็เจ็บทั้งคู่ คนอื่นก็โดนลูกหลงไปด้วย
    11 ธ.ค. 2561 เวลา 02.07 น.
  • 🎸🎶🎶🎼🎶🎶🎸
    5555555 สุดท้าย เจ๊ก ก็ไม่กล้า เขาเอาขายื่นให้ งับ แล้วก็ไม่กล้าทำขู่โน่นขู่นี่ 🇨🇳กับ🇺🇸 กุว่ายังไงไอ้กัน ก็เอาเปรียบไทยน้อยกว่าจีนหว่ะ คือ ทุกๆมหาอำนาจมันก็เอาเปรียบกันหมดละ แต่ 🇨🇳 แม่งเอาเปรียบเรามากกว่านะสหาย คิดดูดีๆคิดดูลึกๆหลายๆอย่าง 🇨🇳 ท่าให้มันกร่างมากกว่านี้ 🇹🇭 เราลำบากแน่ๆเพราะทุกวันนี้แค่เขื่อนมันจะแกล้งเราวันไหนยังได้เลย ส่วน🇺🇸 อย่างน้อยมันก็เอาเปรียบ พวกเราน้อยกว่านะ คิดดีๆ จะเลือกข้าง จะเชียร์ใคร อย่าเอาแต่มันส์และสะใจ ผลประโยชน์ของพวกเราต้องมาก่อน
    10 ธ.ค. 2561 เวลา 16.20 น.
  • Chanwit
    สันดานฝรั่ง เป็นอย่างนี้มานานตั้งแต่สมัยล่าอาณานิคม ใช้วิธีชั่วๆมาตลอด แต่ครั้งนี้จีนพร้อม
    10 ธ.ค. 2561 เวลา 15.26 น.
  • K:
    เก่งจับผุ้หญิงเป็นตัวประกัน
    10 ธ.ค. 2561 เวลา 15.07 น.
  • Leopadon
    ขี้แพ้ชวนตี แพ้แล้วพาล และคำจำกัดความอีกหลายความหมาย ของอเมริกา กุ๊ยโลก
    10 ธ.ค. 2561 เวลา 14.56 น.
ดูทั้งหมด