‘โจรชิงทอง’ เปิดใจ ก่อเหตุเพราะปัญหาเงิน ไม่ตั้งใจฆ่า แค่ยิงเปิดทาง เสียใจ สำนึกผิด

กรุงเทพฯ - 'ผอ.กอล์ฟ' โจรกราดยิงชิงทองลพบุรี เผย แรงจูงใจจากปัญหาส่วนตัวเรื่องเงิน ส่วนสาเหตุที่ยิงเพื่อเปิดทาง ไม่ได้ตั้งใจฆ่า โดยเฉพาะน้องไตตั้น ระบุ สำนึก เสียใจ พร้อมขอโทษเหยื่อและครอบครัว

วันที่ 23 มกราคม 2563 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำคณะทำงาน แถลงข่าวคดีกราดยิงชิงทอง ร้านทองโอโรร่า ในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ลพบุรี โดยยิงผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 4 คน ซึ่งจับกุมผู้ต้องหา คือ นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโพธิ์ชัย จ.สิงห์บุรี ได้วานนี้

พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการป้องกันและปราบปราม ตัวแทน พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวถึงการสืบสวนสอบสวนที่ผ่านมาว่า ได้เฝ้าสังเกตการณ์ผู้ต้องหามาระยะหนึ่ง จนมั่นใจจึงขอศาลออกหมายจับ เช้าวานนี้ (22 ม.ค.)

ระหว่างแถลงข่าว ตำรวจไม่ได้นำตัวผู้ต้องหามาร่วมแถลง แต่ใช้วิธีโทรศัพท์โฟนอินให้สื่อมวลชนได้ซักถาม
สรุปประเด็นสำคัญได้ ดังนี้

1.แรงจูงใจที่ทำให้ก่อเหตุ นายประสิทธิชัย เปิดใจว่า เกิดจากปัญหาส่วนตัว เกี่ยวกับด้านการเงิน

2.สาเหตุที่ต้องยิง เพราะต้องการเปิดทางและทำให้กลัว

3.มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า 2-3 วัน และไม่มีความเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต

4.สำหรับเหยื่อพนักงานสาวของร้านทอง ที่ถูกยิงซ้ำหลายนัดนั้น อ้างว่าเพราะถุงมือเข้าไปขัดไกปืน ทำให้กระสุนลั่น

5.สาเหตุการยิงเด็กวัยเพียง 2 ขวบ นายประสิทธิชัย อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจและไม่เห็น เพราะต้องการยิง รปภ.เพื่อเปิดทาง คาดว่าลูกกระสุนแฉลบไปโดนเด็ก

6.ยิงเปิดทางแล้วเหตุใดต้องยิงคนจนเสียชีวิตนั้น ผู้ต้องหากล่าวว่า ยิงไปที่ตู้กระจกทอง 2 นัด แต่ไม่คิดว่ากระสุนจะโดนพนักงานร้านทอง และพอเจอผู้ชายกับผู้หญิงที่มาซื้อทอง อารมณ์ก็หลุดไป

7.กรณีที่ใช้ท่อเก็บเสียงก่อเหตุ เนื่องจากต้องการลดเสียง ไม่ต้องการให้ผู้คนตื่นตระหนก ท่อเก็บเสียงนั้นสั่งมาจากเพื่อนรุ่นน้องทางอินเตอร์เน็ต

8.หลังก่อเหตุแล้ว รู้สึกสำนึกผิดและเสียใจ โดยเฉพาะเมื่อเห็นข่าวกระสุนไปโดนเด็ก เสียใจทุกครั้งที่เห็นข่าว พร้อมกล่าวขอโทษเหยื่อและครอบครัว

9.หลังจากก่อเหตุแล้ว ยังกลับไปใช้ชีวิตแบบสุขสบาย ผู้ต้องหาชี้แจงว่า ต้องพยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่ไม่ได้คิดหลบหนี

10.หลังเกิดเหตุคิดมอบตัว แต่ไม่ได้ปรึกษาอะไรกับใคร เพราะการกระทำทั้งหมดทำแต่เพียงผู้เดียว แต่คิดว่าหลังวันที่ 24 ม.ค.63 จะมอบตัวกับตำรวจ เนื่องจากมีภารกิจที่โรงเรียน

11.ยืนยันว่าที่ก่อเหตุไม่ได้อยากตาย ไม่ได้เป็นไปตามข่าวที่อ้างขึ้นมา พร้อมย้ำว่าปัญหาเกิดจากเรื่องส่วนตัวและการเงิน

ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ย้ำกรณีสังคมตั้งคำถามว่า เป็นการจับแพะหรือไม่ว่า ไม่ใช่กรมปศุสัตว์ ไม่เคยจับแพะจับแกะ ตนเองเป็นตำรวจ จับแต่โจรผู้ร้ายและดูแลประชาชน คดีใหญ่ ๆ ที่ผ่านมา ก็จับแต่ของจริง  ทีผ่านมา ได้รับกำลังใจจากนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ที่ทุ่มสรรพกำลังทุกอย่าง เพื่อให้ได้ตัวคน้รายเร็วที่สุด และเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน  ส่วนที่ผู้ต้องหาเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียน ก็ไม่เหนือความคาดหมายมาก ไม่ได้ตัดทิ้งตั้งแต่แรก และหลังก่อเหตุคนร้ายก็ทิ้งซิกเนเจอร์ไว้มากเช่นกัน  ที่ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมไม่ไปค้นปืนที่บ้านพ่อผู้ต้องหาด้วย ก็ไม่อยากให้ของกลางเคลื่อนที่  ทั้งนี้ จากการสอบปากคำผู้ต้องหา มีบางส่วนที่จริงใจบ้าง ซึ่งทีมงานมีประสบการณ์ในการรับฟัง หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งฟ้องผู้ต้องหาต่อไป

ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงพยานหลักฐานว่า มีอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ทองรูปพรรณ 32 เส้น ที่ได้จากบ้านของพ่อผู้ต้องหา ส่วนที่ขาดอยู่ คือ ลำกล้องกับท่อเก็บเสียง เจ้าหน้าที่กำลังงมหาอยู่ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ชี้เบาะแส ขอเป็นความลับ ถึงวันนี้ยังไม่พบว่า พ่อของผู้ต้องหามีความเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ และยังไม่แจ้งข้อหาใครเพิ่มเติม

ในการแถลงข่าว ยังมีการนำพยานหลักฐานและของกลางต่าง ๆ มาแสดงด้วย เช่น เสื้อผ้าและรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ทองรูปพรรณ