ไลฟ์สไตล์

ดีแล้วที่ไม่รู้ - เพจเจ้าหญิงแห่งวงการHR

TOP PICK TODAY
เผยแพร่ 23 ม.ค. 2563 เวลา 09.16 น. • เจ้าหญิงแห่งวงการHR

เชื่อว่าในการทำงานแต่ละวันของแต่ละคน มีเรื่องที่เราต้องฟังเยอะมากกกกกกกกก

ทั้งที่อยากฟัง และโดนบังคับให้ฟัง ><”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คนที่รู้ว่าเวลามีค่ามากแค่ไหน จะแยกแยะได้ว่า

บางเรื่อง ไม่รู้ก็ไม่ถือว่าตกข่าว

บางเรื่อง ยิ่งไม่รู้ ยิ่งถือว่าดี

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ในการทำงานอ่ะ โอเคแหละที่หลายๆ คนบอกว่า รู้เขารู้เรา รบ 100 ครั้ง ชนะ 100 ครั้ง

แต่ถ้าจะให้ลึกไปกว่านั้นก็ต้องบอกว่าควรรู้เรื่องอะไร และไม่ควรเสียเวลาไปอยากรู้เรื่องอะไรด้วย

แน่นอนว่าเรื่องที่เป็นประโยน์ ยิ่งรู้เยอะก็ยิ่งดีซึ่งในขณะเดียวกันมีอีกหลายเรื่องที่เราไม่ควรรับรู้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

• เราไม่ควรรู้ว่าคนอื่นคิดต่อคนอื่นอย่างไร ไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องไปสนใจ เรื่องนี้อ่ะยิ่งไม่รู้ยิ่งดีนะ หลายครั้งที่แค่ร่วมรับฟัง เราก็ถูกเหมาว่าเป็นพวกเดียวกันแล้ว ซึ่งในการทำงานอ่ะมันไม่ควรมีว่าใครเป็นพวกไหนไง ทุกคนต้องเป็นพวกเดียวกันมันถึงจะดีที่สุด อย่าไปพลาดกลายเป็นเครื่องมือของใครนะ จำเอาไว้ว่าใครที่เลือกใช้วิธีการเล่าความคิดเห็นของตัวเองที่มีต่อคนอื่นเพื่อหาพวกว่าชอบใคร หรือไม่ชอบใครเหมือนกัน #คนแบบนั้นไม่น่าคบที่สุดเลยในออฟฟิศ

• เราไม่สนใจเงินเดือนคนอื่น นี่เตือนเลยนะว่าเงินเดือนเราจะน้อยทันทีเมื่อรู้ว่าคนอื่นได้เท่าไหร่ บางคนนะใช้เงินเดือนไม่พอยังไม่เดือดร้อนเม่าตอนที่เห็นว่าคนอื่นได้เท่าไหร่นะเอาจริงๆ 555 แบบว่าชั้นจนได้ แต่เธอรวยไม่ได้ !!!! อันนี้เป็น hr แต่ก็เข้าใจนะว่าเงินเดือนไม่เคยเป็นความลับได้เลย แต่ที่ไม่เข้าใจคือตอนที่เราอธิบายว่าอะไรเป็นยังไงกลับไม่เชื่อ แต่พอมีเพื่อนร่วมงานโกหกว่าได้เงินเดือนเยอะกลับเชื่อ โอ้ยยย อันนี้ปวดหัวสุด โดยเฉพาะคนที่ลาออกไปแล้ว กลับมาปั่นหัวคนที่ยังอยู่ 555 เข้าใจมั้ยว่ากำลังโดนหลอกหนะ เพราะฉะนั้นอย่ารู้ของคนอื่นเลย สนใจว่าจะทำยังไงให้ตัวเองได้เงินให้คุ้มกับผลงานจะดีกว่านะ

• เราไม่ควรรับรู้และอินกับความรู้สึกของคนอื่นมากเกินไป เชื่อซิว่าการไม่มีเรื่องอ่ะดีที่สุดแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าตัวเองสบายดีอยู่แล้วก็กรุณาอย่าไปยกเอาทุกข์ของคนอื่นมาแบกเลยค่ะ นี่ไม่ได้บอกให้ไม่สนใจคนอื่นนะ แต่จะบอกว่าสนใจได้แต่อย่าอินจนเกินไป เราไม่มีทางเป็นที่ปรึกษาที่ดีได้ด้วยการเอาตัวเองไปจมอยู่กับปัญหาร่วมกับเพื่อนหรอกนะ เพราะเค้าทุกข์อยู่ไง จึงยังไม่เห็นวิธีแก้ปัญหา ถ้าเค้ามาปรึกษาเรา ก็ควรฟังอย่างตั้งใจและเข้าใจเพื่อให้คำแนะนำแต่อย่าเก็บเอาอารมณ์เหล่านั้นกลับมาด้วยเด็ดขาดเด้ออออ

