อายุษ ประทีป ณ ถลาง เรื่อง
ภาพิมล หล่อตระกูล ภาพประกอบ
ใครได้ติดตามรับชมการถ่ายทอดสดพิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหาร-ตำรวจ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 และวันกองทัพไทย เมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา อาจจะมีความรู้สึกเช่นเดียวกับเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ว่าเป๊ะและอลังการ
ขนลุกกับคำถวายสัตย์ปฏิญาณที่ว่า
“ข้าพระพุทธเจ้าจักยอมตาย เพื่อเทิดทูนและรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า
ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดี และถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ตราบชีวิตจะหาไม่
ข้าพระพุทธเจ้าจะพิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ข้าพระพุทธเจ้าจะดูแลช่วยเหลือ เป็นที่พึ่งของประชาชน และจะปกครองดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความยุติธรรม
ข้าพระพุทธเจ้าจะตั้งมั่นอยู่ศีลธรรมของศาสนาและจริยธรรม
ข้าพระพุทธเจ้าจะรักษาคำถวายสัตย์ปฏิญาณนี้ ด้วยเกียรติยศและเกียรติศักดิ์ของทหารและตำรวจ ทั้งจะปฏิบัติตนปฏิบัติภารกิจให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททุกประการตลอดไป"
แต่ก็ดังเช่นสุภาษิตสองคนยลตามช่อง ภาพเดียวกันกลับทำให้อีกหลายคนเห็นแล้ว เข้าใจได้ถึงสภาพการณ์ความเป็นไปของบ้านเมืองว่า เหตุใดทำไมวัฏจักรการเมืองการปกครองประเทศนี้ จึงตกอยู่ในวังวนวงจรของการทำรัฐประหารโดยกองทัพ ฉีกรัฐธรรมนูญล้มรัฐบาลพลเรือน ร่างรัฐธรรมนูญ เลือกตั้ง แล้วก็รัฐประหารอยู่ร่ำไป โดยยากที่จะเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ เนื่องเพราะกองทัพหรือทหารไม่ได้มีพันธะผูกพันอะไรเลยที่จะต้องธำรงรักษาพิทักษ์ไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญที่ประชาชนคนทั้งประเทศยึดถือเป็นกฎหมายสูงสุด
ไม่แปลกใจอะไรด้วยที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งสืบทอดอำนาจมาจากการทำรัฐประหารเมื่อปี พ.ศ. 2557 จะพูดจาด้วยความมั่นอกมั่นใจ มิได้ละอายปากกระดากอายว่า "อย่าเพิ่งเบื่อผมก็แล้วกัน ยังไงผมก็อยู่อีกนานพอสมควร"
ปีพุทธศักราช 2563 ผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนแล้วโดยไม่มีวี่แววของแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ให้เห็นแม้แต่น้อยเลยว่า ประเทศชาติบ้านเมืองของเราจะหลุดพ้นจากความเสื่อมโทรมทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมที่รุมเร้าได้อย่างไร ภายใต้ระบอบปกครองและโครงสร้างอำนาจปัจจุบันที่เป็นอยู่
แต่ก็ต้องอดทนกันต่อไป
คำมั่นสัญญาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ว่า" ปี 2563 นี้ผมจะมุ่งมั่นเดินหน้าแก้ไขปัญหาต่างๆ และสร้างสิ่งใหม่ๆ สัญญาจะทำทุกชั่วโมงในทุกวันให้มีค่ามากที่สุด ผมจะไม่หยุดทำเพื่อชาติและประชาชน ตราบเท่าที่มีแรงกายและแรงใจ" นั่นนะหรือ
ประทานโทษเถอะ ได้ยินได้ฟังแล้วให้รู้สึกสยดสยองยิ่งไปกว่าจะก่อให้เกิดความหวังใดๆ ตามมาจากการปวารณาตนดังกล่าว
