ทั่วไป

ไม่อยู่...แล้ว“อู่ฮั่น”!

สยามรัฐ
อัพเดต 28 ม.ค. 2563 เวลา 23.00 น. • เผยแพร่ 28 ม.ค. 2563 เวลา 23.00 น. • สยามรัฐออนไลน์

ยังคงระบาดไม่หยุด แบบหยุดไม่อยู่กันจริงๆ

สำหรับ เชื้อ “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ไวรัสอู่ฮั่น” ซึ่งเรียกตามชื่อเมืองของต้นตอ แหล่งกำเนิดเชื้อไวรัสที่กำลังเขย่าโลก ณ ชั่วโมงนี้ คือ เมืองอู่ฮั่น นครหลวงเมืองเอกของมณฑลเหอเป่ย ทางตะวันออกของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือจีนแผ่นดินใหญ่ นั่นเอง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดย “นครอู่ฮั่น” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักอ่าน “สามก๊ก” ในฐานะที่เป็นสมรภูมิ พื้นที่รบ ใน “ศึกเซ็กเพ็ก” หรือ “ยุทธการที่ผาแดง” เมื่อราว 1,812 ปีก่อน (สงครามเกิดเมื่อ พ.ศ. 751 หรือ ค.ศ. 208) ปัจจุบัน เป็นศูนย์กลางในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น การเมือง เศรษฐกิจ การเงิน การพาณิชย์ สังคม วัฒนธรรม และการศึกษา รวมถึงเป็นตลาด แหล่งค้าสัตว์ประเภท “เปิบพิสดาร” เช่น ค้างคาว และงู เป็นต้น อันเลื่องชื่อแห่งหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่

ด้วยความเป็น ตลาดย่านการค้าสัตว์เพื่อเปิบพิสดารข้างต้น จึงทำให้สันนิษฐานกันว่า บรรดาสัตว์ป่าที่นำมาทำเป็นอาหารแปลกๆ น่าจะเป็นที่มาของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งทำให้ผู้ติดเชื้อต้องล้มป่วยถึงขั้นปอดบวม ปอดอักเสบ นอกเหนือจากมีไข้ขึ้นสูงแล้ว ก่อนแพร่ระบาดไปทั่วจนเป็นที่มาของชื่อ “ไวรัสอู่ฮั่น” แล้วลามไปทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่ และประเทศต่างๆ

ชนิดที่กล่าวได้ว่า “คุมไม่อยู่” แม้ว่า รัฐบาลปักกิ่ง ทางการจีนแผ่นดินใหญ่ ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ทั้งระดมกำลังเจ้าหน้าที่แพทย์ สาธารณสุข เป็นจำนวนมาก การขยายระยะเวลาวันหยุดในช่วงเทศกาลตรุษจีนออกไปจากเดิมสิ้นเดือน ม.ค. เป็นต้นเดือน ก.พ. การสั่งปิดเมืองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรค การส่งผู้นำระดับสูง คือ นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ไปกำกับบัญชาการควบคุมโรคถึงพื้นที่แพร่ระบาด รวมไปจนถึงการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับสูงสุดแล้วก็ตาม แต่ก็ปรากฏว่า ยังไม่สามารถหยุดยั้งสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอู่ฮั่นได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

มีรายงานว่า เฉพาะการแพร่ระบาดตามเมืองและมณฑลต่างๆ ในจีนแผ่นดินใหญ่ ก็มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะชนิดนี้แล้วอย่างน้อย 106 ราย จากจำนวนผู้ติดเชื้อจนล้มป่วยทั้งสิ้นกว่า 4,565 ราย ในจำนวนนี้ มีอาการหนักป่วยขั้นวิกฤติกว่า 976 รายด้วยกัน นับตั้งแต่การปรากฏตัวของเชื้อไวรัสมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว คือ 2019 (พ.ศ. 2562)

ส่วนเชื้อไวรัสที่แพร่ระบาดในต่างประเทศ นอกจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ข้อมูล ณ เวลานี้ ผู้ป่วยเป็นชาวจีนที่เดินทางไปยังประเทศต่างๆ ปรากฏว่า ได้ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนข้างต้น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย ล้มป่วยขณะเดินทางยังประเทศต่างๆ ได้แก่ ไทย 16 ราย ซึ่งถือว่ามากที่สุด ตามมาด้วยสิงคโปร์ 5 ราย ออสเตรเลีย 5 ราย ไต้หวัน 5 ราย สหรัฐอเมริกา 5 ราย มาเลเซีย 4 ราย เกาหลีใต้ 4 ราย ญี่ปุ่น 4 ราย ฝรั่งเศส 3 ราย เวียดนาม 2 ราย เนปาล 1 ราย ล่าสุดพบในแคนาดา 1 ราย เยอรมนี 1 ราย ศรีลังกา 1 ราย และกัมพูชา 1 ราย ส่วนในพื้นที่เขตปกครองพิเศษของจีนแผ่นดินใหญ่ ที่พบ ได้แก่ ฮ่องกง 8 ราย มาเก๊า 5 ราย