• เราไม่ได้ทำงานกันได้ดีมากขึ้นจากการรู้เรื่องส่วนตัวคนอื่นมากขึ้น ในฐานะเพื่อนร่วมงาน เรารู้จักกันแค่พอประมาณ แต่เนี่ยะ บางคนนะ พยายามจะรู้ จะพูดเรื่องส่วนตัวของเพื่อนร่วมงานเพื่อแสดงว่าเราสนิทกัน #มันผิดเข้าใจมั้ยยยย มันน่าอึดอัดใจมากเลยนะโดยเฉพาะถ้าเราเป็นคนที่ไม่ได้อยากเปิดเผยบางเรื่อง ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของเรา บางคนรู้สึกชนะที่ได้รู้ว่าใครเป็นเกย์ บางคนคิดว่าตัวเองเป็นเพื่อนที่ดีที่รู้ว่าเพื่อนเพิ่งเลิกกับแฟน บางคนคิดว่าจำเป็นที่ต้องรู้ว่าเพื่อนมีหนี้สินเท่าไหร่ 555 เนี่ยะ แล้วที่ตลกคือคนพวกเนี่ยะไม่เคยคิดว่าตัวเองผิดเลยนะที่ได้พูดเรื่องส่วนตัวคนอื่น #เพลีย

• เราจะปลอดภัยถ้าไม่รู้ว่าใครทะเลาะกับใคร อันนี้จริงสุด จงลอยตัวเหนือปัญหาไปเลยจ้าาาาาา แต่ถ้าบังเอิญได้รู้ ก็จงอย่าไปแสดงความคิดเห็นว่าใครถูกใครผิดเด็ดขาด (ถ้าไม่ใช่หน้าที่ของเราอ่ะนะ) เพราะทันทีที่ทำไป เราจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการทะเลาะกันนั้นทันที แล้วถ้าเราเลือกข้างไปแล้วและวันนึงเค้ากลับมาดีกันนั้นนนนนน #หมาเลยแหละทีนี้ #เชื่อพี่ #พี่เห็นมาเยอะ เชื่อเถอะว่าเรื่องคนทะเลาะกันนะ ยิ่งไม่รู้ ยิ่งปลอดภัยจริงๆค่ะ 

ควรเอาเวลาไปสนใจเรื่องที่ควรจะรู้ดีกว่านะ เช่นจะทำงานยังไงให้เจ้านายเห็นว่าเราสำคัญ จะทำยังไงให้เก่งขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบันที่การสื่อสารมีหลายช่องทางมาก มากจนมีข้อมูลเยอะเลยที่ไม่จำเป็นต้องรู้ แต่สามารถเข้าถึงตัวเราได้ง่ายๆ 

ก็จริงที่ความสามารถในการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ มีความสำคัญมาก แต่ถ้าเรากรองได้ตั้งแต่ต้นว่าอะไรที่ไม่จำเป็น ก็คงไม่ต้องมาเสียเวลาแยกแยะอ่ะเนอะ

และอีกเรื่องที่สำคัญก็คือ เราควรจะรู้หน้าที่ของตัวเองว่าเราถูกจ้างมาเพื่อทำอะไร แล้วจะต้องทำอะไรอีกเพื่อให้เราเติบโตก้าวหน้าต่อไปได้

ถ้าเวลาเหลือ แล้วไม่รู้ว่าจะทำอะไร แนะนำว่าให้กลับไปนอนค่ะ เพราะเมื่อโตขึ้น ความรับผิดชอบมากขึ้นไม่มีอะไรมีความสุขไปกว่าการมีเงินไว้ใช้และการได้นอนหลับสนิทเต็มอิ่มอีกแล้วค่ะ

จงเลือกที่จะฟัง

เพราะไม่ใช่ทุกคำพูด ทุกความคิดเห็นที่จะเป็นประโยชน์ในการทำงานของเรา

- ไม่มีทางที่ใครจะรู้จักเราได้ดีพอ เค้าอาจจะเห็นผลงานเรา เห็นวิธีการทำงานเราแค่บางมุม ซึ่งคนเหล่านั้นก็อาจจะไม่ได้เข้าใจว่าเราทำแบบนั้นไปทำไม

- ไม่มีใครที่เก่งพอที่จะตัดสินทุกอย่างได้หรอก

- ไม่ใช่ทุกคำแนะนำที่จะทำให้เรามีกำลังใจเพิ่มขึ้น

ไม่ได้บอกว่าไม่ต้องฟังใครนะ เราก็ไม่ได้เก่งขนาดที่จะประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องรับฟังคำแนะนำจากใคร แต่เราต้องเลือกว่าคนแบบไหนที่จะเป็นพลังด้านบวกให้กับเรา #ชีวิตคือการเลือกอ่ะเนอะ