ชั่วโมงนี้ นาทีนี้ ผู้คนต่างปรารถนาต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ๆ ที่ดีกว่า ซึ่งหากพล.อ.ประยุทธ์จะบอกกับประชาชนคนทั้งประเทศว่า ไม่เอาแล้ว จะหยุดทำเพื่อชาติและประชาชน ไม่ขออยู่เป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป ก็คงไม่มีใครว่า
ในทางตรงกันข้าม น่าจะมีแต่เสียงอนุโมทนาสาธุการ สร้างความหวังให้กับประชาชนคนทั้งประเทศว่านับแต่นี้ต่อไป อะไรต่อมิอะไรจะดีขึ้น หรืออย่างน้อยที่สุดคงไม่มีสิ่งใดแย่ไปกว่านี้อีกแล้วเป็นแน่แท้
ไม่ใช่ปีก่อนเป็นอย่างไร ปีใหม่ผ่านมาก็ยังเป็นอย่างนั้น
มิพักดูอื่นไกล เอาแค่ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนที่เป็นเสมือนฆาตกรผ่อนส่ง บ่อนทำลายคุณภาพชีวิตประชาชนคนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตลอดจนหัวเมืองใหญ่ ปีที่แล้วเป็นอย่างไร ปีนี้ก็ยังคงเป็นอย่างนั้นเหมือนเดิมทุกประการ
ปีก่อนตั้งท่าขึงขังจะทำโน่นทำนี่ แต่พอสภาพอากาศเปลี่ยนไปก็เลิกลา ปีใหม่มาพร้อมกับปัญหาเดิมๆ โดยปราศจากมาตรการจัดการปัญหาที่จริงจัง และมีความเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเพียงพอ
ใครวิพากษ์วิจารณ์ว่าล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ยัดข้อหา "ชังชาติ" ขึ้นมาปิดปาก ก็เป็นต้องเรียกร้องขอข้อเสนอแนวทางแก้ปัญหาด้วย โดยไม่รู้ว่าเป็นหน้าที่ของใครกันแน่
อ้างเงื่อนไขข้อจำกัดมากมายไม่เหมือนตอนกระสันอยากจะมีอำนาจวาสนาที่คิดว่าเป็นทหารเสียอย่างจะแก้ปัญหาอะไรคงทำได้ง่ายดายเหมือนสั่งซ้ายหันขวาหัน
ลูกหลานยุวชนคนรุ่นหลัง หนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ฟากตรงกันข้ามกับอำนาจรัฐจัดกิจกรรม "วิ่งไล่ลุง" ขึ้นที่สวนรถไฟ จตุจักร อีกฝ่ายหนึ่งซึ่งอยู่ในวัยหนุ่มใหญ่สาวใหญ่ คุณลุงคุณป้า คนรุ่นเก่าที่สนับสนุนรัฐบาลก็ใช้สวนลุมพินีจัดกิจกรรม "เดินเชียร์ลุง" ในวันเวลาเดียวกัน
ขยิบตาปล่อยให้มีการปลุกปั่นประชาชนออกมาเผชิญหน้ากันเอง แต่กลับมาพูดเอาหล่อ อ้างว่าไม่อยากให้ประชาชนแบ่งแยกเป็นสองฝ่าย แยกชนชั้น แยกเจเนอเรชัน คนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่า ไม่เห็นเกิดอะไรดีกับบ้านเมือง ฝ่ายความมั่นคงจะทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง ไม่ว่าฝั่งเชียร์ ฝั่งไล่ อะไรที่ทำให้เกิดสถานการณ์ที่รุนแรงเหมือนในอดีตก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก
และถึงแม้ว่ากิจกรรม "วิ่งไล่ลุง" จะมิได้ส่งผลสะเทือนอย่างเป็นรูปธรรมต่อเสถียรภาพความมั่นคงของรัฐบาลในระบอบกึ่งเผด็จการโดยกองทัพกึ่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์
เพราะเอาเข้าจริงเนื้อหาของภาพยนตร์ที่ลงโรงไม่ได้เหมือนกับหนังตัวอย่างบนสกายวอร์ค มิได้ใกล้เคียง หรือละม้ายคล้ายเหมือนกับฮ่องกงโมเดลที่เพ้อฝันกันแม้แต่น้อย
เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็น จะวิ่งก็ไม่ใช่ จะไล่ก็ไม่เชิง เป็นม็อบเพื่อสุขภาพ หรือเป็นการเคลื่อนไหวทำการตลาดทางการเมืองเสียมากกว่า เขาให้ไปทำกิจกรรมในสวนสาธารณะ สถานที่ปิดมีรั้วรอบขอบชิดก็ยอม แถมยังไปนับญาติเรียกเป็นลุงอีกต่างหาก