เมื่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอู่ฮั่นร้ายแรง และการปิดเมือง จนนครอู่ฮั่นอยู่ในสภาพเลวร้าย ก็ส่งผลให้ทางการของประเทศทั้งหลาย ต่างเตรียมแผนที่จะอพยพผู้คนพลเมืองของตนออกจากอู่ฮั่นกันจ้าละหวั่น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ไม่ว่าจะเป็น “สหรัฐฯ” มหาอำนาจพี่เบิ้มใหญ่ ที่ทาง “กระทรวงการต่างประเทศ” ทั้งออกแถลงการณ์ และแจ้งข่าวสารไปทางอีเมล์ของพลเมืองอเมริกันที่อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ว่า ได้เตรียมเที่ยวบินเพื่ออพยพไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจะออกจากอู่ฮั่น เมืองศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ไปยังนครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ ในวันอังคารนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติในนครซานฟรานซิสโก บรรดาพลเมืองที่อพยพไปนี้ ต้องพำนักอยู่ในพื้นที่กักกันโรคเป็นเวลา 14 วันเพื่อสังเกต หรือรอดูอาการว่า มีใครป่วย หรือติดเชื้อไวรัสมาจากอู่ฮั่นหรือไม่

ตามมาด้วย “ญี่ปุ่น” แดนซามูไร โดยทั้งนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรี และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ออกมาประสานเสียงถึงแผนการที่จะใช้เพื่อการอพยพพลเมืองของพวกเขาออกจากเมืองอู่ฮั่น ไม่ว่าจะเป็นการใช้เที่ยวบินพิเศษ และเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ที่ทางการแดนปลาดิบ ก็พร้อมที่จะดำเนินการ

พร้อมกันนี้ ทางการญี่ปุ่น ก็ได้เสนอต่อทางการจีนแผ่นดินใหญ่ ในอันที่จะช่วยเหลือสำหรับการรับมือต่อการแพร่ระบาดไวรัสอันเขย่าโลกข้างต้น

เช่นเดียวกับ ทางการฝรั่งเศส โดยนางแอกเนส บูซีน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยว่า รัฐบาลปารีส เตรียมแผนการอพยพชาวน้ำหอมออกจากเมืองอู่ฮั่นเช่นกัน ด้วยเที่ยวบินตรงจากนครอู่ฮั่นไปยังกรุงปารีส ช่วงกลางสัปดาห์นี้ ซึ่งทางการฝรั่งเศส จะใช้ท่าอากาศยานนานาชาติชาร์ล เดอ โกล ในกรุงปารีส เป็นสถานกักกันผู้อพยพข้างต้น สำหรับรอดูอาการเป็นเวลา 14 วัน

นอกจากนี้ ก็ยังมี “อังกฤษ” ซึ่งถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้เผชิญหน้ากับการแพร่ระบาด แต่ก็เตรียมแผนการอพยพชาวเมืองผู้ดีออกจากนครอู่อั่น เพื่อกลับประเทศด้วยเช่นกัน

รวมถึง “รัสเซีย” โดยสถานเอกอัครราชทูตในเมืองอู่ฮั่น ก็เปิดเผยว่า ทางการมอสโกของรัสเซีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้หารือกับทางการปักกิ่งของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เพื่อเตรียมการอพยพชาวรัสเซียออกพ้นเมืองอู่ฮั่น

ไม่เว้นกระทั่งไทยเรา ก็มีรายงานว่า เตรียมเที่ยวบินต่างๆ รวมถึงเครื่องบินลำเลียง ซี-130 ของกองทัพอากาศสำหรับการอพยพประชาชนคนไทยกลับไทย แบบพลันที่ได้รับการไฟเขียวจากรัฐบาลปักกิ่ง ก็สามารถอพยพลเมืองให้พ้นจากอู่ฮั่น นครต้นตอไวรัสเขย่าโลก เพื่อกลับสู่มาตุภูมิบ้านเกิดเมืองนอนของตน คือ ไทยเราได้อย่างทันที

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 26
  • sak-min
    อีกหนึ่งวิกฤตของสังคมโลก เป็นกำลังใจให้ ทีมแพทย์และพยาบาล ทุกๆท่านที่กำลังทำงานหนักขณะนี้ ทุก ปท.โดยเฉพาะ รบ.จีน ครับ
    29 ม.ค. 2563 เวลา 00.33 น.
  • ต้องกักคนที่มาจากจีนไว้14วันด้วยนะคะ เพราะเชื่อโรคมันฟักตัว14วัน
    29 ม.ค. 2563 เวลา 00.43 น.
  • 𐒄λⲄⲄ𐒅𐒢Ꮚ 𐒨𐒅λ𐒐
    แสดงว่าที่ผ่านมาไม่มีประเทศไหน​ รับคนออกมาได้
    29 ม.ค. 2563 เวลา 00.08 น.
  • ..เวรกรรมตามทันจริงๆ โบราณบอก อย่าหวงน้ำ จีนเล่นกักแม่น้ำโขงทั้งสาย เดือดร้อนตั้งแต่สัตว์น้ำ คน จนถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดลุ่มแม่น้ำโขง ..แม่น้ำโขงคือสายน้ำบริสุทธิ์จากเทือกเขาหิมาลัย
    29 ม.ค. 2563 เวลา 00.24 น.
  • :Noom.
    รัฐบาลควรหยุดได้แล้ว เราไม่ได้รังเกียจคนจีน แต่ช่วงนี้ควรงดก่อนเพื่อควบคุมประเทศเราระบสาธารณสุขยังด้อยกว่าประเทศอื่นค่อนข้างมาก ควรคิดและไตร่ตรองถึงอนาคตข้างหน้า เชื้อไม่กลับไปกับคนจีนน๊ะ เขาเที่ยวมากินมาถ่ายสารพัด..คิดเถอะช่วยกันแชร์ครับ
    29 ม.ค. 2563 เวลา 01.44 น.
ดูทั้งหมด