ที่ต้องระวังให้มากๆก็เพราะในทุกๆออฟฟิศจะมีคนประเภทนึงที่จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดคนคิดลบ พูดลบให้เข้ามารวมกลุ่มกัน ซึ่งก็เป็นความท้าทายของเรามากๆ ที่จะเอาตัวเองให้ออกห่างจากคนแบบนี้ให้ได้ 

หลายครั้งที่องค์กรต้องเสียพนักงานที่เคยมีทัศนคติดีๆไปเพราะเมื่อมีปัญหาในการทำงาน กลับเลือกที่จะไปปรึกษาเพื่อนร่วมงานที่เป็น #เพื่อนไม่จริง ที่คอยใส่ข้อความลบๆ เพื่อหาพวกให้ตัวเอง ว่าไม่ใช่แค่เราคนเดียวนะที่คิดว่าที่นี่มันมีปัญหา ใครๆก็ทำไม่ได้หรอก ไม่ใช่แค่เรา

จะรอดได้ยังไง ถ้ารอบตัวมีแต่คนแบบนี้ ??? เราก็ต้องมีสติแยกแยะให้ได้ว่าเรื่องไหนคือเรื่องจริง เรื่องไหนคืออารมณ์ที่ถูกใส่เติมเข้ามา เรามาทำงานเพื่อเป้าหมายอะไร และคนที่คิดลบ พูดแต่เรื่องไม่ดี น้อยมากที่จะมีความสุขและประสบความสำเร็จในการทำงาน

แน่นอนว่าทุกคนก็มีโอกาสพบเจอกับอุปสรรคในการทำงานกันได้ แต่อยู่ที่ว่าเราเลือกจะคุยกับใคร ฟังใคร กับเพื่อนที่ดี ซึ่งก็คือคนที่จะช่วยให้เราเอาชนะอุปสรรคต่างๆและมีชีวิตที่ดี หรือจะเลือกเพื่อนไม่จริง ที่จะพาให้เรากลายเป็นคนลบๆไปด้วย

ทั้งหมดก็อยู่ที่เราจะเลือกแหละค่ะ เพราะอย่างไรก็ตาม ชีวิตของเราก็จะเป็นไปตามที่เราเลือก ทั้งการเลือกที่จะรู้ หรือการเลือกที่จะไม่รับรู้ก็ตาม

#รักนะคะ

#เจ้าหญิงแห่งวงการHR

ความเห็น 8
  • Marlod
    จะบอกว่า "อยู่ให้เป็น" ว่างั้น...
    23 ม.ค. 2563 เวลา 10.51 น.
  • Tor
    จริงๆไม่มีอะไรเลย แยกระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้ออกก็พอ ถ้าทุกคนไม่เอามาปนกันมันก็จบ
    23 ม.ค. 2563 เวลา 11.03 น.
  • เอาเฉพาะเรื่องตัวเอง จะแก้ปัญหายังงัย ก็หนักแล้ว คนอื่นเขาก็เจอคล้ายๆเราแหล่ะ บางคนหนักกว่าเราอีก แต่เขาทำมัยใช้ชีวิตอยู่ได้ สืบปัญหาในใจตัวเองลึกๆ เอ๊ะเรากำลังทุกข์อยู่ เราเคลียดจัง น้ำเปล่าสักแก้ว เดินรับลมนอกบ้าน แค่นี้ก็คลายทุกข์แล้ว ค่อยๆกลับมาแก้ปัญหาใหม่ ให้ตัวเองทีละปม จะได้ไม่หนักมาก
    23 ม.ค. 2563 เวลา 11.35 น.
  • ขอยืมโพสต์ " เราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องหนักกบาล คนเรามักชอบจำสิ่งทำให้สิ่งที่ใจเศร้าหมองหรือเป็นทุกข์ สิ่งดีๆไม่ค่อยจำ และวัดความรู้ ความสามารถคนไม่ได้ ว่าใครฉลาดมากหรือน้อย ความรู้เก่า หรือ ความรู้ใหม่ที่พึ่งค้นพบ บางเรื่องมันเป็นอาจิณไตย หาจุดสิ้นสุดไม่ได้ รู้มากอาจเป็นบ้าได้ รู้แล้วก็วางซะ อย่าจำจด ไม่งั้นอาจกลายเป็นคนสติฟั่นเฟื่อน
    23 ม.ค. 2563 เวลา 11.26 น.
  • กีรติยานุวัฒน์
    เป็น HR ที่ดีไม่ง่ายนะจ้ะ ยิ่งเจอบริษัทมาตรฐานอ่อนๆ ยิ่งต้องปรับตัวสูงมากๆ
    23 ม.ค. 2563 เวลา 11.34 น.
ดูทั้งหมด