ทางสายกลาง หรือมัชฌิมาปฏิปทา ไม่ใช่ความเป็นกลางระหว่างสองฝ่าย เช่น ปกติกินเหล้า 10 แก้ว ถ้ายึดทางสายกลางก็กินเหลือ 5 แก้ว แบบนี้ไม่ใช่..
แท้จริงแล้วทางสายกลางต้องมีความถูกต้องเป็นเกณฑ์ หมายถึงความพอดีระหว่างความดี เป็นหนทางแห่งความสมดุลที่จะนำไปสู่จุดหมาย
เพราะฉะนั้นทางสายกลางก็คือจุดที่ถูกต้องเพียงจุดเดียว เหมือนการยิงธนูที่มีตรงกลางเป็นเป้าที่ถูกต้องเพียงจุดเดียว หากเบนไปจากเป้า ไม่ว่าไปทางซ้ายหรือขวา ก็คือไปไม่ถึงจุดหมาย แปลว่าไม่ใช่ทางสายกลางนั่นเอง
ในทางพระพุทธศาสนาทางสายกลาง หมายถึงการไม่ยึดถือสุดทั้ง 2 ทาง ได้แก่ อัตตกิลมถานุโยค คือหนทางหรือข้อปฏิบัติที่ไม่ตึงเกินไปจนเป็นความลำบากแก่ตน และกามสุขัลลิกานุโยค คือการไม่หย่อนเกินไปจนเป็นการพอกพูนกามกิเลส ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงกำหนดหลักทางสายกลางนี้ไว้ชัดเจนว่าคืออริยมรรคมีองค์ 8 และหากย่นย่อแล้วก็คือสิ่งที่เรารู้จักกันดีว่าคือ ศีล สมาธิ ปัญญานั่นเอง
ไตรสิกขา หรือศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งก็คือหนทางแห่งการพ้นทุกข์ โดยมี “ศีล” เป็นเครื่องข่มจิตไม่ให้เกิดกิเลส มี “สมาธิ” เป็นเครื่องข่มกิเลส และมี “ปัญญา” ที่รู้ทัน รู้แจ้ง มีเหตุและผลเพื่อสยบกิเลสทั้งหมดทั้งมวลที่ทำให้เกิดทุกข์
จริง ๆ แล้วเราสามารถนำเรื่องของทางสายกลางนี้มาปรับใช้กับการดำเนินชีวิตได้ทุกรูปแบบ เพื่อให้ไม่ทุกข์และประสบความสำเร็จไปถึงจุดมุ่งหมาย อย่างการทำงาน ถ้าอยากประสบความสำเร็จก็ไม่จำเป็นต้องทำงานหนัก หามรุ่งหามค่ำหรือเครียดจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น ซึ่งไม่มีผลดีอะไรกับตัวเองเลย แท้จริงแล้วเราต้องยึดหลักสายกลาง ไม่สุดโต่งเกินไป รับผิดชอบงานที่ทำอย่างตั้งใจ แต่ก็ต้องแบ่งเวลาให้เกิดความสมดุลกับชีวิตและครอบครัวด้วย
อย่างที่บอกว่าทางสายกลางสามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกอย่าง เพราะเป็นหลักที่ยึดความถูกต้องเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพ อาหารการกิน ความรัก ครอบครัว ฯลฯ แค่เรายึดความพอดี เหมาะสม และสมดุลทุกอย่างให้ดี ชีวิตเราก็จะสบาย ไม่ทุกข์และเข้าใจความเป็นไปของทุกอย่างที่เกิดขึ้นเอง..
ยิ่งหลงทาง ยิ่งเสียเวลา เวียนว่ายตายเกิด เจริญรอยตามทางสายกลาง มัชฌิมาปฏิปทาที่เป็นธรรมทำให้มีดวงตา ดังพุทธวจน "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา"
05 เม.ย. 2561 เวลา 12.16 น.
ใช่แล้วคับ การวางเฉย เหมือนพระพุทธรูป คือ ใจนิ่ง นำมาซึ่งความสำเร็จทุกประการ มีความทะยานในใจ ทำไปตามสติไม่หลงทาง ไม่แสดงอาการอยาก จิตใจเมตตา ปล่อยวาง (กรรมของเขาเอง) จิตสงบ สว่าง สะอาด อยากเป็นอะไรย่อมสำเร็จดั่งหวังทุกประการ😇😇😇
05 เม.ย. 2561 เวลา 12.23 น.
@... ถ้าเปรียบเสมือนในการดำเนินชีวิต ก็ควรที่จะต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา มีความพอดีให้กับชึวิต มีความพอเพียงในสิ่งที่เป็นอยู่ และรับในสิ่งที่เกิด และก็ต้องพร้อมที่จะแก้ไขในสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อให้เป็นไปในทางที่ถูกต้อง และก็ต้องรับฟังอย่างมีเหตุผล เช่นเดียวกับคำว่า ควรรู้ในสิ่งที่ควรจะรัก ควรละจิตที่มีความโลภ ไม่หลุ่มหลงโดยขาดการยั้งคิด เพียงแค่นี้ชีวิตก็จะพบแต่ความสุข.
05 เม.ย. 2561 เวลา 21.06 น.
บุญธรรม..วรรณราช สาธุๆๆค่ะ
05 เม.ย. 2561 เวลา 13.20 น.
Aj.NeTi Khimhan จิตสว่าง สะอาด สงบ
05 เม.ย. 2561 เวลา 13.22 น.
ดูทั้งหมด