วันที่ 20 ก.ค.2563 กรณี น.ส.เอ๋ (สามสมมุติ) อายุ 32 ปี ย้ายครอบครัวหนีจากบ้าน ที่ อ.นางรอง ไปขออาศัยอยู่กับบ้านญาติ ที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เพราะเกรงจะได้รับอันตราย หลังจากมีคนมาข่มขู่ครอบครัวและลูกสาววัย 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.นางรอง ซึ่งถูกครูอัตราจ้าง อายุ 33 ปี ข่มขืนภายในโรงเรียน เหตุเกิดวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนแม่เด็กจะตัดสินใจเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย กิตติอุดมพันธ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
ความคืบหน้าล่าสุดแม่เด็กไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย และกลัวลูกจะมีปมด้อย มีเพียง นายสุชาครี เศษศิริ อายุ 50 ปี อดีตภารโรงของโรงเรียน ได้ออกมาระบุว่า ครูอัตตราจ้างของโรงเรียนคนนี้ เป็นคนลึกลับ มองไม่ออก เหมือนจะมีความลับตลอดเวลา
ตนเองทำงานเป็นภารโรงมานานกว่า 10 ปี 6 เดือนไม่เคยมีปัญหา ในช่วงหลังตนรู้เรื่องราวหลายเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะครูคนนี้ที่เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกับกับเด็กชั้น ป.5 มาแล้ว มีการแจ้งความกับตำรวจ สภ.นางรอง แต่ก็สามารถรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ โดยไม่ได้รับโทษใดๆ กระทั่งมาก่อเหตุกับเด็ก ป.6 อีก
และเมื่อประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมา ตนถูก ผอ.เลิกจ้าง จากการเป็นภารโรงของโรงเรียน โดยอ้างว่าไม่มีงบประมาณจ้าง ทั้งที่ทำงานตามคำสั่งตามปกติ เชื่อว่าอาจจะมาจากที่ตนรู้เรื่องภายในมากเกินไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ความเคลื่อนไหวของครูคนนี้ ได้โพสต์บนเฟชบุ๊กของตัวเองด้วยข้อความว่า ”ขอบคุณท่าน ผอ…..มากนะครับที่ช่วยเหลือผมมาโดยตลอด และก็ขอบคุณคณะครูบางส่วนที่แนะนำช่วยเหลือหลายๆ เรื่อง ผมจะไม่ลืมพระคุณนี้เลย ผมจะจดจำคำว่า” เรารัก…….. ตลอดไป”
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว น.ส.เอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี แม่ของเด็กวัย 12 ปี ได้เล่าถึงวันที่รู้เรื่องว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมาลูกสาวมีอาการผิดปกติ ปวดท้องน้อย ไม่กินข้าว ไม่พูดกับใคร ตนก็หายาให้กิน ระหว่างที่ลูกนอนซมอยู่นั้น ตนได้มีโอกาสไปดูโทรศัพท์ของลูก ถึงกับตกใจเพราะมีข้อความของครู อายุ 33 ปี เป็นครูอัตราจ้าง และเป็นครูสอนพละและสุขศึกษาในโรงเรียน คุยกับลูกสาว ว่า ”อย่าลืมกินยาคุมฉุกเฉินที่ซื้อไปให้” และอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด เพราะครูจะต้องโดนไล่ออก และถ้าเอาไปบอกใครครูจะฆ่าล้างโคตร" นอกจากนี้ยังมีอีกหลายข้อความที่ตนรับไม่ได้ที่ครูจะคุยกับเด็กเพียงแค่ ป.6
โดยหลังเกิดเหตุตนก็ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.นางรอง อ.นางรอง จากนั้นพนักงานสอบสวน ได้เรียกไปพบทั้งหมด โดยครูคนดังกล่าว ไม่พูด และยอมรับสารภาพ แล้วมากราบขอโทษ
กระทั่งตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาครูคนนี้ โดยมีคนมาประกันตัวที่ศาลจังหวัดนางรอง แต่หลังจากนั้นได้มีครูในโรงเรียน 2-3 คน มาพูดคุยที่บ้าน เพื่อมาขอเจรจาคล้ายเหมือนข่มขู่ ขอให้ยุติเรื่องราวทั้งหมด แต่ตนไม่ยอม
ทางครอบครัวรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย และเกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า เพราะครูคนนี้เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว แต่ก็รอดพ้นมาได้ จึงตัดสินใจย้ายลูกสาวออกจากโรงเรียน และย้ายครอบครัวมาอยู่กับญาติ ที่ อ.ประโคนชัย จนกว่าเรื่องทั้งหมดจะคลี่คลาย
ภาพ/ข่าว อภิชาติ ศิริสุข ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์
ปวีณา ผอ.กับผู้ต้องมีความสัมพันธ์กันแบบไหน ครูในโรงเรียนอีกที่มาขอเจรจา ขมขู่ให้เรื่องจบ สามส่วนนี้สัมพันธ์กันอย่างไร ทำชั่วในโรงเรียนกับเด็กในปกครอง หลักฐานก็มีให้เห็นอยู่ จะช่วยเพื่อ?? แล้วตำรวจทำไรไม่ได้เลยจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ก่อเหตุซ้ำซาก ถ้ารอดอีก ไม่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็ปิดโรงพัก ปิดโรงเรียนไปเถอะ เปลืองงบเปล่าๆ
21 ก.ค. 2563 เวลา 06.10 น.
ดูทั้งหมด