กระนั้นก็ตาม ข่าวคราวกิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่ปรากฏ ทำให้ผู้คนในบ้านนี้เมืองนี้ ได้ฉุกคิดทบทวนถึงผลงานการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ปรากฏให้เห็นถึงอารมณ์ความรู้สึกของประชาชน กระแสความเบื่อหน่าย เอือมระอาที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แผ่กระจายขยายตัวออกไปแทบทุกหมู่เหล่า ไม่เฉพาะฝ่ายค้านหรือพรรคอนาคตใหม่เท่านั้น
จะไม่เบื่อได้อย่างไร เพราะแม้จะเพิ่งเข้าบริหารราชการแผ่นดินในนามของรัฐบาลซึ่งอ้างว่ามาจากการเลือกตั้งเพียงแค่ 5-6 เดือนก็จริง แต่หากย้อนไปถึงรัฐประหารเมื่อกลางปี พ.ศ. 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กุมอำนาจรัฐยาวนานมาเกือบ 6 ปีเต็ม
เป็นเวลาเกือบหกปีแล้ว ที่ชาวบ้านราษฎรต้องทนฟังทั่นผู้นำจุดเดือดต่ำสำรอกตะคอกใส่ หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องอวดภูมิรู้ จริงบ้างเท็จบ้างอยู่เป็นประจำ ทำราวกับตัวเองพหูสูตรอบรู้ไปทุกเรื่อง แก้ต่างแก้ตัวสารพัด
เกือบหกปีที่สังคมไทยต้องเผชิญกับความเสื่อมถอยในแทบทุกด้าน ยกเว้นการทหาร โดยเฉพาะด้านการเมืองการปกครองด้วยแล้ว อ้างปฏิรูป แต่ปู้ยี่ปู้ยำจนกลายเป็นประเทศกึ่งเผด็จการทหารกึ่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ย้อนกลับไปใกล้ปี 2475 ทุกขณะ
เกือบจะหกปีเต็มที่ผู้ปกครองย่ามใจทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจของตัวเอง ใช้กฎหมาย กลไกรัฐคุกคาม เล่นงานฝ่ายตรงกันข้าม หรือผู้คนซึ่งคิดแตกต่างไปจากตัวเองโดยไม่คำนึงถึงเหตุผล ความถูกต้องชอบธรรมใดๆ ทั้งสิ้น
เกือบหกปีที่ประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศต้องผจญกับความลำบากยากจนจากภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง สวนทางกับความร่ำรวยมั่งคั่งของอภิมหาเศรษฐี เจ้าสัวไม่กี่ตระกูล และกลุ่มชนชั้นนำที่อยู่ดีมีสุขกับระบอบปกครองซึ่งไม่เป็นประชาธิปไตย
ประทานโทษอีกที ถ้าไม่มีกองทัพค้ำยัน คอยคุ้มกะลาหัว ผู้คนคงออกมาอัปเปหิขับไล่ไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้ลอยหน้าลอยตาเย้ยหยันชาวบ้านราษฎรอยู่อย่างนี้หรอก
อนาคตใหม่คงไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ระบบรัฐสภา หรือการทำกิจกรรมการตลาดทางการเมืองอย่างแน่นอน
แต่ขึ้นอยู่กับว่าประชาชนคนไทยจะอดทนต่อไปได้นานเพียงใดเท่านั้นเอง
boonlert_PB เบื่อการเมืองทั้งหมดเลยตอนนี้..ไม่มีใครที่คิดจะมาช่วยประชาชนจริงๆเลย..มีแต่เห็นแก่ตัว..น่าเบื่อมากๆ
27 ม.ค. 2563 เวลา 21.27 น.
Ballbk พวกมึงกัดกันเองเหมือนหมา แต่หน้าด้านเอาประชาชนมาอ้าง อ้างเอามาเข้าข้างพวกตัวเอง
27 ม.ค. 2563 เวลา 21.27 น.
โบกี้ ไม่ไช่เบื่อธรรมดาแต่โคตรๆๆๆๆเบื่อ
27 ม.ค. 2563 เวลา 22.34 น.
siam คิดว่ามันจะอายมั้ยล่ะ
27 ม.ค. 2563 เวลา 19.14 น.
" อย่าเพิ่งเบื่อผม ผมยังสูบไม่พอ พ่อเจ้าสัวผมยังไม่อิ่ม " ... เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาสูบ 20 ปี ไดโนเสาร์ ตายยาก หนังหนา กินจุ แต่โง่
27 ม.ค. 2563 เวลา 20.56 น.
ดูทั้งหมด